เที่ยวสุดฟินกรีนซีซั่นเขาค้อ-ภูทับเบิก เส้นทางสีเขียวเพชรบูรณ์-พิษณุโลก

www.touronthai.com

เที่ยวสุดฟินกรีนซีซั่นเขาค้อ-ภูทับเบิก เส้นทางสีเขียวเพชรบูรณ์-พิษณุโลก

Deprecated: Function mysql_db_query() is deprecated in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 190

Deprecated: mysql_db_query(): This function is deprecated; use mysql_query() instead in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 190

ในฤดูที่สายฝนโปรยปรายชุ่มฉ่ำ ภูเขาและผืนป่าสีเขียวขจี มองไปทางไหนก็สดชื่นสบายตา อากาศเย็นสบาย ในเมื่อธรรมชาติงดงามเช่นนี้ อย่ามัวแต่จดๆ จ้องๆ กลัวฝน เพราะฝนไม่ได้ตกทุกวัน ลองวางแผนเที่ยวดูฝนฟ้าอากาศจากกรมอุตุฯ เดี๋ยวนี้เค้าแม่นนะ

และถ้าคิดที่เที่ยวไม่ออกว่าจะเที่ยวไหนดี ก็ที่เที่ยวยอดฮิตหน้าหนาวนั่นแหละ ที่คนไปกันเยอะจนไม่มีที่จอดรถ ที่จะกิน ที่จะนอน ยื้อแย่งกันไปทุกสิ่งอย่าง เช่น เขาค้อ ภูทับเบิก นี่ไง ลองไปหน้าฝนดูแล้วจะรู้ว่าฟินสุดๆ ได้พักรีสอร์ทชมวิวสวยๆ ในราคาเบาๆ ที่ตอนหน้าหนาวจองไม่ทันเค้า ถ่ายภาพตรงไหนก็ไม่มีคน มุมมหาชนก็แอคชั่นได้นานๆ ไม่ต้องต่อคิว ดีงามขนาดนี้ลองตามไปเที่ยวเส้นทางสีเขียวกันค่ะ

Deprecated: Function mysql_db_query() is deprecated in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 197

Deprecated: mysql_db_query(): This function is deprecated; use mysql_query() instead in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 197

ทริปนี้ทีมงานทัวร์ออนไทยได้มาร่วมสำรวจที่เที่ยวหน้าฝนกับ ททท.กองตลาดภาคเหนือ
ออกจากกรุงเทพเราจะขับรถเที่ยวเป็นเส้นทางตัว U เลยนะคะทริปนี้ คือขึ้นทางเพชรบูรณ์ลงทางพิษณุโลก รับรองว่าที่เที่ยวในเส้นทางเพียบเลยค่ะ

ทุกครั้งที่เรามาเพชรบูรณ์ ขากลับนี่จะต้องแวะซื้อของฝากที่ร้านไร่กำนันจุล แต่ทริปนี้ก่อนขึ้นเขาค้อเราแวะเที่ยวและรับประทานอาหารระหว่างทางชิลๆ กันก่อน ซึ่งที่นี่ไม่ได้มีแต่ร้านของฝากนะจ๊ะ เค้าเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร (ฟาร์มสเตย์) ให้เข้าชมไร่และโรงงานด้วยการนั่งรถพ่วงและจอดแวะตามจุดต่างๆ ในไร่

ชมการเลี้ยงปลา ซึ่งเป็นปลาที่นำมาทำปลาส้มขึ้นชื่อ มีบ่อทั้งหมดกว่า 200 บ่อ เนื้อที่ประมาณ 3000 ไร่ เป็นบ่อปลาที่วิวสวยที่สุด ตั้งแต่เคยเห็นบ่อปลามาเลยค่ะ
ชมสวนส้มโชกุนแสนอร่อยและส้ม มีเนื้อที่กว่า 1200 ไร่ และยังมีพื้นที่เพาะปลูกผลิตผลอื่นๆ อีกมากมาย เช่นมะขาม ส้ม กล้วย องุ่น และผลไม้อีกมากมาย นับกว่าหมื่นไร่ กระจายอยู่ตามชุมชนทั่วจังหวัดเพชรบูรณ์ และจ้างคนในชุมชนนั้นเป็นผู้ดูแล สร้างอาชีพให้คนในชุมชนไม่ต้องออกไปทำงานที่อื่น ช่วยสร้างความสุขในครอบครัวและชุมชนได้อีกด้วยค่ะ เป็นแนวคิดที่น่ายกย่องมากค่ะ

ชมสวนส้มแล้ว เราเข้าไปรับประทานอาหาร ในร้าน Silk cup ของไร่กำนันจุล
เมนูอาหารมาจากผลิตผลจากไร่ทุกอย่าง มี ข้าวผัดปลาส้มทอดกรอบ เขียวหวานปลา ยำหนังปลากรอบ ซี่โครงหมูอบ ปลาส้มทอดน้ำพริกลงเรือ และ โรตีเขียวหวานไก่ อร่อยทุกเมนู ทานกับน้ำผลไม้ชื่นใจคลายร้อน อิ่มแล้วแล้วไปเที่ยวกันต่อค่ะ

ก่อนเข้าไร่มีซุ้ม อุโมง และมุมถ่ายภาพเก๋ๆ ด้วยนะคะ เราไปขึ้นรถพ่วงชมพื้นที่โรงงานไหมซึ่งได้รับการรับรอง Organic Silk ให้เป็นรายแรกของโลก โรงงานแปรรูปผลไม้ ไร่ส้ม กล้วย มะละกอ ฯลฯ และเด่นที่สุดคืดไร่มัลเบอร์รี่ซึ่งมีเทศกาล “ มัลเบอร์รี่ แอนด์ ซิล”ในช่วงปลายปีถึงต้นปี ของทุกปีค่ะ

รถพ่วงพาเรามาจุดหมายปลายทาง ใต้ร่มไม่ใหญ่ ณ จุดนี้ เราได้ชมการทำท็อปปิ้งมัลเบอร์รี่ ง่ายมากเลยค่ะ ถ้านักท่องเที่ยวเข้ามาชมก็จะได้ลองทำท็อปปิ้งและบรรจุกระปุกนำกลับบ้านได้อีกด้วยค่ะ ชอบมาก

จากนั้นเราเดินถัดไปอีกหน่อยเพื่อเข้าชมแปลงองุ่นแบล็คโอปอลล์พวงงามๆ ย้อยๆ ห้อยระย้า เต็มไปหมด

ได้เวลาอันสมควรแล้ว เรากลับไปที่ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของไร่กำนันจุลกันค่ะ สินค้าน่าช็อปทั้งนั้น กว่า 200 รายการ บางอย่างมีให้ชิมลิ้มลองก่อนซื้อด้วยนะคะ อย่างเช่นปลาส้ม น้ำผลไม้ แยมผลไม้ น้ำพริก ดักแด้ มะขามแปรรูปต่างๆ ผลไม้สด ฯลฯ มีจัดเป็นเซ็ตของขวัญของฝากดูเลิศหรูคู่ควรอย่างยิ่ง เอาเป็นว่าถ้ามาเพชรบูรณ์แล้วไม่แวะ ไร่กำนันจุลนั้น ถือว่ามาไม่ถึงนะคะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ร้านไร่กำนัลจุลสาขา 1 โทร. 056 771109, ร้านไร่กำนัลจุลสาขา 2 โทร. 056 771287
www.kamnanchul.com

ชมรีวิวฉบับสมบูรณ์ได้ที่ ไร่กำนันจุล(ฟาร์มสเตย์)

บ่ายนิดๆ ออกจากไร่กำนันจุลแล้ว ขึ้นเขาค้อกันก่อนที่จะไปชมวิวสวยๆ ภูเขาเขียวขจี ลองเข้าไปชม ไร่กาแฟจ่านรินทร์ กันนะ ทางผ่านน่าจะแวะดูซักหน่อย

หลายคนรวมถึงฉันด้วยก็จะคิดอยู่ว่า ไร่กาแฟจ่านรินทร์ ทำไมต้องไปดูเค้าปลูกกาแฟด้วยนะ มีอะไรดีน๊อ แต่พอได้ย่างก้าวเข้าไปในพื้นที่ ได้เข้าไปสัมผัส แหมอยากจะบอกเลยว่า โฮะ... นี่มันฝันของเราชัดๆ เลย รวมถึงใครอีกหลายคนเลยด้วย ที่โหยหาชีวิตแบบนี้ แต่ไม่ได้ลงมือทำซะที นี่ไงเกษตรพอเพียง เกษตรสวนผสม และเกษตรอินทรีย์ของจริงที่เรานำมาเป็นแบบอย่างได้จริง เหมือนได้มาตอกย้ำความฝันเลยว่ามันเป็นไปได้ถ้าเราตั้งใจทำ

จ่านรินทร์ ซึ่งตอนนี้เลื่อนตำแหน่งเป็นดาบตำรวจแล้ว เป็นคนกรุงเทพฯ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นชาวสวน ย้ายตัวเองมาอยู่ที่เขาค้อซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา และเดินตามรอยของในหลวงในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จนวันนี้ไร่กาแฟของจ่านรินทร์กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ดูงานสานฝันของนักศึกษาและคนทั่วไปได้เป็นอย่างดี

จ่านรินทร์พาเราเดินเก็บผลเชอรี่ ลอดอุโมงเสาวรส เข้าชมไร่ซึ่งมีเนื้อที่เพียง 2 ไร่เท่านั้น แต่พี่เค้าปลูกกาแฟ และผลไม้นานาชนิดไว้ด้วยกันอย่างน่าทึ่ง มีทั้งอโวคาโด กล้วย ฝรั่ง แมคคาเดเมีย มะยงชิด ลองกอง พลับ ละมุด ลิ้นจี่ ฯลฯ พี่เค้าจึงมีผลไม้ไว้กินและขายได้ทุกฤดูกาลเลยค่ะ จ่านรินทร์บอกว่ากาแฟและผลไม้ที่นี่ ดูแลบำรุงแบบอินทรีย์ไม่ใช้สารเคมี ชมสวนกัน 1 รอบมาหยุดตะลึงกันที่ต้นมะไฟห้อยย้อยระย้ามานับพวงไม่ถ้วน นี่ขนาดว่าเก็บไปบ้างแล้วนะคะ

กลับมาทีโรงกาแฟเพื่อชมขั้นตอนการทำกาแฟ ซึ่งจ่านรินทร์ลงมือทำเองทุกกระบวนการตั่งแต่ปลูกจนถึงการบรรจุ จำหน่ายและชงให้ชิม ด้วยความพิถีพิถันและเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนกรรมวิธีการผลิต ทำให้รสชาดและกลิ่นของกาแฟจ่านรินทร์จะมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครจนมียอดสั่งซื้อมากมาย

ที่พัก : ใครสนใจมาชม มาเรียนรู้ ถ้าเดินทางมาไกล ก็มีที่พักด้วยนะคะ มี 5 ห้อง นอนได้ห้องละ 4 คน ห้องละ 500 บาท ช่วงฤดูหนาว 1000 บาท
ที่เที่ยวใกล้เคียง : เช่น พระตำหนักเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ ทุ่งแสลงหลวง แก่งบางระจันชมแมงกระพรุนน้ำจืด จุดชมวิวเขาค้อ

ติดต่อดูงาน ชมกระบวนการผลิต ต้องติดต่อล่วงหน้านะคะ
โทร : 084-453 2498 , 089-227 2758
Facebook : ไร่กาแฟจ่านรินทร์ เขาค้อ
ที่ตั้ง : เลขที่ 63 หมู่ 3 ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
พิกัด GPS : N16’33.601’ E101’01.376’

ออกจากไร่กาแฟจ่านรินทร์แล้ว เราไปชมวิวสวยๆ ชิลๆ ยามบ่ายแก่ๆ กันที่ ร้านกาแฟเปิดใหม่สุดชิค Pino Latte Resort & Cafe
จุดเด่นของร้านคือ หน้าร้านชมวิววัดผาซ่อนแก้ว เคยได้ยินเขาเล่ากัน วันนี้ได้มาซะที นอกจากวิววัดผาซ่อนแก้วแล้ว อีกด้านก็ยังมีทิวเขาสลับซับซ้อน เขียวๆ สดชื่นสบายตาให้ชมอีกด้วย ในร้านกาแฟ ตกแต่งมุมนั่งหลากหลายแบบ เก๋ไก๋ ไม้ผนังด้านนอกและเพดาน ทำด้วยไม้สน Pino จึงเป็นที่มาของชื่อร้านไงล่ะคะ

มาเติมความสดชื่นและความหวานกันซักหน่อย กับกาแฟหอมๆ รสชาดกลมกล่อม ชื่นใจ พร้อมด้วยเบอร์เกอรี่แสนอร่อย Fancy Rocky Brownie นุ่มมาดเข้ม และ Lemon Tart เปรี้ยวซ่อนหวาน ฟินเว่อร์ไปเลยล่ะค่ะ มาการองหลากสีสันก็โดนใจ ใครมาเขาค้อต้องไม่พลาดมาทานขนมอร่อยๆ และเครื่องดื่มสดชื่น ชมวิวสุดฟินกันที่นี่ค่ะ

ร้าน Pino Latte Cafe เปิดบริการทุกวัน
จ.- ศ. 10:30 -19:00
ส.- อา. 08:00 - 19.00

ด้านล่างของร้านเป็นรีสอร์ทแนวอินดัสเตรียล เพราะเจ้าของมีกิจการด้านงานก่อสร้าง
รีสอร์ทจะรูปร่างตู้คอนเทนเนอร์ ด้านในตกแต่งหรูหรา สบายๆ มีห้องนอนและห้องนั่งเล่น เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ด้านหน้ามีระเบียงชมวิวทิวเขา และวัดผาซ่อนแก้วได้ทุกหลัง ในวันพักผ่อนชิลๆ ได้ชมวิวสวยๆ แบบนี้ คงเติมพลังชีวิตได้ดี จริงดังประโยคที่ว่า "นอนเขาค้อ 1 คืน อายุอีกยืน 1 ปี"

อ่านรีวิวรายละเอียดและการเดินทางได้ที่ Pino Latte Resort & Cafe วิววัดผาซ่อนแก้ว

ดื่มกาแฟทานขนมเรียกน้ำย่อยกันแล้ว ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วล่ะสิ ก่อนเข้าที่พัก เราแวะทานอาหารกันที่ ร้านอาหารกลิ่นข้าวไร่ หน้าร้านสไตล์คลาสสิค เปิดเพลงเบาๆ เคล้าคลอ เมนูอาหารหน้าตาดี น่าทาน จัดจานสวยงามอลังการ รสชาดก็อร่อยจัดจ้านด้วยสมุนไพรไม่หวงเครื่องจริงๆ เหมาะมากสำหรับแก้อาการมึนจากโค้งเขาค้อได้ดีเลยค่ะ เมนูแนะนำ มีต้มยำรวมมิตรรสชาดกลมกล่อมลงตัว ไม่เปรี้ยวจี๊ดเกินไป ปลาคังผัดฉ่า เห็ดหอมทอดซีอิ๊ว ยำยอดฟักม้ง ฟักม้งและผัดน้ำมันหอย

ร้านอยู่ตรงข้ามทางเข้าภูแก้วรีสอร์ท แคมป์สน เขาค้อ
เบอร์โทรติดต่อ 081-973-1482, 084-232-5247, 086-681-9368
www.กลิ่นข้าวไร่.com

อิ่มแล้ว ถึงเวลาแห่งการพักผ่อนพักพุงกันแล้วค่ะ ที่พักของเราคืนนี้ "บุรีมันตา เขาค้อ รีสอร์ท" เพิ่งเปิดใหม่ล่าสุดมาเมื่อต้นปี 58 ค่ะ บรรยากาศดีงาม เพราะตั้งอยู่บนเนินเขา ได้พักผ่อนแล้วยังได้ชมวิวทิวเขา ในสายหมอกจางๆ ยามเช้าอีกด้วย

มีสระว่ายน้ำวิวภูเขา คือมาหน้าร้อนก็สามารถคลายร้อนได้ด้วย มุมนั่งรับประทานอาหาร Out door บรรยากาศฟินๆ
บ้านพักมีทั้งหลังเล็กและหลังใหญ่ ด้านนอกสวย มีระเบียงชมวิวนั่งรับลมชมวิวชิลชิล ด้านในตกแต่งหรูดูสะอาดตา ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำทำด้วยไม้ คลาสสิคดีค่ะ หน้าฝนอากาศก็เย็นสบายดี ไม่หนาวจนเกินไป

ช่วงนี้มีโปรโมชั่นวันธรรมดานะคะกับโครงการ Green Season วันธรรมดา หรรษาคูณสอง
"บุรีมันตา รีสอร์ท" เขาค้อ เข้าพักวันธรรมดาลดสูงสุด 50% จากราคาปกติ 4,000 บาท เหลือเพียง 2,000 บาท (รวมอาหารเช้า) จองได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 ก.ย. 59 นี้
ดาวน์โหลดคูปองส่วนลดได้ที่ www.greenseasondeals.com
จากนั้นโทรจองก่อนใคร ได้ที่บุรีมันตา รีสอร์ท 084-421-1717

เขาค้อมีจุดชมวิวใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมของช่างภาพและนักท่องเที่ยว ที่ต้องไม่พลาดมาลองวัดดวงกัน คือ “เขาตะเคียนโง๊ะ” ตื่นแต่เช้ามืดกันนิดนึงเพื่อไปชมวิวสวยๆ ยามพระอาทิตย์ขึ้นกับทะเลหมอกเขาย่าสวยงามมาก แต่วันนี้เราก็ได้เห็นหมอกจางๆ กับวิวสวยๆ ไปก่อนนะ โอกาสหน้ามาใหม่ละกัน อาจจะได้หมอกมากกว่านี้จ้า

#‎เขาตะเคียนโง๊ะ‬‬‬ เป็นหนึ่งสมรภูมิรบในสมรภูมิเขาค้อ ก่อนเดิมบริเวณเขาตะเคียนโง๊ะเป็นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ จากหลักฐานการปราบปรามของฝ่ายรัฐบาล คือรถสายพานลำเลียง แบบ M113 ที่ถูกยิงด้วยจรวด RPG ในบริเวณเขาตะเคียนโง๊ะช่วงที่มีการปราบปรามและได้นำอาวุธทั้งหลายไปจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์อาวุธฐานอิทธินั่นเอง

“เขาตะเคียนโง๊ะ” สามาถชมวิวได้ 360 องศา คือ สามารถมองเห็นเขาปู่ เขาย่า และเขาค้อ ทางด้านทุ่งแสลงหลวง หากถึงฤดูท่องเที่ยวจะมีการบริการที่พัก จุดกางเต้นท์ โดยจะมีชาวบ้านมาผลัดเปลี่ยนขึ้นมาดูแล และมีของกินง่ายๆ ขายเล็กๆ น้อยๆ รวมถึงสตรอเบอรี่สดๆ ด้วยจ้า วันนี้ได้เห็นทิวเขาเขียวๆ ก็สดชื่นดี เบื้องล่างเป็นแปลงเกษตร ถ้ามาหน้าหนาวก็จะไม่เห็นความเขียวแบบนี้นะ บนเขามีดอกหญ้าเล็กๆ น่ารักกระจายทั่วๆไป เป็นกลุ่มละสีสันก็จุ๋มจิ๋มดี เดินเก็บวิวรอบๆ พอสมควรแล้วก็กลับรีสอร์ทกัน

การเดินทาง‬‬‬ จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นจุดชมวิวริมทางหลวงเลขที่ 2258 บ้านหนองแม่นา ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 6 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จากสี่แยกรื่นฤดี (สะเดาะพงษ์) ใช้เส้นทางไปยังอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ราว ๆ 8 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ มีทางรถยนต์ขึ้นไปยังยอดเขา ไม่ชัน ขึ้นไปไม่กี่ร้อยเมตรก็สามารถชมวิวสวยๆได้เลยจ้า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.พิษณุโลก 055-252 742-3

ที่เที่ยวในเขาค้อยังมีอีกมากมาย สามารถเลือกเที่ยวได้ตามชอบเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น วัดพระธาตุผาแก้ว ฐานอิทธิ อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ น้ำตกศรีดิษฐ์ พระตำหนักเขาค้อ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ไร่บีเอ็น และร้านกาแฟชิคๆ วิวสวยๆ เช่น Khao Kho Route 12 , และ Kho In Love
คลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ ที่เที่ยวในเพชรบูรณ์

ออกจากเขาค้อแล้ว เรามุ่งไปยังภูทับเบิกกันเลยค่ะ นั่งรถชมวิวระหว่างทางเห็นภูเขาเขียวๆ แล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ใครที่เมารถก็หลับกันไปตามสภาพนะคะ มาถึงจุดชมวิวภูทับเบิก แหม ณ จุดนี้บอกเลยว่าฟินอีกแล้ว ไม่ต้องรอคิวถ่ายภาพเหมือนหน้าหนาวเลย จัดเต็มได้ทุกมุมมอง ไม่ว่าจะแชะตรงไหน

มองไปวิวเบื้องหน้า ช่างสวย สะอาดตา เขียวสดชื่น นี่ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเองนะก็ไม่อยากจะเชื่อ ขนาดว่าสายมากจนเกือบเที่ยงแล้วนะ ยังมีหมอกจางๆ มาเป็นระรอกอีกด้วย เบื้องล่างตรงนี้ที่เคยเห็นเป็นเต๊นท์เต็มพื้นที่ จนไม่มีที่จะเดิน หน้าฝนนี่ช่างโล่งสบายตาดีจริงๆ ค่ะ

ขับรถไปทางยอดภูทับเบิกตรงคริสตจักรบ้านทับเบิก ที่ ไม้กางเขนใหญ่ ปักหลักอยู่ ณ บ้าน 360 องศา แล้วมองกลับไปด้านจุดชมวิว จะเห็นเป็นไร่กะหล่ำปลีกำลังเติบโต เขียวทั้งภูเขาเลยค่ะ ไม่แห้งแล้ง ถึงแดดจะร้อน ก็ยังมีหมอกได้อีก อากาศก็เย็นสบาย ใครที่อยากเห็นบรรยากาศแบบนี้ รีบมาเลยนะคะ อย่ารีรอจ้า

ชมภูทับเบิกสวยๆ กันแล้ว เราขับขึ้นไปที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้ากันค่ะ ณ จุดนี้บอกเลยว่าหิวแล้วจ้า ไปจัดเต็มกันที่ "ร้านรังทอง" เลยค่ะ ร้านนี้อร่อยขึ้นชื่อมาก หน้าหนาวนี่แน่นไม่ได้กินกันง่ายๆ นะคะ มาหน้าฝนนี่อยากกินอะไรล่ะ นั่งกันสบายๆ สั่งได้ไม่ต้องรอคิวเลย เมนูขึ้นชื้อต้องนี่เลย ไก่ทอดกรอบไปถึงชาติหน้า ข้างในนุ่มอร่อย กินกับส้มตำ เข้ากันสุดๆ กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา เห็ดหอมสดน้ำมันหอย ต้มยำรสจัดจ้าน ปลาสามรส อิ่มพอดี ราคาไม่แพงจ้า

ร้านรังทอง อยู่ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
โทร : 055-259 973 , 055-219 510 ,089-639 7755,081-962 0962

อิ่มแล้วพาไปชมวิวชิลๆ กันต่อ กับที่เที่ยวใหม่ๆ ในอุทยาน ฯ ซึ่งอยู่ในโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า
เจ้าหน้าที่ใจดีพาเดินชมจุดต่างๆ จุดแรกเป็นจุดชมวิวโล่งๆ สบายตา แบ่งเป็นผาต่างๆ ที่ฉันเองเคยได้ยินแต่ยังไม่เคยมาเลย มีผาพบรัก ผาสลัดรัก ผารักยืนยง ผาคู่รัก ผาไททานิค ผาบอกรัก จัดไว้ให้เลือกถ่ายภาพตามสถานะความรักของแต่ละคนกันไปเลยนะจ๊ะ ในฤดูหนาว ผาแห่งนี้จะถูกแต่งแต้มสีสันสวยงามไปด้วยดอกกระดาษ สวยงามเป็นที่เที่ยวยอดนิยมต้องมาถ่ายภาพกันนะจ๊ะ

ถัดจากผา เราเข้าไปชมไร่สตรอเบอรรี่ และทุ่งดอกกระดาษที่ปลูกไว้ให้ชมช่วงหน้าฝน ซึ่งยังได้ชิมสตรอเบอรรี่หวานๆ อีกด้วย ถัดออกมาตรงสวนสน ก็มีการปลูกกาแฟแซมได้อีกจ้า

ที่เที่ยวในภูหินร่องกล้า เด่นๆ ก็มีลานหินปุ่ม ซึ่งหน้าฝนก็จะมีดอกไม้ป่าหลากสีสันชูช่อ ระหว่างทางเดิน ลานหินแตก ผาชูธง น้ำตก โรงเรียนการเมืองการทหาร น้ำตกร่มเกล้า-น้ำตกภราดร และ น้ำตกหมันแดง ที่ขึ้นชื่อด้วยดอกลิ้นมังกรสีชมพู ที่มีที่เดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาวยังมีพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในไทยอีกด้วย คือ ภูลมโล นั้นเองจ้า

ลงจากภูหินร่องกล้า เราใช้เส้นทาง อ.นครไทย เพื่อเข้าเมือง พิษณุโลก ผ่านน้ำตกปอย น้ำตกแก่งซอง และน้ำตกสกุโณทยาน เราแวะ “สวนทุเรียนหลงรักไทย” กันนิดนึง
ที่นี่ปลูกทุเรียนพันธุ์ หลง หลิน ที่อร่อยไม่แพ้เมืองลับแล ถึงขนาดว่ามีลูกค้าขาประจำ จองเป็นต้นๆ ล่วงหน้ากันเลยจ้า
พี่น้อย (คุณวรรณชัย กาญจนเพ็ญ) พาเดินชมสวนลุ้นกับการเก็บทุเรียน ทั้ง 2 สายพันธุ์

ถ่ายภาพกันสนุกสนานแล้ว ยังปอกทุเรียนให้เราได้ชิมลิ้มลองรสชาติ กันอีกด้วย ทุเรียนพันธุ์หลงเนื้อจะหวานนำกลิ่นหอม ส่วนทุเรียนพันธุ์หลินจะหวานมันคล้ายๆมีนมผสมอยู่ ทั้งคู่กลิ่นไม่แรง คอนเฟิมค่ะ ใครๆ ก็ทานได้ แต่ด้วยความอร่อยล้ำนี่เอง ราคาจึงสูงกว่าทุเรียนพันธุ์อื่นๆ หรือหมอนทองทั่วไปนะจ๊ะ นอกจากสวนทุเรียนแล้ว ยังมีต้นสตรอเบอรรี่ และกล้าไม้ต่างๆ จำหน่ายด้วยค่ะ ผ่านมาทางนี้แวะเยี่ยมชมได้นะคะ

"สวนทุเรียนหลงรักไทย" อยู่ที่ตำบลชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งจองล่วงหน้าได้ที่ พี่น้อย โทร. 083-333 3316

เข้าเมืองพิษณุโลกแล้ว ช่วงนี้มี การแสดงแสง สี เสียง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จอมราชันย์คู่แผ่นดิน ณ บริเวณหน้าพระราชวังจันทน์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์การกอบกู้เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ด้วยนักแสดงกว่า 300 คน ดำเนินเรื่องราวให้เห็นเป็นตัวตนได้อรรถรสเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงกว่าการอ่านจากหนังสือหรือชมจากภาพยนต์ การแสดงจัดขึ้นทุกวันเสาร์แรกของทุกเดือน ไปจนถึงเดือนกันยายน ชมฟรีเลยจ้า

สถานที่แห่งนี้เคยเป็นพระราชวัง ซึ่งเคยเป็นที่พระราชสมภพและที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา จะเห็นได้จาก แนวอิฐ ที่ปรากฏร่องรอยไว้เพียงฐานกำแพงเท่านั้น ด้านในเป็นศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประชาชนทั่วไปและนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามากราบไหว้บูชากันไม่ขาดสาย

มีข้อห้ามในการมาไหว้สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บนศาลด้วยค่ะ
1.ห้ามเข้าทรง
2.ห้ามนุ่งกระโปรง กางเกงเหนือเข่า มีผ้าเปลี่ยนที่ซุ้มดอกไม้
3.ห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นบนศาล
ปัจจุบัน กรมศิลปากร ได้เข้ามาทำการบูรณะค้นหาแนวเขตพระราชวังจันทน์ ระยะที่ 1 เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทร. 0 5525 2742-3

ยามค่ำคืนพิษณุโลกก้มีถนนคนเดินนะ อยู่หน้าวัดจันทร์ตะวันออก กิจกรรมโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สุด ก็จะเป็นรำวงย้อนยุค วงดนตรีจัดเต็ม สาวรำวงชุดเปิ๊ดสะก๊าดมาก บรรยากาศเหมือนเราเข้าไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆ นะ ถือว่าเป็นการได้ออกกำลังกายไปด้วย สนุกสนานร่าเริงทิงนองนอยกันไป

คืนนี้เราพักที่โรงแรมดราก้อน ตื่นเช้ามาชมวิวบรรยากาศดีริมน้ำ ถ่ายภาพในมุมเก๋ๆ รับประทานอาหารเช้าแล้วออกเที่ยวในเมืองพิษณุโลกกันค่ะ

วัดนางพญา อยู่ใกล้กับวัดใหญ่ วัดนี้มีชื่อเสียงในด้านพระเครื่อง คือ พระนางพญา ซึ่งเล่าลือกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ พระนางพญาเป็นสุดยอดพระ หนึ่งในชุดเบญจภาคี พระเครื่องนางพญามีชื่อเสียงทางด้านเมตตามหานิยม โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่เป็นนักปกครองและหัวหน้างาน ต้องดูแลลูกน้องจำนวนมาก โดยจะมีความเชื่อว่าจะทำให้ผู้ใต้ปกครองยำเกรงประดุจ "นางพญา"
สมเด็จนางพญาเรือนแก้วเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีมาพร้อมกับการสร้างวัด มีประชาชนเดินทางมากราบไหว้ขอพรตลอดทั้งวันค่ะ กราบพระแล้วสนทนาธรรมกับหลวงพ่อขอพรรับนำมนต์เป็นศิริมงคลกันด้วยค่ะ

ด้านข้างวิหาร มีพลับพลาหทัยนเรศวร์ ด้านในมีรูปหล่อ 5 พระองค์ ได้แก่ พระนเรศวรมหาราช พระมหาธรรมราชา พระสุพรรณกัลยา พระวิสุทธิกษัตริย์ และสมเด็จพระเอกาทศรถ

มาพิษณุโลกแล้ว ไม่มากราบขอพรสักการะ "พระพุทธชินราช" ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร ก็จะว่ามาไม่ถึงกันนะคะ “พระพุทธชินราช”ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดในประเทศไทย การถ่ายภาพด้านในห้ามยืนและห้ามตั้งขาตั้งด้วยนะคะ และเต่งกายสุภาพด้วยค่ะ

กราบพระพุทธชินราชแล้ว เราไปเดินชมบริเวณด้านนอกกันบ้างค่ะ ทริปนี้ขอแนะนำ วิหารพระเจ้าเข้านิพพาน ซึ่งหลายคนคงไม่เคยรู้กันเลย ว่าภายในวิหารมีความสำคัญคือมีพระพุทธรูปบรรจุหีบพระบรมศพ (หลังจากเสด็จดับขันธุ์ปรินิพพาน) ที่จะหาดูได้ยากมาก ซึ่งโบราณวัตถุศิลปะเช่นนี้ในประเทศไทยมีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

วิหารพระเจ้าเข้านิพพานสร้างในสมัยอยุธยา ภายในประดิษฐานหีบพระบรมศพจำลองของพระพุทธเจ้า นับว่าเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของวัด ถือว่าเป็นการจำลองสังเวชนียสถานของพระพุทธเจ้า หีบพระบรมศพ ทำด้วยศิลาตั้งอยู่บนจิตกาธานประดับด้วยลวดลายลงรักปิดทอง ที่ปลายหีบมีพระบาทจำลองทั้งสองของพระพุทธเจ้ายื่นออกมา มีสาวกคือพระมหากัสสปเถระ นั่งอยู่ทางด้านพระบาทของพระพุทธเจ้าและพระสาวกอื่นๆ นั่งนมัสการรอบพระบรมศพอยู่

เดินมาทางด้านหน้าวิหารพระพุทธชินราช จะเห็นวิหารเล็กๆ จนไม่ค่อยมีใครสังเกตกัน คือ วิหารพระเหลือ ชื่อนี้ได้มาอย่างไรกัน สมัยนั้นพระยาลิไทรับสั่งให้ช่างนำทองสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา มารวมกันหล่อพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดเล็ก เรียกว่า พระเหลือ และพระสาวกยืนอีก 2 องค์ โดยคนในท้องถิ่นเชื่อว่าหากได้นมัสการ ก็จะเป็นมงคลโดยเฉพาะนักธุรกิจ พ่อค้า และคนที่อยู่ในแวดวงการเงิน เนื่องจากชื่อ "พระเหลือ" มีความหมายพ้องกับ "เหลือกิน เหลือใช้" ค่ะ
บทสวดบูชา คือ พุทธะบูชา มหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มหาปัญญะวันโต สังฆะบูชา มหาโภคะวะโหติโลกา นากัง อภิปูชะยามะฯ

นอกจากนี้แล้วในวัดยังมีจุดน่าสนใจอีกมากมาย ทีมงานเดินทางไปเก็บข้อมูลและภาพสะสมไว้หลายครั้ง จนเป็นรีวิวฉบับสมบูรณ์
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

เที่ยวทริปนี้ เราไม่พลาดที่จะมีสโลแกนเที่ยววิถีไทยแซมมานิดๆ กับ OTOP 5 ดาว ของดีพิษณุโลก ที่ "กลุ่มเรือนไทยจำลองจิ๋ว" ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก ถ้าใครมาพิษณุโลกแล้ว อยากมีของฝากของที่ระลึก ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากที่ทรงคุณค่า ถูกใจผู้รับได้ดี แนะนำต้องมาที่นี่เลยจ้า มีเรื่อนไทยจิ๋วสวยงามบรรจุกล่องอย่างดี ราคาไม่แพงอีกด้วยจ้าหรือจะมาเรียนรู้วิธีทำ ทางกลุ่มก็ยินดีสาธิตให้ชมค่ะ แต่ต้องโทรติดต่อล่วงหน้านะคะ

คุณอรสา ทองขาว ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่ม มีกิจการรับเหมาก่อสร้างบ้านเรือน จึงมีความชำนาญต่อยอดเรื่องการย่อส่วนเรือนไทยได้เหมาะสมลงตัว เรือนไทยจะใช้เศษไม้สักแปรรูปมาเป็นแผ่นบางๆ สามารถตัดเป็นส่วนต่างๆ ได้ง่าย แต่ดูขั้นตอนการทำแล้ว แต่ต้องอาศัยความชำนาญและปราณีตมาก ส่วนแบบของเรือนไทยจะสร้างตามแบบของเรือนไทยทั้ง 4 ภาคของไทย มีทั้งเรือนหมู่และเรือนเดี่ยว บรรจุกล่องสวยงาม ราคาไม่แพง เริ่มต้นที่ 400 บาท หรือจะสั่งทำตามความต้องการก็ได้ค่ะ นอกจากนั้น ยังมีโมเดลเรือนไทยจิ๋วแบบโสนน้อยเรือนงาม ที่สามารถต่อได้เองอีกด้วย มีวิธีต่ออยู่ด้านหลังกล่อง ราคากล่องละ 150 บาทเองค่ะ เหมาะเป็นของฝากก็เก๋ไก๋ไม่เหมือนใครกำลังขายดีด้วยจ้า

ใครสนใจซื้อเป็นของฝากของตกแต่งบ้าน สามารถเข้ามาซื้อที่ "กลุ่มเรือนไทยจำลองจิ๋ว" ต.อรัญญิก อ.เมืองพิษณุโลก โทรสอบถามเส้นทางได้ค่ะ หรือหาซื้อได้ที่ คือที่พิพิธภัณฑ์ผ้ามหาวิทยาลัยนเรศวร และสนามบินพิษณุโลก ก็สะดวกดี และโทรสั่งจองได้โดยตรงที่ คุณอรสาได้เลยที่เบอร์ 081-688 5348 ถ้าใครไม่เข้าใจวิธีต่อเรือนไทยก็สามารถโทรมาสอบถามได้ค่ะ

ชม O TOP กันแล้ว มาชิมของอร่อยติดดาวกันบ้างค่ะ พิษณุโลก ก็มี “บะกุดเต๋” นะ รู้ยัง? มาลองชิมกันว่าอร่อยขนาดไหน หน้าร้านธรรมดาทั่วไป ด้านในตกแต่งจัดสวนสวยงาม บรรยากาศดี โปร่ง โล่งสบายไม่แออัด มีมุมให้นั่งหลายบรรยากาศ

มาดูหน้าตา บะกุดเต๋กัน มีทั้งเนื้อวัว และเนื้อหมู จัดมาชามใหญ่ครบเครื่อง หอมเครื่องพะโล้น่าทานมาก ก๋วยเตี๋ยวก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู หมูนุ่มๆ ลูกชิ้นแน่นๆ น้ำซุปกลมกล่อมกำลังดีค่ะ
ตบท้ายด้วยของหวานเย็นชื่นใจ ดับร้อนผ่อนคลายอิ่มหนำกันจ้า

ร้านบะกุ๊ดเต๋ อยู่หน้า รร.สาธิต ม.นเรศวรฯ
เปิด 8.00-17.00 น. ทุกวัน
โทร.055-259-432, 089-703-7253

ขับรถในเมืองผ่านไปมาหลายครั้ง เห็นวัดที่มีกำแพงสีทองเหลืองอร่ามโดดเด่น จนอดที่จะแวะไม่ได้ คือ "วัดจันตะวันตก" เข้าไปเยื่ยมชมด้านในกันนะคะ เหตุผลที่ตั้งชื่อว่าวัดจันทร์นั้นเพราะว่าในวัดมีตันจันทร์ใหญ่อยู่ 1 ต้น และมีต้นจันทร์เล็กๆ อีกหลายต้นขึ้นอยู่ในวัดค่ะ

หลวงพ่อทองไหลมา เป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรประทับยืนสูงมาก อยู่กลางลานกว้างของวัด ด้านหลัง เป็นพระพุทธเจดีย์สระหลวง เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและประดิษฐานพระไภษัชยคุรุไพฑูรยประภาตถาคต และเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าวิหารหลวงปู่สุ่น

ด้วยวัดนี้อยู่ทางทิศตะวันตก จึงชื่อวัดจันทร์ตะวันตก ซึ่งตอนนี้ทางวัดกำลังสร้างสมเด็จองค์ปฐมและมหาวิหารสมเด็จองค์ปฐม พระนามว่าสมเด็จพระพุทธสิกขีที่ 1 เป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก การก่อสร้างก็ดำเนินไปเรื่อยๆ ตอนนี้เริ่มเห็นแล้วว่าสวยงามมากค่ะ ท่านใดสนใจร่วมบุญก็เชิญที่วัดกันเลยนะคะ

ชมรีวิวเพิ่มเติมได้ที่ วัดจันทร์ตะวันตก

เที่ยวสะใจได้ความรู้มากมายกันแล้ว ในทริป กรีนซีซั่นนี้ ได้เวลากลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ ใครอยากมาเที่ยวฟินๆ กันในหน้าฝนนี้ แพคกระเป๋ามาเลยจ้า
[b][b]อ่านรีวิวแล้วชอบที่ไหนก็เลือกไปได้ตามสบายนะคร้า...[/b][/b]

มีข่าวดีมาบอกจ้า ช่วงนี้ ททท. สำนักงานพิษณุโลก ร่วมกับสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จังหวัดพิษณุโลก และชมรมธุรกิจท่องเที่ยวเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ จัดโปรโมชั่นพิเศษ ร่วมส่งมอบความสุข สนุก และคุ้มค่า เมื่อมาเที่ยวพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ในโครงการ “Green Season วันธรรมดา หรรษาคูณสอง” โดย นักท่องเที่ยวจะได้รับความสุขหรรษาจากส่วนลดพิเศษสูงสุด 80% สำหรับที่พัก ร้านอาหาร รถเช่า กิจกรรม ท่องเที่ยว รวมทั้งร้านของฝากของที่ระลึก ในการท่องเที่ยวช่วงวันธรรมดา ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม – 30 กันยายน 2559 อีกทั้งยังได้รับความสนุกหรรษาทวีคูณสองเท่า จากการนำคูปองส่วนลดไปใช้ แล้วเขียนชื่อ ที่อยู่ส่งชิงรางวัล ณ สถานประกอบการนั้นๆ เพื่อลุ้นรับแพ็คเกจท่องเที่ยวสุดหรรษาคูณสองฟรี และของที่ ระลึกจาก ททท.สำนักงานพิษณุโลก

ดาวน์โหลดคูปองส่วนลดได้ที่ www.greenseasondeals.com
ติดตามข่าวสารส่วนลดพิเศษต่างๆได้ ทาง www.facebook.com/Greenseasonfunall
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานสำนักงานพิษณุโลก
โทรศัพท์ 055 252 742-3
โทรสาร 055 231 063
Email: tatphlok@tat.or.th

ขอขอบคุณ
กองตลาดภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก
ที่สนับสนุนในการพาเยี่ยมชมและสำรวจที่เที่ยวช่วงกรีนซีซั่นนี้ค่ะ

Deprecated: Function mysql_db_query() is deprecated in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 223

Deprecated: mysql_db_query(): This function is deprecated; use mysql_query() instead in /home/touronth/domains/touronthai.com/public_html/forum/review.php on line 223

จำนวนผู้ชม 22213

Line id: @touronthai (ใส่ @)
www.touronthai.com