ผู้เขียน หัวข้อ: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"  (อ่าน 49383 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« เมื่อ: มกราคม 12, 2013, 11:51:51 PM »
โมโกจู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า เหมือนกับฝนจะตก
ตามรอย Navigator
ทริปมีจุดเริ่มต้นมาจากราย  “Navigator” ของ (ติ๊ก เจษฎาพร)  ที่มีโอกาสได้ดูผ่านรายการ เป็นการเดินป่าระยะไกล ของอุทยานฯแม่วงก์ เมื่อปี 53 จนเริ่ม ค้นหาขอมูลเกี่ยวกับยอดเขาโมโกจู มาพร้อมกับความตั้งใจจะไปเยือน และพิชิตยอดเขานี้ให้ได้ สักครั้ง แต่ก็ต้องเป็นอันเลื่อนออกไปเพราะ เวลาไม่ตรงกับทางอุทยานฯ ที่จะอนุญาตให้เข้าไปเดินป่าที่นั้น จนครั้นมาถึงปี 54 ก็ต้องเลื่อนออกไปอีกครั้ง เมื่อเจอกับอุทกภัยน้ำท่วมกรุง ทั้งๆรวบรวมสมาชิกได้หลายท่านแล้ว   แต่เมื่อเข้าปี 55 ครั้งนี้ความตั้งใจยังไม่จางหายไปจากจิตต์ที่ตั้งใจจะไปพิชิตยอดเขานี้ให้ได้ เริ่มตั้งกลุ่มชักชวนสมาชิกหาพลพรรคอีกครั้ง ที่ตามหาปลายฝันเดียวกัน  ที่บนยอดเขา”โมโกจู”
เริ่มจากวันที่ 18 ตุลาคม 55  เริ่มหาสมาชิก รวมพลได้ 12 ท่านตามจำนวนที่ต้องการ
ต้น /แจ๊ค/โน้ต/ผึ้ง/พี่พจน์/อิ๋ว+เพื่อน /พี่แก้ว/คุณเกษ+เพื่อน/เล็ก/พี่นิสิต
โดยที่คุณต้น  เป็นผู้รวบรวม รายชื่อและวันเดินทางส่งไปให้ทาง อุทยานฯ จนเวลาพ้นผ่านไปเรื่อยๆ สมาชิกเริ่มถอนตัวด้วยเหตุอันไม่พร้อมหลายๆประการ เหลือเพียง 9 ท่าน  (ต้น /แจ๊ค/โน้ต/ผึ้ง/พี่พจน์/อิ๋ว /พี่แก้ว/เล็ก/พี่นิสิต) รอเวลาเดินทางไปพบกับระยะทางที่ต้องเจอเบื้องหน้าที่งดงาม อย่างเดียวเท่านั้น

เริ่มต้นการเดินทางตามรอย Navigator กันเลยดีกว่าครับ (ป่ะไปเที่ยวกับพวกเราพร้อมๆ กัน) การเดินทางของเรานัดเจอกันเวลา 21.00 น. เพื่อซื้อเสบียงกัน เล็กน้อย  แล้วก็เริ่มเคลื่นอพลออกเดินทาง 22.00 น.  ไปรับผู้ร่วมตามฝันอีกกลุ่ม ที่อยุธยา   โดยเราออกเดินทางตามทางหลวงหมายเลขที่ 32 และหมายเลข 1 มุ่งหน้าสู่ จ.นครสวรรค์  แวะพักรถกันสักครู่ ก่อนเดินกันต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่นัดแนะสมาชิกอีก 2 ท่านที่จะมาสมทบกันที่ ตลาดคลองลาน  ครั้นเวลาล่วงเลยไป ก็มาถึงตลาดคลองลานเวลาประมาณ ตี 3 ดังที่ตั้งใจไว้   ก้าวเท้าเดินชมตลาด แวะซื้อของสด ผัก/เนื้อสัตว์/ของแห้ง  ที่ตลาด แต่เราคงจะไปถึงที่นั้นเช้ารุ่งเกินไป ตะวันยังไม่ทันเบิกฟ้า พระจันทร์ ยังไมทันลาค่ำราตรีไป  แม่ค้าคนขาย ไม่มาขายของ  ไม่ค่อย มีเนื้อสัตว์ เท่าไหร่ เลยเน้นไปที่ผักสดแทน แถม โชคชะตาร้ายอีกครั้งเมื่อ  ที่วันนั้นแม่ค้าข้าวเหนียวหมูปิ้งไม่มานึ่งข้าวเหนียว ย่างหมู ให้ควันฟุ้ง บนเตา  เพราะไปทำบุญ  พวกเราเลยไม่มีอาหารเช้าทานกัน และอาหารกลางวันที่ต้องเตรียมไปทานระหว่างทางช่วงที่จะต้องเดินเท้า เช้าวันรุ่ง   ไม่มีอาหารติดมืออกมา เลยต้องวัดดวงกันครับ  ไปลุ้นกันที่ ที่ทำการอุทยานฯ ว่าร้านค้าจะเปิดหรือไม่ ดูอะไรๆก็ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ ทริปนี้ สมาชิกอีกท่านก็มาถอนตัว จนวินาทีสุดท้าย ก่อนเข้าอุทยานฯ เพื่อตามรอยฝันที่ตั้งใจ  เพราะรถเสียไม่สามารถมาสมทบได้  แต่การเดินทางของเราก็ต้องมุ่งหน้ากันต่อไป เดินทางเข้าอุทยานฯแม่วงก์กันเลยครับ ถึงอุทยานก็เอนกายนอนพักเก็บแรงกาย ในรถเพื่อการเดินเท้าในยามเช้าที่กำลังจะถึงเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมง   
รุ่งเช้า วันแรกของการเดินทาง ตะวันขึ้นแล้วแสงทอดผ่านม่านตา สะดุ้งตื่น  เวลา 7.00 น.  ได้ยินเสียงแว้วก้อง ของพี่เจ้าหน้าที่อุทยาน เดินมาสนทนาสอบถาม แนะนำการเดินป่าวันนี้ก่อนจะร่วมพล แล้ว ก็ลุ้นกันครับว่าร้านอาหารที่อุทยานจะเปิดหรือเปล่า  ทันใดนั้น น้องผึ้ง เห็นร้านเปิดพลั่นรีบเดินไปสั่ง อาหารเช้ารองท้อง และ อาหารกลางวันให้เสร็จทันตามตามกระบวนการณ์  ก่อนที่ทางอุทยานจะให้ทางเจ้าหน้าที่ จับฉลากเลือกกลุ่มผู้เดินทาง และลูกหาบ จากนั้นพี่ลูกหาบก็จัดแจงแยกเสบี่ยง อาหาร สิ่งของที่จำเป็น แบกขึ้นหลังเพื่อปะทังชีวิตทั้งหมดใน เวลา 5 วันให้กับเรา (ขอบคุณครับ พี่ๆลูกหาบ และ พี่ๆเจ้าหน้าที่ )
ถึงอะไรจะดูไม่ค่อยพร้อมสักเท่าไหร่  แต่ก็ยังโชคดีที่เราได้ จนท.พี่อาทิตย์ แสงจันทร์  / พี่ช้าง และคณะลูกหาบ  อีก 3 ท่าน พี่ฮอท พี่สาม พี่เอ   ที่สุดแสนจะดี ร่วมกับเราในทริปนี้ 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 11, 2013, 03:05:37 PM โดย Puripatt »

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 12:00:42 AM »
ได้เวลาออกเดินก้าวแรกสัมผัสผืนป่าแม่วงก์กันแล้ว ณ. เวลา 09.00 น. พวกเราออกเดินทางเป็นกลุ่ม สุดท้าย แต่ก็ไม่หวั่น ที่จะก้าวไปตามทางเพื่อวัดใจกันด้วยระยทาง 16 กม. แรก กับเวลาเดินประมาณ 5 ชม. แคมป์แรกที่คลองแม่กระสา เดินผ่านทางชันเล็กใหญ่ ไปจนกระทั้ง เจอมอขี้แตกที่ เป็นเนินสูงชันอันยาวไกล ที่จะวัดกำลังกาย แรงใจ ของผู้จะตามฝัน มุ่งมั่นที่จะพิชิตยอด”เขาโมโกจู” นี้  ว่าจะอึด ถึก ทน แกร่ง กันแค่ไหน  พลพรรคของเราผ่านไปได้ด้วยดีทุกท่าน ถึงจะก้าวช้าบ้างเร็วบ้าง แล้วแต่กำลังของแต่ละคน  จากที่ออกเดินทางเป็นกลุ่มสุดท้าย พ้นจากมอขี้แตกก็เดินสบาย เริ่มที่จะแซงกลุ่มอื่น  แล้วแตกกลุ่มออก เป็นกลุ่มเล็กน้อยกลุ่มใหญ่ เหลือเพียงเราคนเดียวเดินไปเรื่อย จนผ่านลำธาร ห้วยเล็กไป สัก 8-10  ห้วย น้ำลึกบ้าง ตื้นบ้าง เดินไปเแนวป่าไผ่ ต้นยางนา ตามลายทางสองข้างเป็นเงาบังแสงแดด ให้เดินอย่างไม่ร้อนกาย  เดินไปอย่างสบายกาย พบเจอพี่ๆลูกหาบ นั่งพักกายตามลำธาร  ก้ยิ้มทักทายไป  เดินก้าวซ้ายที ขวาที เดี๋วก็ถึง พี่เจ้าหน้าที่ ที่เดินมาสมทบภายหลังแล้วก็เดินไปพร้อมกัน จนเริ่มรู้สึกว่าเหนื่อยแล้ว บ่นไปตามทาง ว่าเมื่อไหร่จะถึงสักที่ 555 พี่เจ้าหน้าที ก็ลอกล้อว่าอีกแป๊บๆๆ(เสียงยาวมาก) รู้เลยว่าอีกไกล 555  เดินต่อไปซิครับ เริ่มเดินเลาะตามแนวป่าหาทางลัด เพื่อลดระยะเส้นทางเดิน  จนพบกลุ่มผู้ตามฝัน นั่งกินข้าวเที่ยงกันอยู่ หยุดวางสัมภาระบนหลัง พักกินข้าวเที่ยงกันครับ แล้วนั่งพักครู่ใหญ่ เพื่อดึงพลังข้าวเที่ยงออกมาให้ส่งไปหาเท้าเพื่อเดินต่อไปจนกว่าจะถึงแคมป์แรก   เอาๆได้เวลาท้าทายใจตัวเองอีกครั้ง แบกเป้ขึ้นหลังได้เวลาเดินกันอีกแล้ว  เดินๆๆๆ ไปกันสามคนครับครานี้ น้องแจ๊ค +น้องผึ้ง ร่วมทางกันไปเรื่อยๆ หยุดพักเป็นระยะๆ  จนเจอพี่ลูกหาบของเรา เปล่งเสียงออกมาบอกข้างหน้ามีเส้นทางลัด ทางซ้ายมือ โอเครครับพี่  เราก็มองหาทางลัดซิครับ เดินสักนิดเจอแล้วทางลัดรีบเดินไปตามทาง เมื่อเจอถึงกับร้องโอ้วออกมากันเลย ทางลงไม่เท่าไหร่ แต่ทางขึ้นนี่ซิ ชันอีกแล้ว แต่ก็ไม่หยุดเดินนะครับ ลุยๆ ต่อ ผ่านๆไปได้สบาย (หายใจเร็ว ตอนเดินขึ้นเนิน  เหนื่อย 555) เดินต่อไปเรื่อยผ่านโค้ง ทางชัน ลำธาร แนวป่า จนเริ่มได้ยินเสียงน้ำ แสดงว่าใกล้ถึงแล้ว แคมป์แรกที่จะพักกายคืนนี้  ช่วงใกล้ถึงแคมป์ แรกนี้สนุกมากครับ ได้วิ่งแข่งกับพี่ลูกหาบ 1 ท่าน (พี่ฮอท) เห็นพี่เขาบอกว่าพ้นเนินนี่ไปก็ถึงแคมป์แล้ว แล้วพี่ๆลูกหาบก็วิ่งแข่งกัน ผมเลยเอามั่ง วิ่งตามไปครึ่งเนินหมดแรง 555 ไหนๆ บอกว่าพ้นเนินแล้วเจอแคมป์ไง ไม่เห็นมีเลย 55 ที่จริงป่าววิ่งแข่งกับเราหรอกครับ เขาวิ่งแข่งกันเองเพื่องไปให้ถึงกระท่อม หลังแรกก่อน 555 ผมก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนถึงแคมป์แรก  เวลาประมาณ บ่าย 3 โมง ครับ ถึงแล้วก็จัดแจงกางเต็นท์ ทั้งหมด แล้วเปลี่ยนชุดลงเล่นน้ำที่คลองแม่กระสา แช่เท้า คลายเส้น กับน้ำเย็น กันสบายไปเลยครับ จนเริ่มหนาว ไม่ไหวแล้วขึ้นจากน้ำปรับเปลี่ยนเสื้อผ้า จัดเตรียมอาหารเย็นเพื่อรอ เพื่อนสมาชิกที่กำลังจะมาถึง  สักพักเพื่อนสมาชิกก็เริ่มถยอยตามมาเป็นระยะ  18.00 น. ได้เวลาอาหารเย็น เมนูก็มี ไข่เขียวแหนม /ผัดผักกูด/ยำกุนเชียง อร่อยๆ ถึงจะเป็นกับข้าวพื้นๆ   เมื่ออิ่มท้องก็เริ่มบทสนทนาเพื่อกระชับความสัมพันธ์  ของเพื่อนสมาฃิก คุยสัพเหระ ไปเรื่อยเปื่อย จนพี่อาทิตย์ เจ้าหน้าที่  เริ่มมากับบทสนทนาที่น่าสนใจ สมาชิกอีกหลายท่าน ทนไม่ไหวจนต้องมานั่งล้มวงฟังกันอย่างตั้งใจ ตั้งแต่ประสปการณ์ชีวิต  ประสปการณ์การเดินป่าของพี่เขา  เล่ามาเรื่อยๆชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะเริ่มน่าฟังต่อหรือไม่เพราะเริ่มจะโจ๊กขึ้นเรื่อยๆๆๆ 555 คงนึกออกนะครับ ว่ามันฮาเรื่อยๆ  เพราะแต่ละเรื่องที่พี่เขาเล่ามันฮาจริง อย่างเรื่องพ่อตากับลูกเขย พี่แก่เล่าตั้งแต่วันแรกจนวันเดินทางกลับ ได้ทุกวัน 555 ยาวไปๆๆๆ  สนุกดีครับเรื่องแต่ละเรื่องที่เล่ามา ได้เวลานอนแล้วครับ พรุ้งนี้จะต้องเดินกันอีกแล้วกับการไปพักอีกแคมป์ที่แม่รีวา  แยกย้ายกันเข้านอนครับ แต่มีเรื่องที่น่าตื่นเต้น ช่วงเวลาประมาณ ตี 3 ครับ ผมสะดุ้งตื่นเห็นกองไฟรุกสว่าง ขึ้นมาพร้อมกับเสียงกึกกัก พักใหญ่ แว้วได้ยิน ทักว่ากินข้าวกัน  ฟังอยู่นาน จับใจความได้ประมาณหนึ่ง แล้วก็เผลอหลับไป แต่สุดท้ายก็มาเฉลยตอนเช้านี้เองว่าพี่อาทิตย์ของเราลุกขึ้นมากินข้าวนี่เอง ตอนตี 3 คงเหนื่อยจากเมื่อคืนนี้ ที่เล่าเรื่องสนุกๆ จนเหนื่อย (555)

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 12:03:38 AM »
 :o :o

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 12:05:53 AM »
 :D :-*

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 12:08:15 AM »
 :D ;D :o

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 12:11:33 AM »
อาหารเย็นมือแรก ที่แคมป์แม่กระสา

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 12:55:58 AM »
เช้าวันที่ 2 ของการเดินทาง  สมาชิกหลายๆท่านตื่นกันแต่เช้าครับ มาสัมผัสอากาศเย็นฉ่ำ พร้อมกับการจิบกาแฟอุ่นๆ ในแก้วที่มาพร้อมกลิ่นอันหอมกรุ่น ของการกินกาแฟกลางป่า  เช้านี่หยิบยกบทสนทนาเมื่อคืนขึ้นมาคุยกันเล็กน้อย ก่อนที่พี่ลูกหาบจะหุงข้าว แล้วจัดเตรียมอาหารเช้า พวกเราก็ช่วยกันลงมืออย่างแข็งๆ (เพราะมันหนาว) ช่วยกันทำกับข้าว อาหารเช้ากันอย่างสนุก อีกกลุ่มก็เริ่มที่จะเก็บเต็นท์ สัมภาระ  วันนี้เดินใกล้หน่อยครับ ทางเดินสบายไม่ชันเกินไป เช้าวันนี้มีต้มจืดวุ้นเส้นใส่โปรตีนเกษตร  ยำปลากระป๋องรสชาติจี๊ดจ๊าด แซบเวอร์  ไข่เจียว อันนี้ขาดไม่ได้   เมื่ออิ่มท้อง อาหารเรียงตัวเรียบร้อย พร้อมกันแล้วก็เริ่มออกเดินเท้ากันครับจุดหมายวันนี้อยู่ที่แคมป์แม่รีวา แล้วช่วงบ่ายๆ จะเดินไปชมความสวยงามของน้ำตกแม่รีวากัน วันนี้ได้เดินข้ามคลองแม่กระสา ด้วยสะพานไม้ไผ่ที่พาดผ่านกลางสายลำธารคลองกระสาที่เห็นจากรายการ”เนวิเกเตอร์” เมื่อ 2 ปีก่อน วันนี้ได้มีโอกาสมาสัมผัสของจริงแล้ว ข้ามคลองแม่กระสาไปเราก็เดินเลาะริมธารน้ำไปจนลึกผ่านเข้าป่าไผ่ ข้ามธารน้ำ 2 แห่ง ผ่านชุมชนบ้านเก่า ที่เคยมีผู้มาอาศัยอยู่ในป่า ก่อนที่ทางการจะประกาศออกเป็นอุทยานฯแม่วงก์ เมื่อปี 2529 แล้วชุมชนนี้ก็ได้ย้ายออกไปเมื่อปี 2531 แต่ก็ยังคงเหลือล่องรอยที่อยู่อาศัยให้ได้เห็นกันอยู่ ผมเดินผ่านชุมชนบ้านเก่านี้สักเกตุเห็นถึงอะไรบางอย่างที่นั้น ว่าทำไมต้นไม้ที่นั้นแข่งกันโตจัง มีแต่ต้นยางนาที่สูงใหญ่ เอียงคอมองไปจนสุดยอดใบ สูงจริงๆ ทั้งยังมีแนวก้านกิ่งใบต้นไผ่มาผสานพันกันทำให้ทึบอีกชั้น  ชอบป่าที่นี้จัง อุดมสมบูรณ์ดี อยากให้เป็นอย่างนี้ต่อไปอีก 100 ๆ ปี พวกเราก็ เดินไปเรื่อยๆ ครับ พร้อมกับ การชี้ให้ดูวิวริมทาง สมุนไพรของพี่อาทิตย์ ว่าอะไรมีสรรพคุณด้านใด แก้ไร  ชี้ให้ดูร่องรอยเท้าสัตว์ป่า ทั้งหมูป่า ช้าง กระทิง ยังมีขี้ของสัตว์ป่าด้วยที่พี่เขาชี้ให้ดู  นี่แหร่ะครับ ที่เขาว่ากันว่าคนอยู่ป่ารู้จักป่า ต้องอย่างนี้  เราก็เดินไปจนถึงแคมป์แม่รีวา เวลา 11.00 น. จัดแจงหาทำเลที่พักกางเต็นท์ เปลี่ยนเสื้อผ้า กินอาหารกลางวันได้แก่มาม่า+ต้มจืด(ที่เหลือจากมื้อเช้า แล้วก็ลงไปสัมผัสสายน้ำของแม่รีวากัน ก็ได้เจอกับต้นไม้ริมน้ำที่มีผลดกทีเดียว ไร่เรียงไถ่ถามชื่อนามขาน ก็ได้ชื่อมาว่าชื่อต้นซ่าน ซึ่งลูกซ่านสามารถรับประทานได้ รสชาติออกเปรียวๆ แก้ง่วงดีนัก เป็นที่ถูกอกถูกใจสมาชิกหลายๆ คน ขนาดถึงขั้นเอากลับมากินกันที่แคมป์แม่กระสา จวบจนเวลา  12.30 น. ก็ออกเดินทางไปชมน้ำตกแม่รีวากัน ครับ  เดินย่ำต๊อกๆ ไปตามผืนป่า ข้ามน้ำ ข้ามเนิน ก็ได้ยินเสียงสายน้ำกระทบพื้นอยู่ใกล้ๆ ไม่ไกลจากตรงที่ยืนฟังเสียง ถึงแล้วน้ำตกแม่รีวา


ชื่อแม่รีวา แปลว่ากองหินขาว ภาษากะเหรื่ยง มาจากต้นน้ำนครสวรรค์ ช่วงสวยสุดเป็นเดือนพย.น้ำจะใสและ นิตยสาร Asia Magazine ได้ให้น้ำตกแม่รีวาว่าเป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในเอเชียเลย

เราก็เก็บภาพน้ำตกแม่รีวากันเป็นที่ระลึกกันสักพัก ก็กระโจนลงเล่นน้ำตกแม่รีวาที่แสนจะเยือกเย็น เหล่าๆสมาชิกก็เล่นกันอย่างสนุกสนาน ราวกับว่าอุณภูมิของน้ำนั้นปกติ แต่ทริปนี้ต้องยอมผู้หญิงตัวเล็ก คนนี้ที่ชื่อ”อิ๋ว” เธอคนนี้ไม่เคยกลัวสายน้ำที่จะเย็นแค่ไหน ขอให้ได้เอากายลงไปสัมผัสน้ำเถอะเธอสู้ตาย ทั้งที่ว่ายน้ำไม่เป็น เจ๋งอ่ะ “อิ๋ว”  พอเถอะหนาวแล้ว ขึ้นจากน้ำก็เตรียมตัวเดินกลับแคมป์แม่รีวากัน ใช้เวลาเดินกลับไปไม่น่าเพียง 2 ชม.ก็ถึงแคมป์แม่รีวา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หุงหาอาหารมื้อเย็นกัน  เมนูมื้อเย็นของการเดินทางวันที่ 2 ได้แก่ ผักดอกกะหล่ำ / ผัดผักพริกแกง /ไข่เจียวแหนม  /ตบท้ายด้วยถั่วเขียวต้มน้ำตาล กินในกระบอกไม้ไผ่ (BYพี่อาทิตย์) เจ้าหน้าที่คนเก่งของกลุ่มเรา  การกินจากกระบอกไม้ไผ่นั้น ได้ความหอมของกลิ่นไม้ไผ่ บวกกับความอร่อยของถั่วเขียวต้มน้ำตาล มันเป็นอะไรที่ลงตัวจริงๆ  ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ  คืนนี้มีบทสนทนากันต่อกบัพี่ๆ เจ้าหน้า อาทิตย์  และ พี่ช้าง ซึ่งคืนนี้จะเป็นที่มาของวลีเด็ด หลายคำ โปรดติดตามกันไปเรื่อยๆ โดยเมื่อกินข้าวกันเสร๋จเรียบร้อย ล้างถ้วยจามชาม เก็บเข้าที่กันแล้วก็แยกย้ายกัน ส่วนอิ๋วได้ไปขอนอนเล่นเปล พี่ๆเจ้าหน้า ที่แยกตัว ไว้ข้างๆแคมป์  พร้อมก่อซุ่มไฟ ส่วนผมเดินไปร่วมสนทนากับพี่ เจ้าหน้าที่ทั้งสองท่าน ภายหลัง บทสนทนาจากแค่สี่คน เพียงไม่กี่ นาทีก็ฮาแล้ว   แต่เพียงไม่นานสมาชิกมาสมทบอีกเรื่อยๆ ร่วมวงสนทนากันอย่างสนุกสนาน ครั้งนี้พี่อาทิตย์ ของเราก็หนีไม่พ้นเรื่องพ่อตากับลูกเคยอีกเลย แต่เล่ากี่ครั้งก็อาจริงๆ นับถือพี่จริงๆ สนุกสนาเวลาล่วงเลยไปเรื่อยๆ สมาชิกก็เริ่มถอนตัวเข้าพักกายกัน ก็เหลือแค่ 4 คนแรกที่ปักหลักฮากันไม่เลิก สนุกกันก็ตอนนี้แหล่ะครับ คุยไปเรื่อยเปื่อย แต่คราวนี้พี่ช้างปล่อยเรื่องฮากันบ้าง เกี่ยวกับเรื่องที่จะชวนกันไปดูดาวที่ค้างกันไว้ตั้งแต่แคมป์ที่แม่กระสา ไม่เดินไปให้ไกล ไม่ต้องหาที่โล่งก็สามารถเอาดาวมาดูกใกล้ๆกันได้ แถมยังจะพาไปดีกอฟล์ ด้วย โดยใช้แค่ฝาทองกระป๋องเขียว 555 แถมยังมีกระต่ายให้ยิงอีกคืนนั้น กาหลายตัวก็โดดเข้ากองไฟไป ยังไม่ยอมตาย ยังฟื้นคืนชีพออกมาปล่อยมุกได้อีก (กา กา กา)  หลายเรื่องราวที่ชวนขำกัน ทั้งยังได้วลีเด็ดๆ “ให้ชนะ” เพราะว่าทุกคนต่างมีเรื่องราวที่เล่ากันหมดไม่ยอมกันเลย จนต้องมีอีกฝ่ายพ่ายแพ้ไป 555  ขนาดแค่เรื่องกินกาแฟ วันละ3 แก้ว อีกคนเกทับ 4-5 แก้ว ยังไม่ยอมกันเลย จนเวลาปาเข้าไป 22.30 น. ขอตัวไปนอนพักผ่อนก่อนครับ พรุ้งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อเดินไปพักที่แคมป์ตีนดอยก่อนจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกช่วงเย็นที่ยอดเขา”โมโกจู”ราตรีสวัสดิ์ ครับ เจอกันตอนตี 4 เพราะอิ๋วจะลุกมาอาบน้ำ ยอมเธอคนนี้จริงๆ หนาวแค่ไหนก็ขอเล่นน้ำ  เพราะวางเดิมพันกันเอาไว้กบเพื่อนๆสมาชิกคนละ 20 ว่ากล้าอาบหรือเปล่า 555  :P :P
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 13, 2013, 12:58:05 AM โดย Puripatt »

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 01:00:00 AM »
 ;D ;D

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 01:03:38 AM »
 :o :o

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ใจกลางหมอกรอบทิศ "โมโกจู"
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 13, 2013, 01:06:54 AM »
 ::) :D