Touronthai Forum สนทนาประสาเที่ยว

หมวดหมู่ทั่วไป => แชร์ประสบการณ์/โพสต์รูปประทับใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:25:38 PM

หัวข้อ: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:25:38 PM
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่น้องทั้งหลาย หายไปหลายวันไม่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ เพราะหาสัญญาณยากมาก ผมเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เช้าวันจันทร์ที่รถติดมากๆ กว่าจะมาถึงเพชรบุรี แวะทำงานเล็กน้อยเลยไปนมัสการหลวงพ่อแลวัดพระทรง ชมความงามของวัด
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:33:40 PM
ประจวบคีรีขันธุ์ เป็นสถานีต่อมาที่ได้จอด ตอนกินข้าวเที่ยง ไปหากินริมทะเลที่ร้านรับลมเหมือนทริปที่แล้ว ถ่ายอ่าวประจวบ นิดหน่อย ระหว่างทางฝนตกตลอด แต่ไม่หนัก
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:36:52 PM
จนมาถึงสุราษฎร์ ก็นอนสุราษฎร์ 1 คืน ได้รูปปากน้ำตาปี ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:48:47 PM
ไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุราษฎร์ธานี จากนั้นเดินทางไปสงขลา (หาดใหญ่) ใช้เส้นทางทุ่งสงเห็นฟ้าสวยดีเลยว่าจะแวะเก็บภาพทะเลน้อยนิดหน่อยทางเข้าทะเลน้อยผ่านหมู่บ้านกำลังมีการขยายถนนเป็น 4 เลน คาดว่าถ้าเสร็จแล้วคงจะมีการโปรโมทการท่องเที่ยวที่นี่ขึ้นมาอีก ในฐานะที่มีบัวสวย มีควายทะเล และมีนกนานาชนิดมาหากินที่นี่ ค่าเช่าเรือเที่ยวละ 400 บาท ไปได้ 8 คน ใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าต่อรอบ ในทริปนี้ไม่ได้ล่องเรือเพราะไม่มีเวลากัน เชิญชมภาพกันดีกว่า (เอาเฉพาะทางเข้าก่อนเพราะเน็ตช้ามาก  :'()
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:53:21 PM
ถึงทะเลน้อยแล้วคงไม่ต้องบรรยายความสวยงามของทะเลน้อยกันเลย ดูรูปเอาละกัน ในฐานะคนหลังเลนส์ผมก็สงสัยอยู่ว่าคนอื่นๆ เป็นเหมือนกันหรือเปล่าเวลาเห็นสถานที่สวยๆ แล้วเกิดความตะกละขึ้นมา กดชัตเตอร์รัวๆๆๆๆ เก็บภาพทุกซอกทุกมุมเหมือนกลัวว่ามันจะหายไปงั้นแหละ

(ภาษาอิสานเรียกตะกละว่าซวดลวด อะนะ  ;D)
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:57:53 PM
เมื่อไม่ล่องเรือก็ต้องเดินเอาละครับ ที่นี่มีทางเดินบนสะพานยาวหลายร้อยเมตร มีพระตำหนักสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยครับ ระหว่างทางเดินมีศาลาให้นั่งพักผ่อนสร้างด้วยไม้ กำลังอยู่ระหว่างการซ่อมแซมบางส่วน แต่ที่แน่ๆ วันนี้โชคดีโพดๆ ^^
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 12:01:35 AM
ต่ออีกหน่อยเดี๋ยวเบื่อทะเลน้อยกันซะก่อน ชมภาพเต็มๆ ในหน้าข้อมูลเที่ยวทะเลน้อยละกันนะครับ  8)
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 12:12:58 AM
ก่อนนอนที่หาดใหญ่ไปสำนักสงฆ์หงส์บรรพตคีรีชัยมงคล (สถานปฏิบัติธรรม) ระหว่างถ่ายภาพอยู่นี้ก็มีการทำวัตรเย็น ผมก็ต้องทำตัวเงียบที่สุดไม่รบกวนการทำวัตร แต่สักพักนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศก็มากันกลุ่มใหญ่ ตีระฆังทุกใบที่เดินผ่าน เสียงกังวานดังสุดๆ (เฮ้อ)

เล่ามาถึงตรงนี้ขอโอกาสแนะนำ พระธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคล สร้างแบบก่ออิฐถือปูนส่วนยอดเป็นสแตนเลสทั้งหมด ล้อมด้วยระฆัง สร้างด้วยสแตนเลสเหมือนกัน เน้นการสร้างรูปวงกลมประกอบกันเข้าอย่างลงตัว แขวนกระดิ่งเล็กๆ รอบเจดีย์ ลมพัดมาจะได้ยินเสียงกระดิ่งสดใส ฟังแล้วรู้สึกสงบ

กลางคืนเปิดไฟทำให้มีแสงสว่างพอถ่ายรูปได้แต่ปรับไวท์บาลานซ์อยู่นานยังๆ ภาพก็ออกเขียวๆ เดี๋ยวต้องหาวิธีแก้ ทางเข้าออกองค์พระเจดีย์เป็นช่องวงกลม มี 14 ช่อง ทุกๆ 2 ช่อง จะไปรวมกันที่ชั้นในสุด เหลือ 7 ช่อง (งงมั้ย) ในแต่ละช่องเขียนกำกับไว้ว่าทางออกสำหรับคนเกิดวันอาทิตย์....เสาร์ มองจากด้านนอกเข้าไปจึงไม่ทะลุฝั่งตรงข้ามโดยตรง
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 12:17:35 AM
องค์พระธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคลมีทางขึ้นส่วนยอดได้ ความเชื่อคือการถวายผ้าไตรที่พระเจดีย์แห่งนี้เพื่อขอพร
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:01:56 AM
ขึ้นด้านบนแล้วก็เดินทางกลับที่พักที่หาดใหญ่
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:16:55 AM
เข้านอนที่หาดใหญ่ตื่นแต่หัวรุ่ง ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นหาดชลาทัศน์ (ทีแรกไปหามุมสวยๆ ที่เกาะยอแล้วไม่เจอทางขึ้นจุดชมวิว งงอยู่นานเลยเปลี่ยนใจมาหาดชลาทัศน์ดีกว่า) แต่จนแล้วจนรอดพระอาทิตย์ก็ยังไม่ยอมขึ้นสวยๆ ให้ดูอีกตามเคย  >:(
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:25:37 AM
หลังจากนั้นก็ไปแหลมสมิหลา และสวนสองทะเล เนื่องมาจากทริปที่แล้วมีคนแซวเข้ามาว่าได้ถ่ายรูปพญานาคครบทั้งสามส่วนหรือเปล่าทริปนี้จึงต้องไปอย่างรอบคอบหน่อยหาพญานาคให้เจอทั้งสามส่วน ส่วนหางนั้นอยู่เกือบสุดถนนชลาทัศน์ ก่อนวงเวียนรักการอ่าน (รูปคนนั่งอ่านหนังสือ) การเดินทางไปส่วนตัวหรือที่เรียกว่าสะดือพญานาค ขับไปทางหาดสมิหลาแล้วตรงไปเรื่อยๆ ถึงแยกสระบัวเลี้ยวขวา จะมีสะดือพญานาคอยู่ (ห่างจากวงเวียนหาดสมิหลาประมาณ 400 เมตร) จากนั้นขับไปตามถนนเลียบหาด ผ่านสวนสน ตามเส้นทางไปอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร ถึงวงเวียนสวนสองทะเล จะเจอส่วนหัว ทั้งหมดยาวทั้งสิ้น 4 กิโลเมตร
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:30:30 AM
ดูต่อๆ เรือนำเที่ยวลำเล็กๆ ภาพบน นำเที่ยวสมิหลา-เกาะหนู คนละ 150 บาทหรือถ้าคนน้อยก็เหมาลำ ไปไม่ถึงเกาะแมวนะ เวลาในการแล่นเรือประมาณ 20 นาที
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:37:50 AM
ส่วนหัวพญานาคมีคนไปถ่ายรูปกันเยอะเพราะสร้างได้สวยงามมาก รอบๆ ยังมีวิวสองทะเลให้ชมด้วยเวลาในการเปิดน้ำให้พญานาคพ่นน้ำคือ 8.00 น. ครับ (รอจนกว่าจะพ่อน้ำ เดี๋ยวโดนแซวอีกว่าไม่ได้พญานาคพ่นน้ำ ;D) จากวงเวียนสวนสองทะเล ขับไปอีกหน่อยก็ถึงอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:45:33 AM
อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร สงขลา
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 06:51:38 AM
อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร สงขลา (ต่อ) กลับหาดใหญ่ผ่านสี่แยกไฟแดงพอมีเวลาอยู่บ้างเปิดกระจกรถกดชัตเตอร์ วิหารพระพุทธศรีสงขลานครินทร์ จากนั้นเข้าประจำการที่หาดใหญ่งานหนักมากช่วงเย็นเล่นเอาเมื่อยตัวไปหมด มีกาแฟท่านขุนผ่านมาพอดีเลยได้มาฝาก หากมาหาดใหญ่หาท่านให้เจอจะได้กินกาแฟอร่อยๆ มีชาเขียวด้วยครับ

เช้าพฤหัสบดีเดี๋ยวอาบน้ำก่อนจะได้ไปต่อที่ต่อๆ ไป
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 21, 2010, 08:29:50 AM
ประจวบคีรีขันธุ์ เป็นสถานีต่อมาที่ได้จอด ตอนกินข้าวเที่ยง ไปหากินริมทะเลที่ร้านรับลมเหมือนทริปที่แล้ว ถ่ายอ่าวประจวบ นิดหน่อย ระหว่างทางฝนตกตลอด แต่ไม่หนัก

ที่รูปมีน้ำเกาะหน้าเลนท์ นะพี่  สวยๆ ครับฟ้าเมืองไทย
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:18:30 PM
ที่รูปมีน้ำเกาะหน้าเลนท์ นะพี่  สวยๆ ครับฟ้าเมืองไทย

เป็นขนผ้าครับเพราะกระเป๋ากล้องมีขนผ้าอยู่เยอะ ติด CPL ครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:24:54 PM
ที่รูปมีน้ำเกาะหน้าเลนท์ นะพี่  สวยๆ ครับฟ้าเมืองไทย

เป็นขนผ้าครับเพราะกระเป๋ากล้องมีขนผ้าอยู่เยอะ ติด CPL ครับ

ติด CPL  แล้วฟ้ามันแจ่ม ได้ใจจริงๆ

นอกรอบหน่อยนะพี่ทอม ในตัวเมืองหาดใหญ่ตอนนี้ 
เอาสายไฟฟ้าลงงดินหมดหรือยังครับ เห็นโครงการนี้เค้าทำมาหลายปีแล้วไม่รู้ว่าสำเร็จหรือเปล่า
พอดีได้ข่าวว่า กทม.ก็จะทำเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:25:36 PM
ถือโอกาสเล่าต่อจากเมื่อเช้า ไปเกาะยอมา หาทางขึ้นจุดชมวิว ถามชาวบ้านที่ตลาดบอกว่ามีทางขึ้นอยู่ที่เขาขุด หรือทางขุด เพราะตรงทางขึ้นมีการขุดหน้าดินของภูเขาจนเป็นสีแดง แต่ทางนี้ไม่ค่อยดีปูด้วยหินล้อฟรีบ่อย อีกทางคือสถาบันทักษินคดีศึกษา เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนและจุดชมวิวด้วยเลยไปทางที่สอง ระหว่างทางมีชาวบ้านเอาละมุดมาขายเรียกกันว่า สว๊า (สะกดผิดต้องขออภัยด้วยนะครับ) เลยมาอีกหน่อยก็เจอทางขึ้นสถาบันทักษินคดีศึกษา อยู่เชิงสะพานติณสูลานนท์ฝั่งข้ามเกาะใหญ่ 
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:31:42 PM

ติด CPL  แล้วฟ้ามันแจ่ม ได้ใจจริงๆ

นอกรอบหน่อยนะพี่ทอม ในตัวเมืองหาดใหญ่ตอนนี้ 
เอาสายไฟฟ้าลงงดินหมดหรือยังครับ เห็นโครงการนี้เค้าทำมาหลายปีแล้วไม่รู้ว่าสำเร็จหรือเปล่า
พอดีได้ข่าวว่า กทม.ก็จะทำเหมือนกัน

ตอนนี้เห็นป้ายประกาศโฆษณาว่าจะเอาลงดินอยู่แต่ที่เห็นก็มีสายไฟเยอะอยู่ครับ

เล่าต่อเลย เข้าสถาบันทักษินคดีศึกษา จ่าย 50 บาท แล้วขึ้นไปข้างบน มีอาศรมศิลปกรรมทักษิน มีการอบรมถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงบนนี้ด้วยแต่ไม่ใช่วันนี้ อาศรมสวยครับ แต่วิวยังไม่เหมาะกับเวลาที่ไปแดดแรงจนความชัดของสีภาพควบคุมได้ยาก
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:42:14 PM
แล้วก็ขับขึ้นไปอีกหน่อยเสียตังค์ 50 บาทแล้วต้องเอาให้คุ้ม
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:46:07 PM
เดินรอบๆ ดูแล้วแต่ในอาคารไม่เปิดให้เข้าชม ไม่รู้ว่าเปิดกี่โมง แต่ก็คงต้องกลับแล้วเวลามีน้อย
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:51:58 PM
ออกมาจากสถาบันกลับรถใต้สะพานเข้าสงขลาแวะนมัสการพระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่วัดแหลมพ้อ (ปกติเข้าสงขลาจะเห็นพระนอนองค์นี้อยู่ข้างทางก่อนขึ้นสะพาน) จากนั้นตรงดิ่งไปทำงานที่หาดใหญ่เหมือนเดิม รอเวลาเหมาะจะออกมาตระเวนแล้วเล่าให้ฟังกันต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:57:04 PM
ลืมไปเลยครับ ที่วัดแห่งนี้กำลังสร้างพระระเบียงคตรอบองค์พระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ตั้งใจสร้างให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก็เลยทำบุญร่วมไป 1oo บาท อยากให้คนที่สนใจผ่านไปไปร่วมทำบุญกันครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 02:59:26 PM
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 21, 2010, 03:21:04 PM
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ

ความยาวขององค์พระ เท่าที่ "วัดพระสุโทนมงคลคีรี" ป่าวพี่ทอม  หรือใหญ่กว่าครับ

สวยงานครับองค์พระ ศิลปะไทยสวยเลิศล้ำจริงๆ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 03:27:19 PM
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ

ความยาวขององค์พระ เท่าที่ "วัดพระสุโทนมงคลคีรี" ป่าวพี่ทอม  หรือใหญ่กว่าครับ

สวยงานครับองค์พระ ศิลปะไทยสวยเลิศล้ำจริงๆ

ความยาวขององค์พระนั้นไม่อาจเทียบกับวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีได้ครับ ที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาเพื่่อให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้น ต้องระบุด้วยว่าเป็นปางปรินิพานที่ใหญ่ที่สุดครับ เมื่อกี้ก็ลองเข้าไปดูภาพวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีมาเพราะไม่แน่ใจว่าสร้างเป็นปางอะไร (ตัวเองถ่ายเองลืมเองอะ) ปรากฎว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ครับ ตอนที่วางแผนไปเกาะยอและวัดแหลมพ้อยังคิดอยู่เลยว่าจะได้ภาพสวยหรือเปล่ากลัวย้อนแสง แต่พอไปถ่ายจริงก็ได้ภาพที่สวยถูกใจคนถ่ายมากเลยครับ โชคดีไป สำหรับเรื่องเล่าเช้าพรุ่งนี้ของดนะครับเพราะต้องทำงานตั้งแต่เช้า (น่าเสียดาย) ส่วนวันงานชักพระกะว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  >:(

สู้ต่อไปไอ้มดแดง 5555  8)
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 03:54:05 PM
ประจวบคีรีขันธุ์ เป็นสถานีต่อมาที่ได้จอด ตอนกินข้าวเที่ยง ไปหากินริมทะเลที่ร้านรับลมเหมือนทริปที่แล้ว ถ่ายอ่าวประจวบ นิดหน่อย ระหว่างทางฝนตกตลอด แต่ไม่หนัก

ที่รูปมีน้ำเกาะหน้าเลนท์ นะพี่  สวยๆ ครับฟ้าเมืองไทย

ขออภัยที่บอกว่าขนผ้าเกาะ CPL ครับ ที่จริงดูจากอาการแล้วน่าจะเกาะอยู่ที่ เซ็นเซอร์ มากกว่าเพราะเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งที่พระจุฑาธุชราชฐานเกาะสีชัง คืนนี้ต้องเปิดเซ็นเซอร์เช็ด แต่ไม่ได้เอาปากกาเช็ดเซ็นเซอร์มาด้วย งานเข้าแล้วละทีนี้ เฮ้อ  :'(
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 21, 2010, 03:58:24 PM
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ

ความยาวขององค์พระ เท่าที่ "วัดพระสุโทนมงคลคีรี" ป่าวพี่ทอม  หรือใหญ่กว่าครับ

สวยงานครับองค์พระ ศิลปะไทยสวยเลิศล้ำจริงๆ

ความยาวขององค์พระนั้นไม่อาจเทียบกับวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีได้ครับ ที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาเพื่่อให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้น ต้องระบุด้วยว่าเป็นปางปรินิพานที่ใหญ่ที่สุดครับ เมื่อกี้ก็ลองเข้าไปดูภาพวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีมาเพราะไม่แน่ใจว่าสร้างเป็นปางอะไร (ตัวเองถ่ายเองลืมเองอะ) ปรากฎว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ครับ ตอนที่วางแผนไปเกาะยอและวัดแหลมพ้อยังคิดอยู่เลยว่าจะได้ภาพสวยหรือเปล่ากลัวย้อนแสง แต่พอไปถ่ายจริงก็ได้ภาพที่สวยถูกใจคนถ่ายมากเลยครับ โชคดีไป สำหรับเรื่องเล่าเช้าพรุ่งนี้ของดนะครับเพราะต้องทำงานตั้งแต่เช้า (น่าเสียดาย) ส่วนวันงานชักพระกะว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  >:(

สู้ต่อไปไอ้มดแดง 5555  8)

สู้ต่อไป ของผมต้องคนนี้ มาร์คไรเดอร์ คาบูโตะ  5555 (นอกเรื่องแล้วเรา)
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 22, 2010, 07:00:42 AM
เมื่อคืนพาลูกค้าไปไหว้พระธาตุเจดีย์ไตรภพไตรมงคลมาเลยเก็บภาพรายละเอียด การสร้างมาให้ชมกัน ว่าเน้นการสร้างด้วยวงกลมเป็นหลักแล้วก็มีภาพสถานที่ในการทำวัตรเย็นบริเวณหน้าพระธาตุเจดีย์ ซึ่งปัจจุบันใช้การกางเต็นท์ สำหรับผู้ที่จะไปที่นี่โปรดทราบว่า ต้องถอดรองเท้าตั้งแต่หน้าเต็นท์แล้วเดินเข้าไป เป็นลานคอนกรีตตลอดจนถึงองค์พระเจดีย์ครับ ภายในที่มีทางเข้า 14 ทาง นั้นแบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้องประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างกัน หลายๆ องค์ไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพพุทธประวัติ และมีการติดภาพพระธาตุประจำวันเกิดองค์ต่างๆ ทั่วประเทศด้วยครับ จบการรายงานของวันนี้เพราะมีงานมากวันนี้คงไม่ได้ไปไหน ฟ้าใสทุกวันครับที่หาดใหญ่น่าเที่ยวมาก
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 22, 2010, 08:16:38 AM
หมดค่า Stainless  ไปกี่บาทอ่ะพี่ วัดนี้ สวยดีครับภาพแสงสะท้อนกลางคืน

Sensor เป็นไงบ้างพี่สะอาดเรียบร้อยดีป่าว 

เสาร์-อาทิตย์-จันทร์ นี้ขอว่างมือการเป็นบอร์ดแอดมิน สัก 3 วันนะพี่ จะไปลั้นลา สักหน่อย 555
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 22, 2010, 03:19:41 PM
ไม่มั่นใจในเรื่องงบประมาณการสร้างนะครับ

เรื่องเซ็นเซอร์คงเก็บไว้ไปดูที่กรุงเทพฯ ลองเปิดมาเป่าฝุ่นดูแล้วละแต่มองไม่เห็นฝุ่น

ส่วนวันที่หายไปก็เอามาเล่าบ้างเน้อ  ;D
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 24, 2010, 10:27:52 PM
อะไม่ได้เล่าซะนานเนื่องจากเดินทางตลอดต่อเลยนะครับ

เมื่อวานคิดว่าจะไม่ได้ไปไหนซะแล้ว แต่เนื่องจากจุดปฏิบัติงานอยู่ตลาดหาดใหญ่ใน ซึ่งหาที่จอดรถได้ยากมาก ที่จอดที่สะดวกที่สุดคือวัดหาดใหญ่ใน วัดแห่งนี้เคยมาแล้วครั้งนึงแต่เข้ามาจอดรถหน้าโบสถ์ไม่ได้เดินดูทั่วๆ เห็นในลิสต์สถานที่สำคัญของสงขลามีวัดแห่งนี้รวมอยู่ด้วย โอกาสนี้จึงลองเดินดูให้รอบๆ แล้วก็ได้พบกับพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ยาว ๓๕ เมตร กว้าง ๑๐ เมตร สูง ๑๕ เมตร ถึงได้เข้าใจว่าวัดนี้มีความสำคัญอย่างนี้นี่เอง ในอดีตขนาดขององค์พระองค์นี้ อยู่อันดับที่สามของโลก แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนไปแล้วครับ เพราะมีการสร้างพระนอนองค์ใหญ่ขึ้นมาอีกหลายแห่ง

เนื่องจากพระพุทธรูปปางไสยาสน์มีขนาดใหญ่มีการสร้างวิหารคลุม จึงสามารถสร้างห้องใต้ฐานพระได้ด้วย ภายในนั้นประดิษฐานพระพุทธรูปอีกหลายองค์

นอกจากนี้พระอุโบสถวัดหาดใหญ่ในยังสร้างให้สูงมากๆ อีกด้วยแต่ปกติจะปิดตลอดจึงไม่มีโอกาสได้เห็นพระปฏิมาประธานในนั้น

อาคารเก่าแก่สร้างด้วยอิฐถือปูนผสมไม้ก็สวยครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 10:26:45 PM
อันนี้เรื่องเล่าวันที่ 23 นะจ๊ะ ที่หายไปไม่ได้มาเขียน ต่อจากวัดหาดใหญ่ใน จุดปฏิบัติการต่อไปคือ ยะลา ใจกลางเมืองเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดคาร์บอมบ์ กระจกหน้าร้านแตกกระจายหมดเลย ระหว่างทางจากหาดใหญ่ไปยะลาต้องผ่านปัตตานีนิดหน่อย (อันนี้เพิ่งรู้) ระหว่างทางเลียบหาดมีหาดที่น่าสนใจคือหาดสะกอมและหาดสร้อยสวรรค์ หาดสะกอมนั้นเงียบกว่า นักท่องเที่ยวน้อยกว่า ส่วนหาดสร้อยสวรรค์มีคนเปิดร้านอาหารแบบกระท่อมริมทะเลหลายร้าน ก็แล้วแต่ว่าชอบร้านไหน มีนักท่องเที่ยวคึกคักมาก จากนั้นไปปัตตานีเลยแวะไหว้พระหลวงปู่ทวดวัดช้างให้
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 10:32:29 PM
ดูต่อๆ วัดช้างให้เป็นวัดที่มีประชาชนเดินทางมานมัสการหลวงปู่ทวดไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นวันหยุด วันเสาร์-อาทิตย์ หรือ วันธรรมดา มีร้านอาหารแต่ไม่มากนัก ลานจอดรถหน้าวัดมีรถเข้าออกตลอดเวลา เมื่อจอดรถแล้วก็เดินข้ามทางรถไฟเข้าวัด
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 10:37:24 PM
ท้องฟ้าที่วัดช้างให้วันนี้แจ่มใสมากครับสวยมากๆ โชคดีจริงๆ ในชีวิตไม่รู้ว่าจะได้กลับไปที่วัดช้างให้อีกวันไหนจากนั้นก็เดินทางต่อไปยะลาครับ จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทางเข้ายะลาจึงมีการตั้งด่านเพิ่มเติม มีทหารดูแลเส้นทางคมนาคมหลายจุดครับการตรวจเป็นไปอย่างเข้มงวด
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 10:46:16 PM
ในที่สุดก็มาถึงจุดปฏิบัติงานเวลาประมาณบ่ายสองโมง จุดที่ผมยืนถ่ายรูปอยู่นี้เป็นหน้าศูนย์มาสด้า ซึ่งโดนแรงระเบิดทำให้กระจกเสียหายทั้งหมด จนต้องเปลี่ยนมาเป็นการใช้ประตูเหล็กม้วนแบบตาข่ายแทนกระจก ผมจอดรถห่างจากศูนย์มาสด้าไม่มาก(สุดเขตขาวแดง) หน้าร้านขนมจีน ทันทีที่ลงมาจากรถเจ้าของร้านขนมจีนก็เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปผมไว้ (จะดีใจดีมั้ยเนี่ย) เป็นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเสี่ยง ทุกคนต่างระวังป้องกันคนแปลกหน้าและพาหนะแปลกๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหตุการณ์คราวที่แล้วเกิดจากรถส่งนมเป็นรถขนระเบิดทำให้ประชาชนไม่ไว้ใจรถทุกชนิดที่ไม่คุ้น
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:02:26 PM
มีคนถามเข้ามาทางเฟสบุคว่าผมทำเว็บท่องเที่ยวทั่วไทยจริงหรือเปล่าทำเกี่ยวกับยะลามั้ย ผมตอบได้เลยว่าผมตั้งใจทำทั่วประเทศแต่สามจังหวัดที่มีปัญหากันนั้นจะต้องมีการวางแผนและงบประมาณสูงหน่อยจึงต้องเอาไว้ก่อนแต่ทริปนี้พิสูจน์ว่าผมกล้าไปก็ละกันเนาะ เนื่องจากชาวบ้านที่นี่แนะนำให้ผมออกจากยะลาก่อน 5 โมงเย็นเพื่อความปลอดภัย ผมจึงไม่ได้ไปเก็บภาพที่เที่ยวที่ไหนเลย สำหรับความสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถที่มีป้ายทะเบียนจังหวัดอื่นๆ ที่เข้าไปในยะลา(โดยเฉพาะกรุงเทพฯ) มีน้อยกว่าความปลอดภัยของรถทะเบียนสามจังหวัดจริงหรือเปล่านั้นชาวบ้านที่นี่ตอบว่าจริงครับ แต่ก็มีรถทะเบียนกรุงเทพฯ และเชียงใหม่แล่นไปมาให้เห็นบ้างแต่น้อยมากๆ

ออกมาจากยะลากลับมาหาดใหญ่ช่วงจะนะ ผมก็เก็บภาพหาดสร้อยสวรรค์ติดมาด้วย
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:08:52 PM
คืนวันที่ 23 ไปสวนสาธารณะหาดใหญ่มาครับหลายคนคงรู้ว่าในนั้นมีทางขึ้นเขาประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทับยืนองค์หนึ่งซึ่งมองเห็นแต่ไกล พระนามว่าพระพุทธมงคลมหาราช เนื่องจากเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง สว่างสวยงามมากก็พยายามทำสิ่งที่ไม่เคยสำเร็จ คือการถ่ายรูปกระต่ายบนดวงจันทร์ และไม่สำเร็จอีกนั่นแหละ แต่ก็สวยดี มีวิวที่มองเห็นหาดใหญ่ทั้งเมืองด้วยครับ

ที่พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีการถวายพวงมาลาในวโรกาสครบรอบ ๑๐๐ ปีวันเสด็จสวรรคตของพระองค์

จากนั้นก็เข้าเมืองสงขลา ดูงานชักพระหรือลากพระ มีโนรามาเล่น เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นโนราเป็นๆ วันนี้เอง คล้ายลิเกและหมอรำมากครับ

เข้านอนที่โรงแรมซิตี้ ห่างจากงานตักบาตรเทโวและลากพระ ประมาณ 4 กิโลเมตร โดยวางแผนว่าตอนเช้าจะนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปจะได้ไม่ต้องห่วงรถ ตอนออกมาก็ง่ายด้วยเพราะมีเวลาถึง 10 โมงเท่านั้นผมขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปในงานโดยถ่ายรูป 2 ข้างทางไปด้วยแล้วก็ได้ตักบาตรเทโวร่วมกับชาวสงขลาครับประเพณีชักพระหรือลากพระนั้นสวยงามมากครับ ชาวบ้านพร้อมใจกันดีแต่เนื่องจากเศรษฐกิจบ้านเรายังไม่ดีขึ้นมากนัก จำนวนเรือพระที่ส่งเข้าประกวดจึงลดลง นักท่องเที่ยวก็ไม่มากนัก
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:28:44 PM
นอกจากดูโนราแล้วก็ยังดูการประดับเรือพระที่จะส่งเข้าประกวดด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:35:03 PM
นั่งมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่จุดจัดงานประเพณีลากพระ(ถ่ายรูปไปด้วย ถ้าการรายงานข่าวแบบนั่งเฮลิคอปเตอร์รายงานเรียกว่าสกายนิวส์ ผมก็เรียกวิธีที่ผมใช้ว่าแวนซ์นิวส์ละกัน  ;D) ซึ่งจัดที่สระบัวแต่ขบวนแห่เริ่มต้นจากวงเวียนแหลมสมิหลา เลยต้องนั่งมอเตอร์ไซค์อีกคันจากนั้นเดินถ่ายเรือพระจากลำแรกไปเรื่อยๆ จนถึงท้ายขบวนระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร สำหรับในเรื่องเล่านี้คงเอารูปมาลงทั้งหมดทุกลำไม่ได้เอาบางส่วนละกันครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:39:35 PM
ดูต่อครับ มีการแต่งกายเครื่องแบบนักเรียนด้วย  :D
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:44:50 PM
นอกจากความสวยงามแล้วก็ยังมีความคิดสร้างสรรค์โดยการใช้วัสดุเหลือใช้อย่างขวดพลาสติกและแผ่นซีดีด้วย
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 25, 2010, 11:50:46 PM
ดูต่ออีกหน่อย หลังจากนี้ก็เดินทางมากระบี่ทำงาน จากนั้นก็ไปภูเก็ตค้าง 1 คืน แล้วมาระนอง ที่ภูเก็ตนั้นก็ไปเก็บหาดต่างๆ ที่ยังขาดอยู่จากทริปล่องใต้ ภาค 1 และ ภาค 2 มาภาค 3 แล้วก็ต้องไม่ผิดหวัง
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 26, 2010, 01:01:54 AM
วางแผนโดยการนอนที่หาดกะรนที่เดิม (บูกิตกะรนบีช) ตอนนี้ราคาเปลี่ยนเป็นราคาไฮแล้วครับ ตื่นเช้าก็ออกตระเวนหาดกะรนก่อนเลย
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 26, 2010, 01:06:24 AM
ขับตามเส้นทางไปหาดกะตะ ช่วงนี้มีการขุดวางสายคเบิลใต้ดินรถจากกะตะไปกะรนวิ่งสะดวก จากกะรนไปกะตะจะต้องคอยหลบเอาเนื่องจากขุดช่องทางของเราไปครึ่งหนึ่งถึงกะตะก็จอดรถแล้วถ่ายรอบลานจอดรถเพราะหากจะเดินให้สุดหาดคงไกลไป ระหว่างทางถนนเลียบหาดกะตะไม่มีที่จอดรถ ทางลงหาดมี 2 ทางคือหัวและท้ายหาดเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 26, 2010, 01:11:54 AM
ขับรถต่อจากหาดกะตะมาที่หาดกะตะน้อย เส้นทางระหว่าง 2 หาดนี้ไม่ไกลแต่ชัน ทางมาหาดกะตะน้อยเป็นทางตัน หาดกะตะน้อยห้อมล้อมด้วยรีสอร์ทโรงแรมจนหมด ร้านสะดวกซื้ออยู่ไกลหาด มีทางเดินเล็กๆ ลงไปนักท่องเที่ยวที่มาพักโรงแรมย่านการค้าเวลาเดินลงหาดน่าเห็นใจมากเพราะต้องเดินตามทางที่ชันพอสมควรเข้าไปจนถึงรีสอร์ทที่ติดหาดแล้วเดินเลียบลงไปด้านข้าง หาดกะตะน้อยสั้นมากไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวถ้าเทียบกับหาดกะตะ

วันนี้ได้เห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมานั่งวิปัสสนาวิชาของหลวงปู่คำเขียน (เคลื่อนไหวมือ 14 จังหวะ) อยู่ริมหาดน่าแปลกมากที่มานั่งวิปัสสนาถึงภูเก็ต
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 26, 2010, 01:17:47 AM
ออกจากกะตะก็มุ่งหน้าไปหาดราไวย์ทางเดียวกันกับแหลมพรหมเทพ ผ่านจุดชมวิวเขาสามหาด หาดราไวย์เป็นหาดที่มาบ่อยมากทุกครั้งที่มาภูเก็ตก็จะได้มาหาดราไวย์ ไม่ว่าจะมากินข้าวหรือมาถ่ายรูปแต่ทุกครั้งก็ได้ภาพยังไม่ถูกใจเท่าครั้งนี้
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 26, 2010, 01:22:53 AM
ต่อด้วยอ่าวฉลองนิดหน่อยก่อนออกจากภูเก็ต หลังจากนี้ไม่นานก็ส่งข้อความเข้าเฟสบุค(ใช้มือถือ) ว่าฟ้าใสคลื่นแรง แต่แล้วก็ครึ้มและฝนตกหนักซะงั้น กว่าจะเสร็จงานในภูเก็ตก็บ่ายสามโมง ออกจากภูเก็ตพอถึงพังงาฝนก็ตกตลอดจนถึงระนอง หวังว่าเช้านี้ฟ้าจะใสพอที่จะถ่ายอะไรได้บ้างนะ ไม่งั้นจ๋อย  :-\ ไว้จะเล่าต่อครับ  8) นอนก่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 26, 2010, 10:18:22 AM
ไปลั้นลามาซะหลายวัน กับมาอ่านเรื่องเล่ายาวมากเลย อ่านสนุกไปเลย
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 26, 2010, 11:06:26 AM
ไปลั้นลามาซะหลายวัน กับมาอ่านเรื่องเล่ายาวมากเลย อ่านสนุกไปเลย

แล้วอย่าลืมเอาเรื่องลั้ลลามาเล่าแล้วกันนะ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 28, 2010, 12:41:26 PM
หายไปหลายวันเนื่องจากขับรถยาวเลยอีกอย่างฝนตกเนื่องจากมรสุมเข้าภาคใต้ตอนกลาง เลยโชคไม่ดีคิดว่าจะไม่ได้ที่ไหนแล้วนะเนี่ย ปรากฏว่าหลังจากที่นอนระนองรุ่งเช้าทำงานที่ระนองเสร็จบ่ายสามต้องไปส่งคนที่สนามบินภูเก็ต เลยนอนที่ถลางได้วัดที่สำคัญของภูเก็ตมาอีก 2 แห่งคือวัดพระทอง (พระผุด) ซึ่งมีประวัติความเป็นมาว่าพระเกตุมาลาของพระพุทธรูปโผล่ขึ้นมาจากดิน แต่คนเข้าใจว่าเป็นหลักตอไม้นำวัวไปผูก ต่อมาทั้งคนที่ผูกและวัวต่างก็ป่วยตาย แล้วก็มีเรื่องราวต่อกันมาอีกนานจนในที่สุดก็มีการขุดพระพุทธรูปและสร้างวิหารคลุมไว้ดังเช่นทุกวันนี้ (หาอ่านจากหน้าข้อมูลละกันนะครับ เดี๋ยวคงเขียนเสร็จ)
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 28, 2010, 12:47:11 PM
หลังจากนมัสการพระทองในวิหารแล้วก็ออกเดินทางไปสนามบินภูเก็ต ซึ่งต้องไปกลับรถที่วัดพระนางสร้างพอดี ความสำคัญของวัดพระนางสร้างนั้นน่าสนใจกว่าที่ผมคิดไว้ เพราะวัดแห่งนี้ในประวัติศาสตร์เคยใช้เป็นค่ายทหารในการต่อสู้กับพม่า ส่วนวัดพระนางสร้างแห่งนี้มีตำนานเล่ากันว่า ผู้สร้างคือพระนางเลือดขาว เพราะเหตุว่ามีการเข้าใจผิดคิดว่าพระนางเป็นชู้กับมหาดเล็กจึงถูกสั่งประหารชีวิต ก่อนวันประหารชีวิตพระนางได้ขอเดินทางไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ลังกาก่อนเมื่อกลับมาพระนางได้พักที่เกาะถลางและสร้างวัดเป็นที่ระลึกโดยการนำโบราณวัตถุและของมีค่ามาฝังไว้ด้วย เมื่อเดินทางกลับสู่พระนครก็ถูกประหารชีวิตแต่มีเลือดไหลออกมามีสีขาว จึงเรียกขานกันว่าพระนางเลือดขาว

ถ้าจะเข้าภูเก็ตผ่านอำเภอถลางจะเห็นวัดพระนางสร้างอยู่ขวามือ ตรงสี่แยกไฟแดงจุดเด่นอยู่ที่ซุ้มประตู สองด้าน ซ้ายและขวา ทางหนึ่งเป็นทางเข้าทางหนึ่งเป็นทางออก แต่สร้างเหมือนกันด้วยรูปหนุมานแบกเรือสวยงามมาก
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ ตุลาคม 28, 2010, 02:28:30 PM
หลังจากนมัสการพระทองในวิหารแล้วก็ออกเดินทางไปสนามบินภูเก็ต ซึ่งต้องไปกลับรถที่วัดพระนางสร้างพอดี ความสำคัญของวัดพระนางสร้างนั้นน่าสนใจกว่าที่ผมคิดไว้ เพราะวัดแห่งนี้ในประวัติศาสตร์เคยใช้เป็นค่ายทหารในการต่อสู้กับพม่า ส่วนวัดพระนางสร้างแห่งนี้มีตำนานเล่ากันว่า ผู้สร้างคือพระนางเลือดขาว เพราะเหตุว่ามีการเข้าใจผิดคิดว่าพระนางเป็นชู้กับมหาดเล็กจึงถูกสั่งประหารชีวิต ก่อนวันประหารชีวิตพระนางได้ขอเดินทางไปนมัสการพระบรมสารีริกธาตุที่ลังกาก่อนเมื่อกลับมาพระนางได้พักที่เกาะถลางและสร้างวัดเป็นที่ระลึกโดยการนำโบราณวัตถุและของมีค่ามาฝังไว้ด้วย เมื่อเดินทางกลับสู่พระนครก็ถูกประหารชีวิตแต่มีเลือดไหลออกมามีสีขาว จึงเรียกขานกันว่าพระนางเลือดขาว

เสริมนิดนะครับ เกี่ยวกับเรื่องพระนางเลือดขาว หรือพระนางมะซูรีย์ ขณะนี้ทายาทของพระองค์รุ่นที่ 7  ได้อยู่ที่ภูเก็ตด้วยนะครับ เป็นเด็กสาววัยรุ่น ชื่อ"เมย์" ศิรินทรา ยายี ทายาทรุ่นที่ 7 ของพระนางเลือดขาว "พระนางมะซูรีย์" เจ้าของตำนานเลือดสีขาวผู้ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยไร้ความผิดและร่ายคำสาปให้เกาะลังกาวีตกอยู่ในความทุกข์เข็ญมานานถึง 7 ชั่วคน
เคยออกรายการ ของไตรภพ ด้วยนะครับ ทางช่อง ITV นานพอสมครว
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ ตุลาคม 28, 2010, 02:40:12 PM
หลังจากส่งลูกค้าที่สนามบินภูเก็ตผมก็มาทำงานต่อที่ชุมพร โดยผ่านสุราษฎร์ธานีฝนตกตลอดการเดินทาง หนักบ้างเบาบ้าง ระหว่างอยู่ในสุราษฎร์ผมก็ไปทำบุญกับงานชักพระของที่นั่น นิดหน่อยเพราะมีฝนตกปรอยๆ เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาก

นอนชุมพร 1 คืน จนเช้านี้พยายามไปดูเหยี่ยวแต่ก็ไม่ทันแล้ว ฝูงเหยี่ยวอพยพไม่มีให้ชมกันแล้วครับไม่ต้องมานะครับ หากโทรถามใครแล้วมีคนบอกว่ามีเหยี่ยวอยู่ละก็ไม่ต้องไปเชื่อ สรุปว่าอยู่ที่ชุมพรก็ไม่ได้ไปไหนเลยรอวันเดินทางกลับคือพรุ่งนี้เช้า คงขอจบเรื่องเล่าเอาไว้เท่านี้ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบทริปครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 05:44:01 PM
ล่องใต้ภาค 4 เที่ยวนี้ไปศรีพันวาช่ายป่าวพี่
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Tommy ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 05:48:32 PM
ม่ายช่าย ภาค ๔ หาดใหญ่ ภาคประเมินความเสียหายจากน้ำท่วมคร้าบ
ภาค ๕ ศรีพันวามาแน่นอนครับ
หัวข้อ: Re: ล่องใต้ ภาค ๓
เริ่มหัวข้อโดย: Puripatt ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:44:20 PM
ยิ่งกว่าหนังอีก มีภาค 4 5 6 ยาวมาก