ทริป 5 เกาะในฝัน ฟินสนุกสุดมันส์ สไตล์ Low carbon holiday

www.touronthai.com

ทริป 5 เกาะในฝัน ฟินสนุกสุดมันส์ สไตล์ Low carbon holiday

Deprecated: Function mysql_db_query() is deprecated in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 190

Deprecated: mysql_db_query(): This function is deprecated; use mysql_query() instead in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 190

ในยุคนี้กระแสการท่องเที่ยวที่มาแรงและอินเทรนด์ที่สุด คือการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สัมผัสความเป็นธรรมชาติ ซึมซับกับบรรยากาศของท้องถิ่น และชุมชนพร้อมๆไปกับความเพลิดเพลินของกิจกรรมการท่องเที่ยว

ทริปนี้เป็นทริปแรกของการท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากนักท่องเที่ยวด้วยนะคะ ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ร่วมกับ สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด และสถานีโทรทัศน์ ทราเวล แชนแนล ร่วมผนึกกำลังจัดทริปนี้ขึ้นมาค่ะ

ซึ่ง อพท. มีหน้าที่ในการประสานงาน ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนใน ๖ พื้นที่พิเศษ ประกอบไปด้วย 1.พื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง 2.พื้นที่พิเศษเมืองพัทยาและพื้นที่เชื่อมโยง 3.พื้นที่พิเศษอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย – ศรีสัชนาลัย – กำแพงเพชร 4.พื้นที่พิเศษเลย 5.พื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน และ 6.พื้นที่พิเศษเมืองโบราณอู่ทองค่ะ

Deprecated: Function mysql_db_query() is deprecated in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 197

Deprecated: mysql_db_query(): This function is deprecated; use mysql_query() instead in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 197

ทริปนี้เราจะได้เที่ยว 5 เกาะในฝันของจังหวัดตราด เกาะกูด-เกาะหมาก-เกาะขาม-เกาะช้าง-เกาะหวาย แบบสไตล์โลว์คาร์บอน ฮอลิเดย์ ซึ่งเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าเที่ยวแบบโลว์คาร์บอนนั้นเป็นอย่างไร เกาะและทะเลจะสวยขนาดไหน ตามขึ้นรถไปเที่ยวและเรียนรู้สไตล์โลว์คาร์บอนไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ

คณะโลว์คาร์บอนฮอลิเดย์ เดินทางสู่จังหวัดตราดด้วยรถบัส 2 คันค่ะ เพื่อประหยัดพลังงานและลดการสร้างก๊าซคาร์บอน อาหารเช้าที่เสริฟให้เรามาเป็นแพคเกจถุงกระดาษ เก๋ไก๋ ลดการใช้ถุงพลาสติก
เค้าแจกถุงผ้าด้วยนะ สมาชิกก็ใช้กันในทริปนี้เลยจ้า

ระหว่างทานอาหารไป ก็มีสาวสวยมาเล่าถึงการเที่ยวแบบโลว์คาร์บอน ว่าเป็นอย่างไร
ฟังแล้วมันก็เป็นเรื่องใกล้ตัวนี่เองเราก็ทำได้นะ แค่เราใส่ใจที่จะทำหรือปล่าวแค่นั้นเอง อย่างเช่น
- เดินทางไปเที่ยวด้วยกันด้วยรถบัส เพื่อประหยัดพลังงานและลดการสร้างก๊าซคาร์บอน
- ทานเมนูอาหารโลว์คาร์บอนเน้นใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่ง
- ไม่เปิดไฟและแอร์ทิ้งไว้เมื่อไม่ใช้งาน ใช้น้ำอย่างประหยัด
- ถ้าพักมากว่า 1 คืน ก็ไม่ต้องเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวถ้ามันไม่สกปรกมาก แหม อยู่บ้านก็ใช้หลายวันกว่าจะซัก จริงมะ
- ร่วมปลูกปะการัง ปลูกต้นไม้ ปล่อยเต่า ปล่อยปลา ปล่อยปู เพื่อคืนความสมดุลให้กับทรัพยากรธรรมชาติ
- ใช้จักรยานที่รีสอร์ทจัดให้ ขี่ท่องเที่ยวบนเกาะแบบสโลว์ไลฟ์
- ทำกิจกรรมท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอน คือไม่ใช้เครื่องยนต์ เช่น แล่นเรือใบ กระดานโต้คลื่น พายเรือคายัค
ยังมีอีกเยอะ เดี๋ยวนึกออกแล้วจะมาเพิ่มให้นะคะ

พอถึงท่าเรือแหลมศอกจังหวัดตราด เราทยอยลงเรือเดินทางไปเกาะกูดเลยค่ะ พอถึงสะพานเทียบเรืออ่าวพร้าวบีช ก็ตื่นตาตื่นใจ ว๊าว... เกาะกูดน้ำใสมาก

เที่ยงพอดีเลย ได้เวลาอาหารแล้ว คณะเราแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 3 กิจกรรมหลังอาหาร คือ ปล่อยปลา ปล่อยปู และยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่น้ำตกคลองเจ้า
เราเลือกปล่อยปู เพราะแปลกดี 555 แยกย้ายกันขึ้นรถตามกลุ่มที่เลือกไว้ แล้วไปรับประทานอาหารใกล้เคียงจุดกิจกรรมค่ะ

ร้านอาหารบรรยากาศเลิศมากค่ะ วิวสวย น้ำใส ลมพัดเย็นสบายเชียวค่ะ อากาศสดชื่นไร้มลพิษ สูดโอโซนได้เต็มปอด
ชื่อร้าน บ้านคลองเจ้า โฮมสเตย์ เกาะกูด นะคร้า เมนูอาหารสไตล์ท้องถิ่น แต่รสชาติถึงใจถึงเครื่องเลยค่ะ

ทานอาหารเสร็จ ก็ทำกิจกรรมสนุกสนานกันได้จ้า ปล่อยปูทะเลจ้า ปูที่เราปล่อย ซื้อมาจากตัวเมืองตราด ข้ามน้ำข้ามทะเล มาขยายพันธุ์กันที่เกาะกูดเชียวนะจ๊ะ
สมาชิก ปล่อยกันสนุกสนานมาก เด็กๆ ยังชอบเลยค่ะ นี่แหละวิถีโลว์คาร์บอน ข้อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเลยจ้า

ปล่อยปูแล้ว เดินทางไปรวมตัวกันที่สะพานเทียบเรืออ่าวพร้าวบีช อีกครั้ง เพื่อนั่งเรือไปยังเกาะหมาก ต้นแบบเกาะโลว์คาร์บอนของไทยเลยนะคะ
แวะถ่ายภาพบนสะพานเป็นที่ระลึกกันสักหน่อย แม่ลูกคู่นี้น่ารักมากค่ะ ลูกสาวเล่าว่า คุณแม่นี่ขาเที่ยวเลยจ้า
โอ้ว...คุณยายทั้งสองมาเที่ยวเกาะด้วย สุดยอดไปเลยทริปนี้

นั่งเรือประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ถึงท่าเรืออ่าวนิด เกาะหมาก ก็แยกย้ายกันขึ้นรถ เพื่อแบ่งไปพัก รีสอร์ท 4 รีสอร์ท จ้า
มี เกาะหมากรีสอร์ท โคโค่เคฟรีสอร์ท มะกะธานีรีสอร์ท และ เดอะชินนามอน อาร์ต รีสอร์ท แอน สปา
เราพักที่ เดอะชินนามอน อาร์ต รีสอร์ท แอน สปา ดีใจจัง ได้พักรีสอร์ทในฝัน เคยเห็นแต่ภาพถ่ายของคนอื่น
;Dวันนี้เราจะได้ไปถ่ายภาพนั้นด้วยตัวเองแล้ว แต่ไม่รู้จะสวยเท่าหรือปล่าวน๊า

ระหว่างนั่งรถไปรีสอร์ท กำลังว่างเรามารู้จักเกาะนี้กันสักหน่อยเนอะ เกาะหมากตั้งอยู่ระหว่าง เกาะช้าง กับ เกาะกูด ห่างจากฝั่งประมาณ 38 กิโลเมตร ระยะทางรอบเกาะ 27 กิโลเมตร ประกอบด้วย 9 เกาะ คือ เกาะหมาก เกาะระยั้งใน เกาะระยั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะนก เกาะนอก เกาะใน โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 9,000 ไร่ มีรูปร่างคล้ายดาวสี่แฉก หรือ คล้ายรูปมังกร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสวนมะพร้าว และสวนยางพารา โดยรอบมีอ่าว ชายหาดที่สวยงาม และน้ำใสสะอาดหลายแห่ง เช่น บริเวณอ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง อ่าวผาด อ่าวแดง อ่าวสวนใหญ่ บริเวณชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงพบแนวปะการังที่ยังสมบูรณ์ และสวยงามมากเลยจ้า

ครั้งหนึ่งในยุคล่าอาณานิคม ฝรั่งเศสพยายามที่จะเข้ามายึดดินแดนประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2436 สมัยของ ร. 5 ไทยได้เสียดินแดน อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี ไปจนถึงเกาะหมาก เกาะกูด และเมืองปัจจันตคีรีเขตร ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกเปลี่ยนกับการถอนกองทหารออกจากจันทบุรี และในปี พ.ศ.2449 รัชกาลที่ 5 ทรงตัดสินพระทัยยอมยกดินแดน พระตะบองเสียมราฐ และศรีโสภณ เพื่อแลกเอาจังหวัดตราดและหมู่เกาะต่างๆ คืนมาเมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 โชคดีจังที่เราได้เกาะหมากและเกาะกูด กลับมา

ประชาชนบนเกาะหมากล้วนเป็นเครือญาติกัน โดยมีหลวงพรหมภักดี ปลัดจีนอยู่ที่ จังหวัดประจันตคีรีเขตร์ (เกาะกง ประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน) ขณะนั้นเป็นของประเทศไทยอยู่ ต้นตระกูล “ตะเวทีกุล” พอ ร.5 ทรงยอมยกเกาะกงให้แก่ฝรั่งเศสไปแล้ว หลวงพรหมภักดีจึงมาตั้งรกรากบนเกาะหมากเป็นคนแรกประมาณปี พ.ศ. 2447
ปัจจุบัน พี่น้องประกอบด้วย 5 ตระกูลใหญ่ คือ ตะเวทีกุล, วงษ์ศิริ, สุทธิธนกูล, จันทสูตร, และสุขสถิต

ถึงเดอะชินนามอน อาร์ต รีสอร์ท แอน สปา แล้ว เข้าไปดูบ้านพักกันบ้าง เราอยู่บ้านหลังที่ 6 ถึงภายนอกจะดูเก่าไปบ้างเพื่อความอาร์ต แต่ก็ดูคลาสสิคดี โรแมนติกสุดๆ ดีจัง ฟินเวอร์เลย
บ้านกว้างดี ด้านในแบ่งเป็นห้องครัว ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ เป็นสัดส่วนดีนะ มีระเบียงชมวิวด้วยจ้า

เดินดูรอบๆ รีสอร์ทกันนะคะ

ตะวันจะตกดินแล้วด้วย เราไปที่สะพานสู่ฝันกันเลยจ้า นี่แหละสะพานที่เราอยากมายืน
ช่วงนี้น้ำลง สิ่งที่เห็นมันสวยๆ จริงๆ นะ แต่จะถ่ายยังไงให้สวยอ่า อาจจะยังไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่ก็ได้ใจไปเยอะ
พรุ่งนี้เช้ามาใหม่ อิอิ เฝ้ารอเวลาอยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ จัง
ก่อนไปรับประทานอาหารเย็น ขอเก็บความทรงจำหน้ารีสอร์ทยามเย็นสักภาพนะ
แล้วไปทานอาหารกัน ทางรีสอร์ทจัดอาหารไว้แล้ว หน้าตาดีและอร่อยมาก รสชาติจัดจ้าน น้ำพริกนี้เด็ดมากจ้า

คลิกอ่านต่อหน้า 2

หลังจากทานอาหาร เราก็ไปพบปะสังสรรค์ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันที่ มะกะธานี รีสอร์ทค่ะ
ฟังผู้นำแต่ละองค์กร เล่าถึงที่มาที่ไปของทริปโลว์คาร์บอน และดูหนังสั้นที่บันทึกความสวยงามรอบเกาะหมากค่ะ
ที่นี่มีน้ำพันซ์อร่อยชื่นใจ และเค้กมะพร้าวสดใหม่หอมนุ่มด้วยค่ะ ฟินเลย แต่พอคุยกันจบ ฝนตกแรงมากจนกลับชินนามอนดึกเลยค่ะ
ฝนตกแรงขนาดนี้ หวังว่าพรุ่งนี้ฟ้าจะสดใสนะคะ

ตื่นเช้าอาบน้ำให้สดชื่นแล้วออกมาชมวิวหน้าบ้านพัก พระอาทิตย์จะขึ้นแล้วจ้า ว่าแล้วก็หยิบกล้องมาถ่ายภาพ แล้วรีบไปที่สะพานสู่ฝัน น่าจะยังทัน

เมื่อคืนฝนตก สะพานก็เลยยังชุ่มฉ่ำ ภาพที่เราเห็นเมื่อมองออกไปสุดสายตามันช่างโรแมนติกดีจัง เหมาะสำหรับคู่รักเค้ามาสวีทกันเนอะ
เจอะกับสาวๆ ในทริป มาก่อนเราอีก กำลังสนุกสนานกับการถ่ายภาพบนสะพานกัน แล้วเธอก็จากไป

เราถ่ายรูปจนพระอาทิตย์ขึ้น ผิดคาด...พระอาทิตย์ไม่ได้อยู่ในกรอบของวิวสะพาน แต่กลับขึ้นเยื้องไปทางหลังรีสอร์ท เราก็เลยได้แต่แสงสวยๆ สีทองที่เปี่ยมพลัง มาช่วยเติมสีสันยามเช้าให้สวยงาม

เช้านี้รีบทานอาหารสักหน่อย เพื่อไปนั่งรถรอบเกาะหมาก ใครที่ไม่ไป ก็เดินเล่นรอบๆ รีสอร์ท หรือจะนั่งชิลชิลชมวิวหน้ารีสอร์ท วิวสวยขั้นเทพ ก็ตามสบายเลยจ้า

รถพร้อม สมาชิก พร้อม เราไปเที่ยวรอบเกาะหมากกัน รถคันนี้ ได้ความอนุเคราะห์มาจากเกาะหมากรีสอร์ท ที่เพื่อนสมาชิกอีกกลุ่มเราพักอยู่จ้า
พลขับบอกว่ารถคันนี้เพิ่งซื้อมา กลุ่มเราเป็นกลุ่มแรกที่ได้นั่งรถคันเลยเชียวน๊า

ระหว่างทางไกด์ก็แนะนำสถานที่ แต่ละจุดไปเรื่อยๆ ตั้งแต่โรงคัดแยกขยะ เพราะเกาะหมากเป็นต้นแบบเกาะโลว์คาร์บอนไงล่ะ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
ลืมบอกไปว่าตอนนี้เกาะหมากมีไฟใช้ตลอดเวลาแล้ว เป็นไฟฟ้าสายเคเบิ้ลใต้น้ำมาจาก อ.คลองใหญ่ มาที่เกาะกูด เชื่อมต่อมายังเกาะหมาก เมื่อเดือน พฤษภาคม 2558
แต่ประชาชนและผู้ประกอบการก็ตระหนักถึงการประหยัดพลังงานนะคะ

บนเกาะหมากมีทั้งแปลงข้าวและสวนผักออแกนิคส์ รถจอดให้เราเดินเยี่ยมชม ด้านนอกจะเป็นพืชผักสวนครัว
ส่วนในมุ้งก็เป็นผักจำพวกที่ทำสลัดค่ะ ระหว่างแปลงก็ยังปลูกดอกดาวเรืองเอาไว้ร้อยมาลัยอีกด้วยจ้า

สิ่งที่ทุกคนตื่นตากันมากก็คือมะละกอ โอ้ว...แม่เจ้า มันช่างดกและลูกใหญ่อะไรขนาดนี้
เดินต่อไปเป็นแปลงมะเขือยาว ลูกโตๆ คือแบบว่าบนเกาะนี้ปลูกอะไรก็ผลใหญ่ไปซะหมดจริงๆ และช่างเป็นแปลงผักที่วิวสวยสุดสุดเลยจ้า

[b]ชาวบ้านและรีสอร์ทบนเกาะ จะเน้นปลูกผักเองเพื่อรับประทานและทำอาหารให้ลูกค้าที่เข้าพักหรือมาทานอาหาร เพื่อลดพลังงานในการขนส่ง
และที่สำคัญเป็นผักปลอดสารพิษแน่นอนค่ะ[/b]

ออกจากแปลงผัก เราไปที่จุดชมวิวกัน ซึ่งจะอยู่ที่ กู้ดวิวรีสอร์ท เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้จ้า
เดินผ่านเข้าไปก็ตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ทุกคนบอกว่าสวย ตื่นตาตื่นใจกันใหญ่ จุดนี้พูดเลย ต้องมีภาพกันทุกคน อดใจไม่ได้จริงๆ จ้า

ณ จุดนี้เป็นเนินเขาเดียวของเกาะหมาก เป็นเพียงจุดเดียวของเกาะที่จะเห็นวิวเกาะขามที่สวยงาม ชายหาดขาวบริสุทธิ์ และหินภูเขาไฟ อีกทั้งสามารถมองเห็นหมู่เกาะต่างๆมากมาย เช่น เกาะหวาย เกาะช้าง
แหม...รีสอร์ทนี้น่ามาพักจังเนอะ เท่าที่เห็นคนที่เข้ามาพักเป็นชาวต่างชาตินะคะ มีคำถามว่าทำไมเค้าชอบมาที่เกาะหมากกันนะ คำตอบก็คือ เกาะหมากเป็นเกาะขนาดเล็ก มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความสวยงามของทะเลและหาดทราย แนวชายฝั่งรอบเกาะและเกาะใกล้เคียงมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ สวยงาม ทำให้เกาะเล็กๆ ที่คนไทยน้อยคนจะรู้จัก แต่กลับมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชื่นชมความงามของเกาะนี้อย่างต่อเนื่อง

คลิกอ่านต่อหน้า 3

จุดต่อไปเราไปเยี่ยมชมทักทายเพื่อนๆ อีกกลุ่มที่ มะกะธานีรีสอร์ทกันหน่อย เวลาน้อย มาแวะถ่ายภาพกับน้องสุขเป็นที่ระลึกแล้วก็รีบไปต่อเนอะ

จุดพักของเราคือร้านค้าชุมชน อุดหนุนหมูปิ้งสุดอร่อย ของชาวเกาะหมาก หลายคนบอกว่า เกาะหมากขึ้นชื่อว่า“เป็นเกาะที่ไม่ถูกตามใจ” หรือ (Unspoiled Island) เพราะไม่มีร้านสะดวกซื้อ ไม่มีสกู้ตเตอร์ ไม่มีช้อปปิ้งมอลล์ใหญ่โต แต่เรามีร้านรวงเล็กๆ ของชุมชน ที่หลังจากเราได้รับเงินทอน มักจะได้รอยยิ้มแถมท้ายเสมอ สิ่งนี้เองที่ชาวต่างชาติกลุ่ม Niche มีความโหยหาต้องการความเงียบสงบของเกาะและเสน่ห์ของผู้คน อยากให้รักษาเอกลักษณ์นี้ไว้ตลอดไปนะคะ

สุดท้ายของการนั่งรถชมรอบเกาะก็คือ เกาะหมากรีสอร์ท เจ้าของรถคันนี้เอง เราถ่ายภาพกันให้เต็มที่เลย
แวะทักทายพนักงานนอนต้อนรับหน้าเค้าท์เตอร์ และ รปภ. ผู้ดูแลหาดมาดเข้มกันซะหน่อย แล้วไปเดินชมรอบๆ กันจ้า

โอ้โหเกาะหมากรีสอร์ทนี่ก็สวยอ่ะ บ้านพักน่ารักดี ที่สำคัญติดหาดด้วยล่ะ น่าอิจฉาสมาชิกกลุ่มที่ได้พักที่นี่แล้วล่ะ คงจะได้เล่นน้ำกันจนฟินไปเลยล่ะสิ

ขึ้นชื่อว่าเกาะหมาก ต้นมะพร้าวเอนต้องมา ชิงช้าต้องมี โมเม้นแบบนี้เราเคยเห็นในภาพของคนอื่นอีกแล้ว ฮ่าๆๆ ไม่ได้เลยนะ ห้ามพลาดช็อตนี้เด็ดขาด
และแล้วนางทั้งหลายก็มา เอ้า...แชะกันไปคนละภาพสองภาพ กันให้พอใจ อิอิ

นอกจากวิวสวยแล้ว น้ำก็ใส หาดทรายก็ขาวละเอียด เล่นน้ำสนุกสนานแล้ว กิจกรรมท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนบนเกาะหมากก็จะเน้นไม่มีเครื่องยนต์ เช่น ปั่นจักรยาน แล่นเรือใบ กระดานโต้คลื่น พายเรือคายัค โปรดโฟกัสไปที่คนพายคายัคนะคะ อย่าเพิ่งโฟกัสที่นางแบบ

สมาชิกทยอยลงเรือกันแล้ว ต้องลาเกาะหมากไปเพียงเท่านี้ โอกาศหน้าจะมาสโลว์ไลฟ์กันแบบเต็มๆ เลยนะ ขอเก็บเงินแป๊บ อิอิ
เดี๋ยวเราไปต่อกันที่ เกาะขาม เกาะนี้มีอะไรดี เราตามไปดูกันนะคะ

ถึงแล้ว เกาะขาม "ไข่มุกมรกต แห่งทะเลตราด" น้ำใสกิ๊ก หาดทรายละเอียดขาววิ้งเลย ทะเลตะวันออกนี่ก็สวยไม่แพ้ภาคใต้เลยนะคะ แถมเดินทางไกล้กว่าอีกด้วย
นอกจากน้ำใส หาดทรายละเอียดแล้ว รอบๆ เกาะ ยังมีปะการังน้ำตื้นที่ยังสมบูรณ์ ปลาสวยๆ และมีทะเลแหวกด้วยนะ ช่วงเวลาน้ำลงจะมีสันทรายทอดยาวประมาณ 500 เมตร หรือบางครั้งยาวไปถึงเกาะหมากเลยจ้า
หินก้อนสีดำๆ ที่เรียงรายอยู่นี้เป็นหินภูเขาไฟ มีที่เกาะขามที่เดียว ซึ่งนักธรณีวิทยาได้สันนิษฐานว่า เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนบริเวณนี้ได้เคยเป็นปล่องภูเขาไฟมาก่อนแต่ในปัจจุบันได้หยุดประทุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เพียงร่องรอยหินสีดำเหล่านี้ให้ชมกัน กลายเป็นเอกลักษณ์ที่เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเลยจ้า

กิจกรรมบนเกาะขามวันนี้ สมาชิกมาร่วมกันปล่อยเต่าทะเลลงสู่ทะเลเพื่อเพิ่มจำนวนเต่าทะเล และฟื้นฟูความสมดุลทางธรรมชาติ เต่าส่งตรงมาจากจังหวัดประจวบฯ เลยนะคะ ตัวใหญ่พร้อมที่จะขยายพันธุ์ได้เลย ก่อนที่จะปล่อยเต่าสมาชิกร่วมถ่ายภาพหมู่เป็นที่ระลึกกันหน่อย

พร้อมแล้วก็ช่วยกันจับเต่าแยกย้ายกันเอาไปปล่อยกันอย่างสนุกสนาน กิจกรรมดีๆ มีประโยชน์แบบนี้ก็สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้ทุกคนได้ ส่วนน้องเต่าก็พร้อมว่ายน้ำเต็มที่ล่ะจ้า เต่าเดินช้าก็จริง แต่ว่ายน้ำนี่เร็วปรี๊ดเลยนะคะ

ปล่อยเต่าหมดแล้ว มีเวลาให้เล่นน้ำกันสักพัก ใครไม่เล่นน้ำก็ถ่ายภาพกับวิวสวยๆ ชิลชิลกันไป

การมาเที่ยวเกาะขามก็นั่งเรือมาจากเกาะหมาก ติดต่อเรือได้ที่รีสอร์ทที่เราพักได้เลยนะคะ
ค่าตั๋วไปกลับท่านละ 100 บาท ค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะอีก 100 บาท (สามารถนำบัตรไปแลกเครื่องดื่มได้ที่บนเกาะ) เรือให้บริการตั้งแต่ 08:00 น. - 17:00 น.

ฝากไว้นิดนึงค่ะ การมาเที่ยวเกาะหมาก และเกาะบริวาร ถ้าใช้เรือสปีดโบ้ทในการเดินทาง จะได้ช่วยอุดหนุนชาวเกาะหมากให้มีรายได้ ซึ่งเรือสปีดโบ้ททุกลำจะเป็นของชาวเกาะหมากค่ะ ค่าเรือไป-กลับจากแหลมศอกมาเกาะหมาก 900 บาทจ้า
ขอลาชาวเกาะหมากไว้เพียงเท่านี้จ้า พี่ๆ ไกด์นำเที่ยวจากเกาะหมากน่ารักและบริการดีมากเลยจ้า บ๊าย บาย โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะคร้า...

เกาะต่อไป เรามุ่งหน้าสู่เกาะหวาย เกาะที่สงบเงียบเรียบง่าย เหมาะสำหรับคู่รัก และคนที่ยังไม่มีใครให้รัก มานั่งชมวิว ชิลชิล เพลิน อิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ให้เวลาตัวเองได้คิดทบทวนบางสิ่งบางอย่าง ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ กับฟ้า น้ำทะเล ฝูงปลา และปะการัง เนี่ยแหละนักท่องเที่ยวต่างชาติชอบกันนัก คนไทยบางคนก็เริ่มชอบและมากันบ่อยๆ เลยล่ะจ้า ก็ดูสิน้ำใสเวอร์ซะขนาดนั้นอ่ะ เป็นใครได้มาก็ต้องหลงรักอยู่แล้วล่ะ จริงมะ

คลิกอ่านต่อหน้า 4

เมื่อถึงเกาะหวาย สิ่งแรกที่โดดเด่นเห็นแต่ไกล คือ ศาลาแปดเหลี่ยม ณ จุดนี้เองที่สมาชิกจะได้ไปทำกิจกรรมปลูกปะการังกัน ฟังดูดีนะ เราจะได้ปลูกปะการังกันด้วย ครั้งแรกเลยนะเรา ตื่นเต้นอ่ะ เราทยอยลงเรือเดินไปตามสะพาน อื้อหือ...ฝูงปลามากันเพียบ ไหนจะแนวปะการังน้ำตื้นที่มองเห็นได้ตั้งแต่บนสะพานเลยอ่ะ โหย...น้ำนี่ใสกิ๊กเลย

พร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว เรามาฟังกันสักหน่อย ศ.ดร.ประสาน แสงไพบูลย์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยรำไพพรรณี จ.จันทบุรี ผู้เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูปะการังของประเทศไทย มาอธิบายเองเลยค่ะ ว่าทำไมจะต้องปลูกปะการังกัน เนื่องจากปะการังเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศ มีหน้าที่สำคัญในการเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน พร้อมอธิบายวิธีปลูกด้วย

การปลูกปะการังด้วยท่อพีวีซี เริ่มครั้งแรกใน พ.ศ. 2538 ณ บริเวณหาดแสมสาร โดยการคิดค้นของ ศ.ดร.ประสาน แสงไพบูลย์

ปะการังที่เราได้ปลูกเป็นปะการังเขากวาง สีม่วงสวยๆ หอมด้วย ซึ่งเป็น “โครงการวีนิไทยร่วมใจปลูกปะการัง 80,000 กิ่ง : เริ่มต้นเพื่อล้นเกล้า” ถวายพ่อหลวง สนับสนุนโดย บริษัทวีนิไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งพื้นที่เกาะหวายปลูก 10,000 กิ่ง จะมีป้ายรหัสส่วนตัวของเราด้วยนะ เค้าจะให้เราเก็บไว้ 1 ใบ วันไหนอยากมาดูการเติบโตของปะการัง เราก็มาดำดูได้เลย เจ๋งป่ะ พาแฟน พาลูก พาหลาน มาดูก็ยังได้

ฟังเข้าใจแล้ว เรามาช่วยกันปลูกปะการังกันนะคะ หลายคนสงสัยว่าปะการังอยู่ในแผงท่อ PVC นี่มันไม่ลอยเหรอ ไม่หรอกจ้า...มันมีที่ยืดอยู่ใต้น้ำค่ะ แล้วปะการังก็เติบโตแผ่กิ่งก้านสาขา บานออกเรื่อยๆ โดยลำต้นเพียงอันเดียวนี่แหละ กลายเป็นที่อาศัยของปลาน้อยๆ พออายุประมาณ 1 ปี เค้าก็จะย้ายออกไปฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมจ้า

หลังจากที่ช่วยกันปลูกปะการังจนเสร็จแล้วก็ได้เวลาอาหารเที่ยง เราทานอาหารแล้วแยกย้ายกันพักผ่อน เดินเล่นริมทะเล เล่นน้ำ ดำน้ำดูปลาดูปะการัง
หรือจะเลือกนั่งรับลมชมวิว เม้าท์มอย ถ่ายภาพ แบบเราก็ตามอัธยาศัยเลยจ้า

เวลาผ่านไปประมาณชั่วโมงกว่าๆ เราและเพื่อนสมาชิกก็ลาอาจารย์และศิษย์ ที่ศาลาแปดเหลี่ยม แล้วทยอยขึ้นเรือไปยังเกาะสุดท้ายของทริปนี้ คือเกาะช้างไงล่ะคะ ขึ้นเกาะช้างที่ท่าเรือสลักเพชร แล้วนั่งรถตู้ไปที่ เดอะสปา เกาะช้างรีสอร์ท ที่นี่มีดียังไง นอกจากรีสอร์ทสวย ร่มรื่นน่าพักแล้ว ที่นี่เปิดเป็นศูนย์ธรรมชาติบำบัดรักษาอีกด้วย

ก่อนอื่นเราทักทายกันด้วยของกินเลย ขนมนัดพบ(ขนมจาก) และไอศรีมหวานมันหนักเครื่อง มาที่นี่ อร่อยแล้วยังได้ความรู้ในการดูแลสุขภาพ แล้วยังได้กิ๊ฟเซ็ตเป็นเกลือสปาขัดผิวและน้ำมันมะพร้าวอีกด้วยค่ะ ซึ่งน้ำมันมะพร้าวที่นี่เค้าเกรด A เชียวนะคร้า ใส ไม่หืน กลืนสะดวกเลยจ้า

มีเวลานิดหน่อย เดินชมรีสอร์ท และชิม ช็อปปิ้งอุดหนุนสินค้าของฝากของคนท้องถิ่น ราคาย่อมเยา กันนะคะ
จากนั้นก็นั่งรถตู้แยกย้ายกันไปพักตามรีสอร์ทของแต่ละกลุ่มค่ะ

คืนนี้เราพักที่ คชารีสอร์ทเกาะช้าง ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่สนับสนุนการเที่ยววิถีสไตล์โลว์คาร์บอนอีกเช่นกันค่ะ เช็คอิน อาบน้ำ พักผ่อนกันแป๊บ แล้วไปร่วมงานปาร์ตี้กันค่ะ

ประมาณ 6 เย็น เราเดินทางไปร่วมงานปาร์ตี้ริมหาดสไตล์ Low Carbon ณ เคซี แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา
โอ้ว...ยามเย็นนี่วิวสวยไม่เบานะเนี่ย Theme ปาร์ตี้ก็ดูเก๋ไก๋มากค่ะ

จับจองโต๊ะแล้วไปหาอาหารว่างพื้นถิ่นเกาะช้างทานกันหน่อยค่ะ มีปอเปี๊ยะทอด เล็บมือนาง ขนมต้ม ข้าวต้มมัด และขนมยาหน้า พร้อมคอกเทลเย็นชื่นใจค่ะ

คลิกอ่านต่อหน้า 5

ได้เวลาเปิดงานแล้ว เด็กๆ มารำอวยพรน่ารักเชียวค่ะ พอรำจบมีน้ำมนต์พรมลงมาจากฟ้าด้วย พิเศษสุดจริงๆ (ฝนตกซะงั้น) เราจึงย้ายเข้าด้านในกันก่อนค่ะ
แล้วรับประทานอาหารอร่อยๆ หลากหลายเมนู พร้อมเบเกอรี่หน้าตาน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง เราขอจัดมาให้ครบเซ็ตค่ะ ตามประสานักชิมที่ดี ชิมแล้วการันตีเลยว่าอร่อยทุกอย่างเลยจ้า

อิ่มอร่อยกันแล้ว มาทำความรู้จักและเข้าใจกันนิดนึงนะคะ ขอตัดเข้าสู่โหมดจริงจังกันค่ะ
คุณจักพรรดิ์ ตะเวทีกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด (ภาพแรก) กล่าวต้อนรับนักท่องเที่ยว กล่าวความเป็นมาของกิจกรรม Low Carbon Tourism และสรุปผลการจัดงานในครั้งนี้ค่ะ
ต่อด้วยคุณชาญศักดิ์ ถวิลรองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด (ภาพที่ 2)กล่าวต้อนรับ และแนะนำว่าจังหวัดตราด คือ “ตราด กรีนซิตี้” เมืองแห่งความอุดมสมบูรณ์ทั้งแหล่งอาหารสดใหม่ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ เพราะการพยายามรณรงค์ในการดูแล อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดย อพท.เป็นผู้ส่งเสริม ทิ้งท้ายด้วยขอขอบคุณทุกภาคส่วน นักท่องเที่ยวและสื่อมวลชน
จากนั้นคุณชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการ อพท. (ภาพที่ 3) กล่าวแนะนำ ๖ พื้นที่พิเศษ ที่ อพท.ประสานงาน ส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน อธิบายถึงนโยบายกิจกรรม Low Carbon Tourism และขอบคุณทุกภาคส่วนรวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาร่วมทริปค่ะ

จบแล้วมอบของที่ระลึกและร่วมถ่ายภาพกันค่ะ

แท่ม แท๊ม... และแล้วก็มาถึง ไฮไลท์ของงาน ซึ่งก็คือ กิจกรรมเรียลลิตี้โชว์ศิลปะการปรุงอาหารของ 7 เชฟมือทองแห่งเกาะช้าง มารังสรรค์เมนูอาหารสไตล์โลว์คาร์บอนให้เราได้ชิม ซึ่งวัตถุดิบและอาหารทะเลที่นำมาปรุงก็ได้มาจากในท้องที่เกาะช้างนี่แหละค่ะ แอบส่องเชฟตอนปรุงอาหารกันก่อนนะคะ

เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง อาหารหลากหลายเมนูพร้อมอวดโฉมแล้วจ้า ทุกคนก็ถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน เอาจริงเอาจังมากค่ะ
ทั้งกล้องทั้งมือถือ ไฟส่องสว่างบ้างมืดบ้าง ก็ฟินกันไปค่ะ ขอรวมภาพมาให้ชมกันเลยนะคร้า ชมภาพเล็กๆ หน่อยเนอะ จะได้ไม่โหลดนานเกินไปค่ะ
เห็นอาหารแต่ละจานแล้ว หน้าตาดีมาก น่ารับประทานทุกจานเลยเนอะ เอื๊อก...
ใครอยากมาชิมก็ตามมาเที่ยว มาทานอาหารเก๋ๆ กันที่เกาะช้างเลยจ้า

สุดท้ายของค่ำคืนนี้ เชฟแต่ละโรงแรม ก็มาแนะนำอาหารที่ตัวเองปรุง ว่าชื่อเมนูอะไร และพิเศษอย่างไรค่ะ
จบแล้วก็มาถึงขั้นตอนที่เรารอคอย ชิม...สะบัดช่อเลยจ้า ช้าหมด...อดฟิน นะจะบอกให้

ตื่นสายหน่อยวันนี้ ไม่ได้ไปชมพระอาทิตย์ขึ้น เพราะพระอาทิตย์ขึ้นอีกด้านหนึ่งของเกาะ
เราไปรับประทานอาหารเช้าชมวิวทะเลกัน แล้วเก็บของออกจากคชารีสอร์ทเกาะช้าง เพื่อไปขึ้นเรือข้ามจากเกาะช้างไปท่าเรือ Centre point Ferryบนฝั่งแหลมงอบ

ถึงฝั่งแล้วทยอยขึ้นรถบัสคันเดิมไปอิ่มอร่อยกับอาหารกลางวันกันที่ บ้านปูรีสอร์ท แอนด์ สปา I
รับ Welcome drink ชื่นใจหลากหลายรสชาติ ที่สุดยอดและชื่นชอบมากกันที่สุดคือ เฮโลโหระพา คือน้ำสัปปะรดตราดสีทองใส่ใบโหระพาและน้ำเชื่อมปั่นรวมกัน อร่อยแปลก ฮิปสเตอร์มากค่ะ จากภาพจะเป็นแก้วน้ำสีเหลืองนวลๆ นั่นแหละค่ะ ชื่นใจดับกระหายแล้ว เราเข้าไปรับประทานอาหารกันค่ะ

จับจองโต๊ะนั่งกันก่อน มีหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นกลางฟลอร์ ตักอาหารใกล้ดี หรือจะนั่งกันเป็นกลุ่มๆ ในซุ้มอาหาร ท่ามกลางความร่มครื้มของป่าโกงกาง
หรือจะเดินไกลอีกนิด ชมวิวทะเลสุดปลายฝันไปเลย ชิลๆ ไปอีกแบบค่ะ

อาหารที่ บ้านปูรีสอร์ท แอนด์ สปา I เป็นอาหารจากฟาร์มบ้านปูเลยนะคะ ที่นี่เสริฟอาหารเมนูโลว์คาร์บอนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผักสด อาหารทะเลบางอย่างก็เลี้ยงเองในฟาร์มค่ะ ส่วนเรื่องรสชาตินี่ต้องพูดถึงอย่างแรง อร่อยตามแบบฉบับอาหารพิ้นถิ่นเลยจ้า อาทิ เช่น ส้มตำปูม้า หมึก กุ้ง ปู ปลา ทอด แกงไข่แมงดาหอยแมงภู่สัปปะรด ต้มยำปลาใส่สัปปะรดด้วย อร่อยดีซดคล่องคอ ผัดไทยเส้นจันท์ และน้ำพริกกุ้งเสียบ+ผัดสดจากฟาร์ม ที่เด็ดสุดๆ คาดว่าคงไม่เคยกินกันแน่ๆ ใบโกงกางหน้ากุ้ง เหอๆๆๆ มันกินได้ด้วยเหรอ เอ้าจัดมาลองดู...ก็อร่อยดีแฮะ ตบท้ายด้วยของหวานพื้นถิ่นไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึง นี่เลย ลูกจากเชื่อม ราดน้ำกะทิหอมๆ สรุปว่าอิ่มสุดๆ เลยจ้า

อิ่มอร่อยแล้ว ก็ถ่ายภาพกันสักนิด แล้วออกมา ชิม และช็อปของฝากอร่อยๆ ราคาย่อมเยาก่อนกลับบ้านกันนะคะ
จากนั้นก็เดินชมแปลงเกษตรอินทรีย์ ฟาร์มเลี้ยงปูนิ่ม และขึ้นรถกลับ กทม.โดยสวัสดิภาพ

สำหรับทริปนี้ เราได้เที่ยว 5 เกาะในฝันของ จ.ตราดได้ในครั้งเดียวซึ่งเป็นอะไรที่ฟินเวอร์สุดๆ ได้เก็บภาพที่เที่ยวสวยๆ ความทรงจำดีดี เพื่อนร่วมทริปที่น่ารัก
ได้ทานอาหารอร่อยๆ ได้ร่วมกันทำกิจกรรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลากหลาย สร้างประสบการณ์ที่ดี และได้เรียนรู้การท่องเที่ยวสไตล์โลว์คาร์บอนว่ามันไม่ได้ทำให้ความสุขในการท่องเที่ยวลดน้อยลงเลย แต่มันกลับเพิ่มมากขึ้นต่างหากล่ะ
จากนี้และตลอดไปไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ใด ในโอกาสหน้า เราจะนึกถึงการเที่ยวในครั้งนี้และมันจะแว๊บออกมาทุกครั้ง ว่า Low carbon เมื่อจะทำกิจกรรมใดๆ เช่น เปิดน้ำ เปิดไฟ เปิดแอร์ ผ้าเช็ดตัว ทานอาหาร ซื้อของ หรือแม้แต่ในกิจวัตรประจำวันก็ตามเถอะ คำว่า Low carbon ก็ยังคงก้องอยู่ในหัว และจะคอยติดตามหลอกหลอนตลอดไปสินะ จริงๆ นะ พอเราได้รู้แล้วเราก็จะนึกถึงและได้ใช้อ่ะ โอ้ว...มันดีจริงๆ ไม่น่าเชื่อเลยนะ Low Carbon Tourism
ใครอ่านแล้วสนใจอยากไปเที่ยวบ้างในโอกาสหน้า ลองติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/ThailandLowCarbonTourism

ขอขอบคุณ
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.
สถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED)
สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด
ททท.สำนักงานตราด
และขอบคุณเพื่อนสื่อมวลชนรวมทั้งเพื่อนร่วมทริป นางแบบ ที่น่ารักทุกท่านค่ะ
ลากันไปด้วยภาพนี้นะคะ คอนเฟิมกันหลายคนเลยว่า Low Carbon Tourism ดีจริงๆ จ้า

Deprecated: Function mysql_db_query() is deprecated in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 223

Deprecated: mysql_db_query(): This function is deprecated; use mysql_query() instead in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 223

จำนวนผู้ชม 42869

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com