ประวัติวัดสุวรรณเสวริยาราม
วัดสุวรรณเสวริยาราม ตั้งอยู่ หมู่ ๓ ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง
เดิมนั้นชาวบ้านจะเรียกกันว่า “วัดกุฏิ” (วัดกุด) สร้างขึ้นในราวสมัยรัชการที่๔-๕
ประมาณ พ.ศ.๒๔๐๑ โดยการนำของ ตาทวดหมื่นจำคชสาร(เสือ) ยายทวดขำ และ
ตาทวดทองคำ ยายทวดสาหร่าย ร่วมกันสร้าง บนเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่เศษ
โดยการสร้างได้สร้างเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสูงประมาณ ๓๐ เมตร เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ และบรรจุพระเครื่องรวมทั้งของมีค่าอีกหลายอย่าง ซึ่งต่อมาประมาณปี พ.ศ. ๒๕๐๐ได้มีคนมาขโมยเจาะเอาของที่อยู่ในเจดีย์ไปจนหมด ทุกวันนี้พระเครื่องเนื้อชินกรุนี้ได้รับการนิยมในวงการพระเครื่องพอสมควร เพราะเป็นเนื้อชินตะกั่วถ้ำชา และพระเนื้อผงอีกหลายชนิด
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๑๒ ได้รับพระราชทานวิสุงคาสีมา จึงได้มีการสร้างโบสถ์ขึ้น
ด้านตอนเหนือของวัดโดยการสร้างแบบก่ออิฐถือปูนตามแบบโบราญ กว้าง ๙ เมตร ยาว ๒๑ เมตรและมีภาพเขียนฝาผนังเป็นรูปเรื่องพุทธประวัติ และวิถีชีวิตของชาวบ้าน ภายหลังได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมทำให้ภาพส่วนล่างชำรุดเสียหาย คงเหลือเพียงส่วนบน เป็นที่น่าสังเกตุคือภาพจิตรกรรมนี้คล้ายกับภาพที่โบสถ์วัดไชโยวรวิหาร ข้างเจดีย์ด้านทิศตะวันออกยังมีพระพุทธไสยาสน์อีกองค์หนึ่ง คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยเดียวกัน ซึ่งพระพุทธไสยาสน์นี้ยาวประมาณ ๑๔ เมตร หันพระพักตรไปทางทิศตะวันตกพระเศียรไปทางทิศเหนือ
ต่อมาท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้บูรณะโบสถ์และเจดีย์ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
เท่าที่เป็นได้ และจ้างช่างวาดภาพฝาผนังขึนใหม่ เป็นภาพพุทธประวัติ

รูปปั้นตาทวด-ยายทวดผู้สร้างวัด

พระเจดีย์ทรงระฆังคว่ำที่เคยบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระเครื่อง


พระเจดีย์คู่วัด
ภาพเขียนบนฝาผนัง คาดว่าน่าจะเป็นช่างชุดเดียวกันกับที่เขียนภาพฝาผนังที่
วัดไชโยวรวิหารและวัดป่าโมก ซึ่งมีส่วนที่คล้ายกัน คือภาพด้านหลังพระประธาน
มีรูปศาลาพระเกี้ยวที่เหมือนกัน และพระประธานในโบสถ์จะมีพระกรรน์ยานถึงบ่า
ซึ่งจะหาดูได้ยากมากที่จะมีแบบนี้

พระประธานในโบสถ์

ภาพศาลาพระเกี้ยว และกำแพงแก้ว ที่เขาพระสุเมรุ อยู่ด้านหลังพระประธานในโบสถ์



ภาพบนฝาผนังตอนผจนมาร หน้าโบสถ์ด้านใน



ภาพเทวดาต่างๆของเดิมที่เหลืออยู่ตอนบนของฝาผนัง



พระพุทธไสยาสน์ก็เป็นแบบอยุธยา ซึ่งคาดว่าน่าจะนำแบบมาปั้นองค์พระ แต่เพียงแค่
คล้ายๆเท่านั้นลองชมภาพเปรียบเทียบกันดูว่าจะเหมือนกับที่ใด


พระพุทธไสยาสน์คู่วัด


พระพุทธไสยาสคู่วัดในแต่ละมุม

พระพุทธไสยาสน์คู่วัด
            
พระบรมสารีริกธาตุของเดิมในผอบแก้วที่ตามกลับมาได้(ผอบของใหม่)

พระบรมสารีริกธาตุองค์แรกที่ตามกลับมาได้ (เดิมอยู่ในตลับนี้)

องค์ที่สองอัญเชิญมาสมทบอีก

และนี่คือพระบรมสารีริกธาตุทั้งสององค์ซึ่งได้อัญเชิญมาอยู่ในวัดแล้ว
หากท่านสาธุชนท่านใดอยากไปขอกราบสักการะก็ไปแสดงความจำนงค์กับพระในวัดได้ ตลอดเวลาตอนที่มีพระอยู่ (ถ้าพระไม่อยู่เข้าไม่ได้ สุนัขดุ บางแก้ว)  นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนระดับประถมศึกษาอีกหนึ่งโรง ซึ่งปัจจุบันยุบเลิกทำการเรียน
การสอนไปแล้ว อาคารเรียนจึงให้ อบต. จัดทำเป็นสำนักงานไปแล้ว