ถ้ำพุหวาย อุทัยธานี
อุทัยธานี
ถ้ำพุหวาย ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย สภาพโดยทั่วไปเป็นภูเขาหินปูนสูงชันสลับซับซ้อน ถ้ำพุหวาย เป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำกว้างขวาง มีหินงอกหินย้อย เช่น รูปเจดีย์ อ่างน้ำ ทางเข้าถ้ำอยู่บนไหล่เขาต้องเดินขึ้นไป อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีโพรงทะลุถึงด้านตรงข้ามของภูเขา มีค้างคาวอาศัยอยู่ 9 ชนิด
ถ้ำ
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในภูมิประเทศเขาหินปูน เกิดจากน้ำฝนตกลงบนภูเขาจะละลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ เมื่อไหลซึมผ่านดินที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากพืชและการผุพังของซากพืชจำนวนมาก ดินจะเป็นละลายคาร์บอนไดออกไซด์ที่มากที่สุด เมื่อก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมกับไอออนของน้ำจะกลายเป็นกรดคาร์บอนิก ประกอบกับหินปูนเป็นหินที่มีรอยแยกเชื่อมต่อกัน ง่ายต่อการละลายจนเป็นโพรงและง่ายต่อการที่น้ำจะซึมผ่านรอยแยกแตกนี้ การละลายหินปูนนี้จึงทำให้เกิดภูมิประเทศแบบ คาร์ส (คือ เทือกเขาหินปูนที่เป็นภูมิประเทศที่มีลักษณะเด่นเฉพาะ โดยมีหน้าผาสวยงาม และมีทางน้ำใต้ดินเฉพาะแบบ)
ถ้ำเกิดขึ้นได้ในภูเขาหินหลายชนิดได้แก่ หินทราย หินควอตไซต์ หินตะกอน แต่ในภูเขาหินที่พบถ้ำมากที่สุด คือ หินที่มีคาร์บอเนต ได้แก่ หินปูน หินอ่อน หินพวกซัลเฟต รูปร่างของถ้ำมีต่าง ๆ มากมายแต่ส่วนใหญ่มักเป็นรูปแนวราบ
การเกิดถ้ำพอจะแบ่งเป็นขั้นตอนใหญ่ ๆ ได้สองขั้น ดังนี้
1. น้ำในสภาพกรดอ่อนจะซึมลงชั้นหินปูนผ่านรอยแตกเล็ก ๆ จนถึงระดับน้ำใต้ดินและละลายหินปูนออกไปเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นช่องหรือทางน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ขึ้น
2. ต่อมาเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทำให้น้ำใต้ดินลดระดับลง น้ำในทางน้ำจะลดลงตาม ทิ้งให้ทางน้ำใต้ดินเดิมกลายเป็นโพรงที่ว่างเปล่าซึ่งเรียกกันว่า ถ้ำนั่นเอง
สิ่งที่น่าสนใจภายในถ้ำ (ประติมากรรมถ้ำ) ได้แก่
หินงอก (Stalagmite) เกิดจากน้ำใต้ดินซึ่งกรดคาร์บอนิก ได้ละลายหินที่เป็นแคลไซต์ หรือแคลเซียมคาร์บอเนตมารวมกันเรียกว่า "แคลเซียมไบคาร์บอเนต" จากนั้นจะไหลไปตามเพดานถ้ำ แล้วหยดลงสู่พื้นถ้ำ และเมื่อน้ำระเหยไปก็จะคงเหลือผลึกแคลเซียมคาร์บอเนตจับตัวกันก่อเกิดทับถมจนมีลักษณะเป็นตะกอนหินปูน จับตัวกันเป็นแท่งขึ้นมาจากพื้นถ้ำรูปร่างกลมปลายมน
หลอดหินย้อยหรือท่อหินย้อย (Soda Straw) คือ สารหินปูนที่จับตัวเป็นหลอดหรือท่อย้อยลงมาจากเพดานถ้ำ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-4 นิ้ว มีผนังบาง น้ำไหลไปตามรูตรงกลางเกิดเป็นวงแหวนของหินปูนที่ปลายของหลอดหรือท่อ แร่แคลไซต์ที่เกิดจะมีการเรียงตัวของผลึกในแนวยาวและย้อยลงมา ทำให้มีความยาวเพิ่มขึ้นทำให้ดูคล้ายหลอดกลวงที่มีน้ำหยดลงมา
หินย้อย (Stalactite) จะเกิดต่อเนื่องจากหินหลอดย้อย กล่าวคือ เมื่อภายในหลอดหรือท่อหินย้อยอุดตัน น้ำก็จะหยดไหลลงมาตามผิวนอกแทนการไหลมาตามรูภายในท่อ และเมื่อน้ำระเหยแห้งไปแล้ว แร่ธาตุที่ตกตะกอนอยู่ก็จะเคลือบหุ้มหลอดหรือท่อให้มีขนาดใหญ่ขึ้น รูปร่างกลมและปลายแหลม
เสาหิน (Columnar Pillar) ลักษณะของหินที่เป็นแท่งหรือเสา ยาวจากพื้นจรดเพดานถ้ำ เกิดจากหินย้อยยาวลงมาจรดพื้นหรือหินงอกยาวขึ้นไปถึงเพดานถ้ำ
ไข่มุกถ้ำ (Cave Pearl) คือ ตะกอนที่มีลักษณะกลมหรือค่อนข้างกลม มีผิวภายนอกเรียบคล้ายไข่มุก มักเกิดบริเวณพื้นถ้ำที่เป็นแอ่งตื้นที่เกิดจากน้ำหยด เกิดจากหินปูนไปห่อหุ้มเม็ดทรายหรือตะกอนขนาดเล็กอื่นๆ ที่อยู่ในน้ำ และน้ำจะต้องมีการเคลื่อนไหลกระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา จึงจะทำให้เกิดเม็ดหินกลมได้
เกลียวหินปูน (Helictite) คือตะกอนปูนที่มีลักษณะคล้ายหลอดที่บิดเกลียว เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของทิศทางการเติบโตของผลึกแร่แคลไซต์ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากลมที่พัดผ่าน
หินปูนฉาบ (Flow Stone) คือ ตะกอนที่เกิดจากน้ำที่มีสารคาร์บอเนตไหลเป็นแผ่นบาง ๆ บนพื้นผิวของพื้นถ้ำ เกิดเป็นแผ่นของหินปูนลักษณะเหมือนแผ่นที่มาฉาบหน้าอยู่
ม่านหินปูน (Drapery) หินที่มีลักษณะคล้ายม่าน เกิดจากน้ำที่มีสารคาร์บอเนตสูงที่ไหลตามผนังที่เอียง หยดน้ำทีละหยดที่ไหลผ่านไปตามแนวเดิม เมื่อน้ำเกิดสูญเสียก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์จึงทำให้เกิดการตกตะกอนของแร่แคลไซต์มีลักษณะเป็นแผ่นบาง และมักจะโปร่งแสงงอกยาวขึ้นเรื่อย ๆ
ม่านเบคอน (Bacon Formation) หินที่มีลักษณะเหมือนผ้าม่าน แต่จะมองเห็นแถบสีอ่อน สีแก่เป็นชั้น ๆ เนื่องจากความแตกต่างของส่วนประกอบของแร่ธาตุในหยดน้ำ บางแห่งจะมีสีน้ำตาลแดงสลับกับสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน
ทำนบหินปูน (Rimstone pool) คือ ตะกอนหินปูนที่ก่อตัวขึ้นแล้วมีลักษณะคล้ายเขื่อนหรือทำนบ หรือขั้นบันไดที่กั้นน้ำไว้ เกิดในบริเวณพื้นถ้ำหรือตามแนวทางน้ำไหล เมื่อน้ำไหลจะทิ้งตะกอนหินปูนเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ
ในถ้ำพุหวาย มีค้างคาวอาศัยอยู่ 9 ชนิด
1. ค้างคาวชนิดใช้ฟันหน้ากินผลไม้
2. ค้างคาวมงกุฎยอดสั้นเล็ก
3. ค้างคาวหน้ายักษ์เล็ก
4. ค้างคาวปีกถุงเคราดำ
5. ค้างคาวหน้ายักษ์ทศกรรณ
6. ค้างคาวปีกพับดำใหญ่
7. ค้างคาวมงกุฎจมูกใหญ่
8. ค้างคาวยักษ์สามหลืบ
9. ค้างคาวยอดปีกกล้วยไม้
ติดต่อคนนำทางได้บริเวณปากถ้ำใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ทางด้านหลังของถ้ำพุหวาย คือ ถ้ำเทพมาลีหรือถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็กค่อนข้างลึกมีความสวยงามตามธรรมชาติของหินงอกหินย้อย ยอดเขาพุหวาย สูง 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่กว้างไกลอย่างสวยงาม บนสันเขามีสภาพเป็นป่าเต็งรังที่ค่อนข้างสมบูรณ์
การเดินทาง จากทางหลวงหมายเลข 3011 แยกเข้าทางเดียวกับสวนห้วยป่าปกรีสอร์ท และวัดถ้ำเขาวง แต่ทางไปถ้ำจะอยู่เลยจากแยกเข้าวัดถ้ำเขาวงไปประมาณ 4 กิโลเมตร
พิกัด GPS ถ้ำพุหวาย อุทัยธานี:
15.012511,99.444307
กดติดตามการเดินทางของเราใน Youtube ด้วยนะคะ