Touronthai Forum สนทนาประสาเที่ยว
หมวดหมู่ทั่วไป => แบกเป้เที่ยว AEC เรื่องราวท่องเที่ยวต่างแดน => ข้อความที่เริ่มโดย: Pui ที่ กรกฎาคม 26, 2014, 12:15:51 PM
-
วันหยุดเข้าพรรษา ได้มีโอกาสไปเที่ยวนครวัด นครธม ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง เสียมราฐ หรือคนไทยมักเรียกว่า เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา หนึ่งในประเทศ AEC เที่ยวง่ายนะจ้ะ ไม่ต้องซื้อทัวร์ ภาษาอังกฤษไม่ต้องแข็งแรงมาก ก็ไปได้สบาย ๆ
-
การเดินทาง สามารถเดินทางได้หลายช่องทางเนื่องจาก มีสายการบินราคาถูกไปเปิดรูทเส้นทาง ราคาไปกลับไม่กี่พัน และวิธีการเดินทางอีกหนึ่งทางเลือกคือ การนั่งรถ ข้ามจากด่านปอยเปต ตรงอรัญประเทศ ซึ่งขาไปเราเลือกเดินทาง โดย นั่งรถ ขากลับ นั่งเครื่อง
ถ้าเลือกนั่งรถ จะมีทั้งรถบ่อนที่ข้ามไปเล่นคาสิโน แต่ รถจะออกแต่เช้า มีตั้งแต่เวลาตีสี่ ตี่ห้า และรถบัสของ บขส999 ที่สามารถนั่งยาวไปถึงเสียมเรียบ ใช้เวลาตั้งแต่ 9.00-17.00 นใ ราคา 750 บาท แต่วิธีที่เราเลือก คือนั่งรถตู้ ไปลงที่โรงเกลือ ราคา 230 และเดินข้ามแดน เหมารถจาก ด่ายปอยเปตถึงเสียมราฐ ราคา 1500 บาท ไปสี่คนหารค่ารถแล้ว คนละ สามร้อยกว่าบาท ใช้เวลา ประมาณ สอง ชม ครึ่ง นอกจากนี้ ตรงด่านปอยเปต มีรถประจำทางวิ่งไปที่เสียมราฐเช่นเดียวกัน ประมาณคนละ เก้าเหรียญ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าใช้เวลานานแค่ไหน :P ;D
-
เมื่อมาถึงเสียมราฐแล้ว เราให้คนขับรถพาไปส่งที่ โรงแรม และพาไปติดต่อ เช่ารถ เพื่อเริ่มเที่ยวในวันรุ่งขึ้น โดยคนขับรถได้พาไปที่บริษัท ทัวร์หนึ่ง จำไม่ได้ชื่ออะไร แต่ บริการ พอใช้ได้ โดย ได้พูดคุยโปรแกรมที่ต้องการไป โดยเราตกลงว่าเช่าเป็นตุ๊กๆ หรือจะเลือกเช่ารถเป็น รถโตโยต้าแคมรี่ก็ได้ แต่จากข้อมูลที่ได้มา เราคิดว่า นั่งตุ๊กๆก็พอได้ เพราะ สถานที่เที่ยวไม่ได้ ไกลมาก วันแรก เราเหม่ารถทั้งหมดสามวัน บวกค่าเข้าเที่ยวชมประสาท สามวัน สี่สิบเหรียญ และค่าเรือ ไปเที่ยวโตนเลสาป อีกคนละห้าเหรียญ มารับเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ตอนตีห้ารวมทั้งมารับเราไปส่งที่สนามบิน วันกลับด้วย ตกคนละประมาณ 80 เหรียญ ก็ไม่รู้ว่าแพงหรือเปล่า แต่เราทุกคนพอใจกับราคา ก็ตกลงไปกับเจ้านี้
หน้าตารถตุ๊กๆ ที่พาเราเที่ยวทั้งสามวัน
คนขับชื่อทอมมี่ อารมย์ดียิ้มแย้มแจ่มใส มีน้ำเปล่าแช่เย็นบริการให้ทั้งวันทุกวัน ถ้าสนใจ มีอีเมล์ ของบรฺิษัททัวร์ นี้นะจ้า
-
เราเลือกที่พักย่านตลาดเก่า เพราะใกล้ กับไนท์มาร์เก็ต สตรีทพับ แหล่งท่องเที่ยวคล้ายๆถนนข้าวสารบ้านเรา หลังจากเข้าที่พักเก็บข้าวของ แล้ว ก็แจ้ง คนขับรถของเรา ว่าอยากกินอาหารที่มีโชว์นางอัปสรา ด้วย คนขับตุ๊กๆของเรา ก็พาไปพร้อมทั้งซื้อบัตรเข้าชมและอาหารท้องถิ่นแบบบุฟเฟ่ ในราคา 10 เหรียญ ถ้ามเรามาซื้อเอง ราคา 12 เหรียญ ถือว่า คุ้มค่านะในความคิดเห็นเรา เพราะมีอาหารท้องถิ่นให้เลือกเยอะรสชาติดี และมีโชว์เกี่ยวกับนางอัปสรา ประมาณ 5 โชว์ ราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มนะจ้ะ
-
เช้าวันรุ่งขึ้นคนขับรถนัดมารับเรา เวลา ตีห้า เพื่อ ไปทำบัตรผ่านเข้าชมปราสาท ก่อนและ เลยไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่นครวัด คนขับบอกว่าในฤดูฝน ฝนมักจะตก ช่วงบ่ายๆ เย็น ๆ ช่วงเช้า มักไม่ตก แต่ ฟ้าจะสวยหรือไม่ แล้วแต่ดวง หุหุ และแล้ว ก็ได้มาแค่เท่าที่เห็น หุหุ ถึงพระอาทิตย์จะฟ้าไม่สวย แต่ทั้งสองวันของการเที่ยวของเรา ถือว่าประสบความสำเร้จที่เดียว เพราะได้ ฟ้าสีฟ้า มา ไม่เจอฝน นับว่ามาเที่ยวน่าฝน ที่โชคดีระดับหนึ่ง คริคริ :P ::)
-
หลังจาก ดูพระอาทิตย์กันแล้ว เรา ก็ไป ต่อ ที่นครธม หรือ จะเรียกว่า บายน ก็ได้ เป็นวัดที่สวยอลังการไม่แพ้นครวัด โดยก่อนจะเที่ยวชม นครธม เรา ก็ ไปรับประทานอาหารเช้า บริเวณ นั้น โดย ราคาอาหาร ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยว ถือว่า ราคาสูง อาหารจานเดียว เริ่มต้นที่ประมาณ สี่เหรียญขึ้นไป แต่ปริมาณอาหาร ก็เยอะพอสมควร ใครที่ทานไม่มาก ก็ ทานกันสองคน ได้ หลังจาก ทานข้าวกันเรียบร้อย คนขับก็พาเรามาปล่อยที่ นครธม และให้เราเที่ยวชมที่เที่ยว บริเวณนี้กันเอง แล้วคนขับจะมารอรับเราทางด้าน บริเวณที่ทานข้าว จุดที่เที่ยวบริเวณนี้ จะมีหลายจุดเหมือนกัน ใช้เวลานาน ทีเดียว และใช้การเดินสะเป็นส่วนใหญ่
-
แอบ ดีใจที่เห็นแสงแดดและฟ้าเป็นฟ้า ;D ;D เพราะ มาเที่ยวน่าฝนตกลุ้นฟ้าฝนกันหน่อย
มุมถ่ายรูปเยอะมาก แสงเงา แสงรอด หาไม่ยากนะ ถ้าชอบถ่าย
-
ยังอยู่ที่นครธม อิอิ ถ้ามาสาย ทัวร์จีนมาลง คนเยอะมาก แอบหงุดหงิด มนุษย์ป้าทัวร์จีน
-
เดินชมเสร็จ ก็เดินข้าม ไปอีกถนน จะเป็นกลุ่มบาปวน (ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบนี้หรือเปล่า) จำชื่อไม่ค่อยได้ แต่ สถานที่จะกระจุกตัวอยู่ติดๆ กัน จริงๆสามารถปั่นจักรยานมาจากที่พักได้ มีจักรยานให้เช่า ราคาวันละ สองเหรียญ ระยะทาง เที่ยวนครวัด นครธม หย่อมนี้ ไปกลับน่าจะอยู่ประมาณ 20 กิโลเมตรได้ คิดคิด แล้ว ว่าปั่นเสร็จ ต้องมาเดินปีนปราสาทด้วยนะ จะไม่ไหว เช่ารถตุ๊กๆแบบนี้ดีแล้ว :P :P
-
เดิินๆ เข้าช่องนู้น ออกช่องนี้ เดินกันเหงื่อท่วม แดดแรง มาก เห็นเป็นพระนอน ไหมอ่ะ
-
:o :o :o เดินกันคิดว่าทั่ว 555 ก็มาขึ้นรถที่รออยู่ปลายทาง ออกจากจุดสถานที่ตรงนี้ ก็ไปต่อ ไม่ไกลมาก วัด จำชื่อไม่ได้ แต่แบบว่าเดินกันอย่างเร็ว เพราะ ร้อน เริ่มเหนื่อย ถ่ายรูปสองแชะๆๆ พอๆ ขึ้นรถไป วัดต่อไป
-
วัดต่อไป วัดตาแก้ว กำลังซ่อมปรับปรุง แต่ก็มีมุมให้ถ่ายรูปนะ เป็นวัดที่ใหญ่อลังการทีเดียว หุหุ แต่ไม่ได้ปีนขึ้นไป ถ่ายแต่ด้านหน้า :o :o
หน้าวัดทุกวัด มีคนตรวจบัตร ตลอดนะจ้ะ ถ้า ไปเที่ยวแล้วถ่ายแต่ด้านนอก ก็ไม่ต้องซื้อบัตรผ่านก็ได้ หรือเลือกซื้อแค่ เที่ยววันเดียว ราคา 20 เหรียญ แล้วก็เลือกเฉพาะวัดที่อยากเข้าไปดู ถ้าวัดไหน ถ่ายแค่รอบๆ ก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่ว่าซาบซึ้งกันแค่ไหน ค่ะ
-
มาต่อกันที่วัดไฮไลทอีกที่ วัดตาพรหม วัดที่เคยเป็นฉากในหนังเรื่องธูมไลเดอร์ จุดเด่นของที่วัดนี้ คือ ต้นไม้ต้นใหญ่ๆขึ้นปกคลุมโครงสร้างของวัด
-
ทัวร์จีน ทัวร์ไทย ทัวรืต่างชาติ มากมายที่วัดนี้
ข้อดีของการมาเอง เราเที่ยวได้ครบทุกวัดแน่นอน ถ้ามากับทัวร์ จะมีไปแค่วัดที่เป็นไฮไลท์ ไม่กี่วัน ต้องเดินตามกันไป ไม่เป็นอิสระ
-
เสร็จจากวัดตาพรหม ก็ไปกันต่อ แต่จำชื่อไม่ได้ :P :P คล้ายๆพระปรางค์สามยอด ที่ลพบุรี
-
และสุดท้ายของวันนี้ เรา กลับมาเดินเที่ยวกันที่นครวัด กันอีกรอบ เนื่องจากเมื่อเช้าเราเข้ามาเดินแค่รอบนอกเพื่อถ่าย พระอาทิตย์ขึ้นเท่านั้น คนขับรถพาเรามาเข้าจากด้านหลังของนครวัด
-
จะมีภาพแกะสลักรอบทั้งสีด้าน แบ่งเป็นชั้น เดินเข้าชั้นในสามารถ ปีนขึ้น องค์ปราสาทได้ แต่ต้องแต่งกายเรียบร้อย กางเกงขายาว เสื้อมีแขนเท่านั้น
และเราก็ไม่ขึ้นกัน เพราะว่าเเหนื่อยจากการเดินเที่ยวมาทั้งวัน แล้ว
-
หลังจากเสร็จแล้วคนขับรถก็พามา ส่งที่ โรงแรม ตอนแรกเราอยากไปดู คาบาเล่ของที่นี้ แต่ว่าราคาแพงมาก ตกคนละ 800 บาท รวมอาหาร แล้ว เลยไม่ได้ไปดู พอพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ก็ออกมาเดินเล่น หาอะไรกินกัน แล้วก็เลยไปเดินที่ไนท์มาเก็ต ที่มีลักษณะคล้ายๆกับ ถนนข้าวสารบ้านเรา แวะนวดเท้า กันหน่อยราคาไม่แพง ชม ละ ห้าเหรียญ ที่นี้จะเป็นแหล่งขายสินค้าของฝากต่างๆ และอยู่ติดกับผับสตรีท
-
หลังจากพักผ่อนกันมาแล้วเมื่อคืน (ทีวีที่นี้สามารถรับช่องของไทยได้ด้วยนะ) เรานัดรถให้มารับ เก้าโมงเช้า
วันนี้เราเที่ยวปราสาทรอบไกลขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง จาก โรงแรม นั่งรถไปกว่าจะถึงวัดแรกก็ประมาณ สี่สิบนาที
ปราสาทแปรรูป
-
ไปวัดต่อไปค่ะ วัดนี้ เขาก็ว่า มันคือไฮไลท์ แต่ ทัวร์ ไม่ค่อยมีไปนะ ต้องมาส่วนตัว มันนั่งรถไกลเหมือนกัน
วัดบันทายศรี (ไม่แน่ใจว่าเขียนแบบนี้หรือเปล่า ค่ะ เช็คดูอีกทีค่ะ) ที่นี้จะมี นิทรรศการเล็กๆ ให้ชมด้วย
-
เด็กเขมร หุหุ
-
วัดต่อไปกันเลย วัดนี้ก็ใหญอลังการอีก คล้ายๆปราสาทแปรูป
-
ลอดท้องช้าง หุหุ กลับมาถูกล๊อตตารี่ห้าใบนะจ้ะ
-
มาต่อกันที่วัดต่อไป หลังๆเริ่มจำไม่ได้ ว่าชื่อวัดอะไรกันบ้าง
-
วัดนี้ มี นางอัปสรา ตกแต่งตาม ประตู หน้า่ต่าง มากมาย ไม่ซ้ำกันเลย อ่ะ
-
อีกสักรูป :D :D
-
มาต่อกันที่วัดต่อไป ทางเข้าเป็นน้ำล้อมรอบ แต่ตัววัด เป็นเหมือนสระน้ำ ไม่มีปราสาท เราใช้เวลาไม่นานกับวัดนี้
-
วัดนี้ เป็นวัดก่อนสุดท้าย ฝนตก นิดหน่อยช่วงเย็นๆ ก่อนที่จะไปดูพระอาทิตยืตกที่พนมบาเค็ง
-
วัดนี้ ค่อนข้างลึก มีจุดที่เขาแนะนำให้ถ่ายรูป
-
ถ่ายรูปอยู่สักพัก ก็ ออกมาจาก วัดนี้ เพราะได้เวลา ที่จะไปดูพระอาทิตย์ตก ที่พนมบาเค็ง ที่พนมบาเค็ง จะ ต้องเดินเท้าปีนขึ้นไป ใช้เวลาประมาณ10-20 นาทีี แล้ว แต่ ความเร็ว ของแต่ละคน แอบลุ้นว่า ฟ้าจะสวยเพราะมีฝนตกไปเมื่อตอนก่อนมาถึงวัด แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตก แต่แอบมีแสงรอดออกมาให้ลุ้นกันนิดหน่อย
-
วิวบนพนมบาเค็ง ด้านหนึ่งมองไปจะเห็น นครวัด ด้วย
-
ความยิ่งใหญ่ของพนมบาเค็ง :P :P
-
วันสุดท้าย ของทริป ตอนแรก เราตั้งใจ อยากจะไปพนมกุเลน ซึ่ง จะมีศิวลึงที่อยู่ใต้น้ำเป็นพันๆ อัน แต่ ด้วย ระยะทาง ที่ไกลประมาณ 60 กิโลเมตร ซึ่งจะมีเส้นทางที่เป็นลูกรังประมาณ 15 กิโล อาจจะใช้เวลานาน กลัวจะกลับไม่ทันขึ้นเครื่องบิน เราจึงเลือกที่จะไปนั่งเรือชมวิถีชีวิตคนอาศัยอยู๋ในแพ แทน
ถ้าใครสนใจไปเส้นวัดพนมกุเลน แล้ว ยังมีน้ำตกพนมกุเลน ให้ดูอีกด้วย และต้องเสียค่าเข้าชมวัดนี้ต่างหากจากบัตรเข้าชมปราสาท เพิ่ม อีก 20 เหรียญ
วันนี้ให้คนขับรถตุ๊กๆมารับตอนสิบโมงเช้า นั่งรถไม่นานก็มาถึงท่าเรือสำหรับนั่งเรือแล้ว เราต้องเสียเพิ่มอีกสามเหรียญให้กับรัฐบาล นอกจาก ห้าเหรียญที่เสียค่าเรือให้กับทัวร์ที่เราเหมาตั้งแต่วันแรก ซึ่งอันนี้เราก็ไม่เข้าใจว่าเราโดนหรอกให้จ่ายเงินเองหรือเปล่า
เผื่อใครสนใจไป จะได้เช็คดูว่า มันต้องจ่ายจริงหรือเปล่า
-
จะมี โรงเรียน ที่รับบริจาคสิ่งของจากนักท่องเที่ยวด้วย เนื่องจาก เด็กๆ โดนพ่อแม่ทิ้งไปหางานทำที่อื่น จึงเกิดเป็นศูนย์ขึ้นมา นอกจากโรงเรียน ก็จะมีร้านอาหาร ที่ ให้นักท่องเที่ยวมานั่งกินอาหาร มี การเลี้ยง ฟาร์มปลา ฟาร์มจระเข้ ด้วย แต่ถ้าถามว่าน่ามานั่งเรือเที่ยวชมไหม หุหุ โดยส่วนตัวคิดว่าไม่น่าสนใจนะ น่าจะไปพนมกุเลนมากกว่า
-
สุดท้ายก่อนกลับขึ้นเครื่อง เราไปแวะดูพิพิธภัณฑ์ ของที่ นี้ เสียค่าเข้าคนละ 12 เหรียญ แนะนำว่าให้มาดูก่อน ที่จะไปเริ่มเที่ยวแต่ละปราสาท เพราะจะทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์ ที่มาที่ไปของนครวัด นครธม มากยิ่งขึ้น
;D ;D