Touronthai Forum สนทนาประสาเที่ยว
หมวดหมู่ทั่วไป => แบกเป้เที่ยว AEC เรื่องราวท่องเที่ยวต่างแดน => ข้อความที่เริ่มโดย: Pui ที่ ตุลาคม 17, 2013, 11:23:47 AM
-
เมื่อนึกถึงปรเทศพม่า วูบแรกที่รู้สึก จะคิดว่าเป็นประเทศที่น่ากลัว เนื่องจากตอนเด็กๆมักจะได้ยินข่าวของคนพม่ามาในมุมลบ แต่จากการที่ได้ไปสัมผัสประเทศพม่า ทำให้รู้ว่าจริงๆแล้วคนพม่า ใจดี เป็นเมืองพุทธ มีความนอบน้อมและมีน้ำใจ และที่สำคัญไปเที่ยวง่ายกว่าที่คิด
-
ใครๆ ก็บินได้ เมื่อถึงประโยคนี้ ก็ต้องนึกถึง สายการบินราคาประหยัด ขวัญใจของเรา คือแอร์เอเชีย ทริปนี้ จองตั๋วโปรโมชั่นของแอร์เอเชีย ราคาเบาๆ ไปลงมัณฑาเลย์ โดยเราไปถึงประมาณ บ่ายโมง ที่สนามบินมัณฑาเลย์ เราต้องทำวิซ่ามาจากเมืองไทยก่อน ราคา 810 บาท สถานทูตพม่าอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์มนตรี ยื่นเอกสารขอทำวีซ่าตั้งแต่ 9.00-12.00 และ นับไป 3 วันทำการเพื่อรับเล่มในเวลา 15.30-16.30 น. เท่านั้นนะจ้า
-
เมื่อเราผ่าน ตรวจคนเข้าเมืองมาเรียบร้อยแล้ว เราก็จะแลกเงินจ๊าด เงินสกุลพม่า เราใช้ US ไปแลก โดย อัตราแลกเปลี่ยนวันที่ 10 ตค 2556 อยู่ที่ 963 จ๊าด ต่อ 1 เหรียญ ( แอบกระซิบให้แลกที่ เคาร์เตอร์ของธนาคารด้านนอก จะได้เรทที่ดีกว่านิดหน่อย 965 หุหุ) หลังจากทำการแลกเงินเรียบร้อย ก็เดินไปติดต่อหารถเพื่อเข้าไปยังตัวเมือง มัณฑาเลย์ แต่สำหรับเราซึ่งหาข้อมูลมาแล้ว กางแผนที่จะเห็นว่าระหว่างเข้าเมืองมัณฑะเลย์ จะผ่านเมือง สกาย และเมืองอมรปุระหรือที่เรียกว่าอังวะ เราเลือกที่จะแวะเที่ยวไปตามทางก่อนจะเข้าเมืองในเวลาเย็น จะได้ไม่ต้องย้อนกลับไปกลับมา เราจึงพูดคุยกับแท็กซี่และบอกโปรแกรมที่เราต้องการไป โดย เช่ารถไป ยังเมืองสกาย แวะ วัดกวงมูดอร์ วัดสกาย ที่ตั้งอยู่บนสกายฮิว และปิดท้ายที่สะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก ระหว่างทางก็บอกว่าให้พาไปซื้อตั๋วรถบัสเพื่อเดินทางต่อไปยังพุกามในวัน ค่ำวันถัดไป สนนราคาต่อรองแล้วอยู่ที่ 42500 จ๊าด
-
ออกจากสนามบิน นั่งรถผ่านท้องทุ่ง ไปสัก 30 นาที ก็ถึงเป้าหมายแรกที่ คือ วัดกวงมูดอร์ หรือวัดนมสาว อิอิ เหมือนไหม อ่ะ
-
วัดกวงมูดอร์ ตั้งอยู่ที่เมืองสกาย บริเวณองค์เจดีย์ ก็จะมีของขายอยู่รอบๆ โดยเฉพาะแป้งทานาคา ที่สาวพม่า ชอบทากันทุกคน
-
เสร็จจากวัดกวงมูดอร์เราไปวัดสกายกันต่อ :D :D
-
เจดีย์วัดสกาย วัดในพม่า จะมีพระพุทธรูปอยู่ทั้งสี่ทิศ พระพุทธรูปจะหน้าตาไม่เหมือนกัน
-
เสร็จจากวัดสกาย เราไปซื้อตั๋วรถ ที่สถานีขนส่งของที่มัณฑาเลย์ เพื่อไปพุกาม คนขับรถพาเราไปที่ช่องขายตั๋วเลย (เข้าไปจะมึนๆนิดหนึ่งเพราะไม่มีป้ายหรืออะไรที่บอกเป็นภาษาอังกฤษเลย) โชคดีที่คนขายตั๋วพอฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่อง เราได้ตั๋วรถไปพุกาม เวลา 22.00 น. ราคา 8500 จ๊าด
หลังจากซื้อตั๋วเสร็จ เราก็ไปสะพานไม้อูเบ็งต่อทันที
-
เรากะเวลามาให้ทันถ่ายพระอาทิตยืตกที่สะพานไม้อูเบ็ง ระยะทางของสะพานไม้ที่นี้น่าจะประมาณ 2 กิโลเมตร ข้ามไปอีด้านของสะพานจะเจอวัดมหากันดายน แต่เราไม่ได้เข้าไปเนื่องจากเย็นแล้ว เราต้องการถ่ายพระอาทิตย์ตก เดินถ่ายรูปเล่นๆ ในหลายๆมุม
-
ยิ่งเย็น คนก็ยิ่งเยอะ ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งชาวพม่า มานั่งชมพระอาทิตย์ตก บริเวณรอบๆ คนพม่าลงไปจับปลา นั่งเรือชมพระอาทิตย์ตก
-
อีกสักรูป ที่สะพานไม้อูเบ็ง
-
อิอิ ชอบๆ
-
หลังจากเที่ยว เสร็จ เราก็กลับเข้าที่พัก รร.fortune แล้วออกมาเดินหาอะไรกิน ด้วยความที่ไม่ได้ดูข้อมุลเกี่ยวกับแหล่งอาหารการกิน ทริปนี้น้ำหนักลด หุหุ เนื่องจาก ร้านอาหารที่มีขายมีไม่มากและที่มีก็ดูไม่กน่ากิน ดังนั้น เลยอดมื้อกินมื้อ ไปหกวันปรากฎว่าน้ำหนักลดไป 2 โล หุหุ
เช้าวันต่อมาเรายังวนเที่ยวอยู่ในมัณฑาเลย์ สำหรับเช้าเรานั่งเรือไปเที่ยวที่มินกุง โดย มาขึ้นเรือที่ท่าเรือ สุดถนนสายที่26 จาก รร ที่พัก เราเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 กม. ก็ถึงท่าเรือ ค่าเรือไปกลับ ราคา 5000 จ๊าด เรืออก 9.00 และขากลับเวลา 13.00 น. ระหว่างเดินไปเรื่อยๆก็จะมีชาวพม่ามาสอบถามตลอดว่า ไปไหน มอเตอร์ไบค์??
ก่อนจะมาเราทำการโหลดภาพดาวเทียมจากกูเกิลเอิทเก็บไว้ก่อน ถึงเวลาเรากางแผนที่จากไอแพด แล้วมาคจุด ก็เป็นประโยชน์มากสำหรับเที่ยวแบบนี้
-
เรือของเรา ขาไปใช้เวลา 1 ชม หลับเพลิน ขากลับ ตามน้ำ นั่งแค่ ครึ่ง ชม
-
ล่องแม่น้ำอิรวดี มาขึ้นฝั่งที่มินกุง ก็เดินขึ้นมาตามทางไปเรื่อยๆไม่ไกลมากเราจะเจอกับวัด
-
แล้วก็เดินไปอีก 100 เมตร ก็จะเจอกับ เจดีย์มินกุง ที่ใหญ่โตมาก แต่สร้างไม่เสร็จ มาถึง เราต้องจ่ายค่าเข้าชมเมืองนี้ 3000 จ๊าด :o :o
-
;D ตอนนี้เจดีย์มินกุงเขาไม่ให้ขึ้นแล้วนะ หลังจากถ่ายรูปกันเสร้จ เราเดินไปต่อกันที่ เจดีย์ยักษ์ มีอายุ 1500 ปี
-
เดินกันต่ออีก 200 เมตร เราก็มาเจอวัดอีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจ คือ เจดีย์ ชินพิวมิน (เมี๊ยะเต็งดาน) เป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระเจ้าบากะยีดอว์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมินซึ่งสิ้นพระชนม์ก่อ่นเวลาอันควร (เขาว่ามันคือทัชมาฮาลของพม่า)
-
ด้านบนของเจดีย์ ที่พม่า เวลาเราเข้าวัด ต้องถอดรองเท้ารวมถึงถุงเท้าด้วย ทริปนี้ถอดรองเท้าเดินกันเท้าพอง
-
ระหว่างเส้นทางที่เรา เดินเที่ยวที่มินกุง ก็จุมีร้านค้าขายของที่ระลึก เป็นระยะ อากาศค่อนข้างร้อนเดินกันหน้ามันเหงื่อไหลย้อย 8)
-
เที่ยว เสร็จเราก็ไปหาที่นั่งพัก ดืมน้ำ ทานข้าว ก่อนจะขึ้นเรือกลับ
เราเลือกร้านอาหารหนึ่งร้านเพื่อพัก และสั่งข้าวมากิน อาหารที่พม่า ไม่ว่าจะสั่งอะไรมักจะมี น้ำซูปและเครื่องเคียงให้เสมอ
-
อีกสักรูปที่มินกุง หน้าเจดีย์มินกุงมีสร้างสิงห์คู่ ที่หน้า เจดีย์ แต่ก็เหลือแค่เท่าที่เห็น
-
สุดยอดอะ น่าไปมาก ต้องมีสักวันๆ 8)
-
ไปเลยพี่ทอม งบประมาณ ไม่ถึงหมื่น ไม่รวมตั๋ว สนุกมากๆ คนชอบถ่ายรูป นี้ถ่ายเพลินเลย อ่ะ
รูปนี้ท่าเรือที่ขึ้นฝังมินกุง
-
พอขึ้นฝั่งมา เหล่า รถรับจ้างต่างก็กรูเข้ามาถาม ว่าจะไปไหนต่อ ทางเราก็จัดการสอบถามราคาเพื่อไปยังพระราชวังมัณฑาเลย์ต่อเลย โดย ระยะทางถ้าดูจากแผนที่ก็4-5 กิโลเมตร เหล่าเหมาแท็กซี่ไปในราคา 4000 จ๊าด รถที่พม่าส่วนใหญ่จะไม่เปิดแอร์ รถแท็กซี่มาส่งทีหน้าทางเข้า เพื่อจ่ายค่าเข้าชมสถานที่เที่ยวของเมือง ในราคา 10000 จ๊าด สามารถเข้าที่เที่ยวในมัณฑาเลย์ได้ทั้งหมด แต่ก็มีที่ตรวจบัตรเข้าแค่ที่นี้เอง
-
พระราชวังมัณฑาเลย์ คนไม่เยอะ ถ้าคนที่ชอบประวัติศาสตร์คงจะพอรู้ที่มาที่ไปบ้างนะ แต่พอดีว่า จขกท หนักไปทางข้อมูลเที่ยว ไม่รู้ประวัิติความเป็นมาไรเลย
อันนี้เราปีนขึ้นไปที่หอคอยถ่ายลงมา
-
จุดหมายต่อไป คือ วัดชเวนันดอร์ เป็นวัดไม้สัก เราดูจากแผนที่ แล้วไม่ไกล เลยคิดว่าจะเดิน แต่เดินมาได้สักพัก ก็หาไม่เจอ แล้วก็มีมอเตอร์ไบด์ มาสอบถามว่าต้องการไปไหน เสนอราคาว่าจะพาไปที่นี้ที่นี้ อีก สามสี่ที่ในราคา 500 จ๊าด ต่อคน เราจึงตกลงไปทันที :P :P
-
ชอบมากเป็นสถานที่แสงสวย เท่าที่ฟังเขาบรรยาย บอกว่า ที่มัณฑาเลย์มีกษัตรย์ 2 องค์ โดยที่นี้คือ จะเป็นสถาปัตยกรรมแบบหนึ่ง และมีอีกที่ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ที่ดูสมัยใหม่กว่า
เท่าที่ดู รูปแกะสลัก เหมือนเป็นฝีมือช่างไทย เพราะดูวิจิตรกว่าที่อื่นๆ (อันนี้ไม่แน่ใจต้องเช็คข้อมูลอีกทีนะ)
-
ออกมา ฝั่งตรงข้ามก็เป็นอันนี้
-
แล้วเราก็นั่งมอเตอร์ไบค์ไปต่อที่วัดกุโธดอร์ ไม่ไกลมาก เป็นวัดสวยที่มีเจดีย์มากมายรายล้อมองค์เจดีย์ใหญ่
องค์เจดีย์หลัก
-
บริเวณรอบๆ มีเจดีย์มากมาย ภาพนี้เป็นเจดีย์รอบวัด SandaMuni Pagoda
-
หลังจากวัดนี้เราก็ไปต่อที่วัด Sandamuni Pagoda เดินไปได้ ประมาณ 50 เมตร เพราะมอเตอร์ไบด์ให้เราเดินไป เขาคงจะประหยัดน้ำมัน แต่เราก็ไม่ว่าอะไร เพราะว่า คนขับเขานิสัยดี น่ารัก
-
เราใช้เวลากับสองวัดนี้ได้ไม่นานเนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากแล้ว เป้าหมายที่เราตั้งไว้คือขึ้นไปถ่ายพระอาทิตย์ตกที่ มัณฑาเลย์ฮิล จากวัดเรานั่งมอเตอร์ไบค์ไม่นาน ก็มาถึงทางขึ้นไปมัณฑาเลย์ฮิลส์จากทางเท้า
จริงๆแล้วมีทางรถยนต์ขึ้นไป แต่คนขับมอเตอร์ไซด์มาส่งเราตรงนี้ ซึ่งเราต้องเดินขึ้นไปเอง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที เหนื่อยทีเดียว ระหว่างทางเดินก็จะมีพระพุทธรูปเป็นจุดๆ ให้เรากราบสักการะ แต่ ณ จุดนี้ เราเดินผ่านขึ้นไปเฉยๆ เพราะกลัวจะไม่ทันพระอาทิตย์ที่กำลังจะตก
-
และแล้วก็มาถึงจุดชมวิวมัณฑาเลย์ ฮิล
-
เราถ่ายรูป นั่งพักเหนื่อยกันสักพัก ก็เดินลงไป เพื่อจะเหมามอเตอร์ไซด์คันเดิมไปส่งที่โรงแรม เพื่ออาบน้ำ หาอะไรกินแล้วเตรียมตัวไปขึ้นรถเที่ยวสี่ทุ่ม
รร ที่พัก เป็นห้องน้ำแยก แต่ค่อนข้างโอเค มีคนต่างชาติ คนไทยไปพักเยอะ พนักงานใจดี ให้เราอาบน้ำโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่ม รวมทั้งติดต่อรถ เพื่อไปขึ้นรถที่ท่ารถให้เราด้วย โดย ถ้าเราเหมาแท็กซี่ ราคา 7000 จ๊าด แต่ทาง รร ติดต่อรถ ที่ต้องไปส่งนักท่องเที่ยวคนอื่นจาก รร อื่น ให้เราติดรถไปด้วย โดยคิดค่ารถคนละ 1500 จ๊าด
เรามาถึงท่ารถประมาณ สามทุ่ม นั่งรอที่ท่ารถ มี ฟรี wifi แต่ ไม่สามารถ ใช้ได้เลย wifi มีทั้งที่ โรงแรม ที่ ร้านอาหาร แต่ ส่วนใหญ่จะเล่นไม่ได้เลยสักที่ และระบบไฟที่พม่า จะไม่ค่อยดี ไฟมักจะตกบ่อยๆ ดังนั้น ระบบหลายๆอย่างของพม่า จึงยังเป็นระบบแมนนัวอยู่ >:(
รถของเราคืนนี้ เป็นเหมือนรถ ป.1 แคบนิดหนึ่งแต่สำหรับเราแบบไหนก็สามารถหลับได้ ;D ;D
-
เรามาถึงพุกามประมาณตีสี่ พอลงจากรถก็มีคนเข้ามาถาม เสนอราคา ไปนู้นไปนี้ แต่เป้าหมายแรกของเราที่มาถึงคือ จองตั๋วไป อินเล ในคืนนี้ เราเดินไปที่ ช่องขายตั๋ว เราได้ตั๋ว ไปอินเล รอบ 19.00 น. ราคา 11000 จ๊าด
ก่อนจะเข้าเมือง รถบัสจะจอดให้เราลงไปจ่ายเงินซื้อบัตรเข้าเมือง ราคา 15 เหรียญ ขึ้นราคาจากที่เคยไปเมื่อสองปีก่อน 5 เหรียญ
หลังจาก ซื้อตั๋วรถเรียบร้อยแล้ว เรา ก็ติดต่อ เรื่องรถเพื่อจะพาเราไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่วัดชเวนันดอร์ และให้พาไปส่ง โรงแรมราคาถูกๆ เพื่ออาบน้ำล้างหน้าล้างตา ก่อนเพื่อ จะได้เที่ยวต่อ อีกทั้งวัน
วัดชเวนันดอร์ เป็นวัดที่มีคนแนะนำว่าเป็นจุดดูพระอาทิตย์ขึ้นสวยจุดหนึ่ง
-
วันนี้ท้องฟ้าไม่เป็นใจ พระอาทิตย์ไม่ขึ้น :(
-
พุกามดินแดนเจดีย์สี่พันองค์ หรือมักจะมีคนเรียกว่าทะเลเจดีย์
-
อีกสักรูป
-
เรารอจน ประมาณ เกือบ แปดโมงเช้า ทั้งพระอาทิตย์ ทั้งบอลลูนก็ไม่มีให้เราเห็นเราจึงลงมา เพื่อกลับเข้า รร ไปอาบน้ำ ลงมาที่ด้านล่างวัดนี้ จะมี พระนอนองค์ใหญ่
-
หลังจากเข้า รร อาบน้ำแล้ว เราก็ติดต่อเช่ารถ โดยให้ทางโรงแรมติดต่อรถให้ ในราคา 35000 จ๊าด
ออ ลืมบอก ราคาเช่ารถม้าตอนลงจากรถบัส ไปชมพระอาทิตย์ึ้ขึ้นและพามาส่งโรงแรม ราคา 15000 จ๊าด
เราสามารถเช่ารถม้าเที่ยวได้ทั้งวัน แต่จากที่นั่งแล้ว รู้สึกว่ามันช้า และจะร้อน เราเช่ารถเป็นรถตู้สามารถนั่งได้ 6-7 คน เป็นรถแอร์ และเป็นรถแอร์ที่เดียวที่ได้นั่งในพม่า
มากันที่วัดแรก เจดีย์ชเวสิกอง
-
ที่วัดนี้จะมีหลุมน้ำ ที่สามารถสะท้อนเงาของเจดีย์
แต่เราสามารถ ถ่ายมาได้แค่นี้เอง
-
วันนี้เราเที่ยววัดเยอะมากค่ะ พุกาม เป็นเมืองไม่ใหญ่นะ เราสามารถปั่นจักรยานเที่ยวได้เอง มีถนนลาดยางหลักๆอยู่ไม่กี่เส้นแต่จะเป็นถนนฝุ่นๆตามทางเลี้ยวทางแยกที่จะเข้าไปแต่ละวัด
วัด Gubyauknge
-
วัด ทุกวัดจะมี ร้านขายของพื้นเมือง บางวัดก็จะมีกระเหรี่ยงคอยาว ด้วย
-
เที่ยววัดเยอะ จนบางวัดก็จำชื่อไม่ได้ แต่วัดจะอยู่ไม่ไกลกัน มากนะ
วัดนี้ ใครมาพุกาม ก็ต้องมาแน่นอน วัดอนันดา
-
ในวัดจะมีพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ วัดนี้เป็นพระยืน
-
วัด That byin nyu
-
หลังจากทานข้าวเสร็จ เป็นร้านอาหารใกล้ๆวัดอนันดา แนวอาหารจีนๆ อร่อยดี ค่ะ ก็มาต่อที่วัดนี้ แต่จำชื่อไม่ได้ แต่จุดเด่นของวัดนี้ คือ ขึ้นไปด้านบนเจดีย์ได้ เราสามารถเห็นวิวเจดีย์พุกามอีกหลายๆมุม
-
อีกสักมุมจากบนวัดนี้
-
พุกามดินแดนเจดีย์สี่พันองค์ หรือมักจะมีคนเรียกว่าทะเลเจดีย์
ชอบมาก ทุ่งเจดีย์ท่ามกลางหมอก และวัดอื่นๆ ที่มาเล่าสวยๆ ทั้งนั้นเลย ปีหน้าไปแน่ อิอิ
-
จัดไป พี่ใจแอร์เอเชีย ตั๋วไปพม่าถูก ลดอยู่บ่อยๆ
-
ถ้าใครชอบถ่ายรูป แนะนำ ปั่นจักรยาน หรือเช่ามอเตอร์ไซด์ เพราะเราจะสามารถหามุมที่อยากจะถ่ายได้ ตามใจ และน่าจะใช้เวลาอยู่ที่พุกามสักสองวัน เพราะจะได้ถ่ายทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก
เพราะโดยส่วนตัวมันมีมุมสวยๆ หลายมุม แต่เนื่องจากเราเหมารถ บางทีก็ลำบากจะเข้าไปตามจุดที่เราอยากไป นะ
-
เข้าวัดในพม่า ต้องถอดรองเท้า ถุงเท้า เดินกันเท้าพองทีเดียว
-
:D ;D :D
-
วัดบางวัดก็ต้องไปช่วงเช้า บางวัดก็ต้องไปช่วงบ่าย ถ้ามีเวลาในพุกาม นานหน่อย เราจะสามารถได้ภาพสวย เยอะมากค่ะ
วัดนี้ ควรไปตอนเช้า ค่ะ ไปบ่ายย้อนแสงเต็มๆ
-
พระพุทธรูปในแต่ละวัดก็จะแตกต่างกันไป เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง สวยงามมากค่ะ
-
วัดวัดวัด
-
วัดนี้ใหญ่มาก ถ้าขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น เราจะเห็นวัดนี้ชัดเจนมาก ไปมาสองครั้ง คิดว่า มันถ่ายได้ทั้งเช้าและบ่ายเลยนะ แล้วแต่มุมแล้วแต่ด้าน จำได้ว่าครั้งที่แล้ว ไปตอนเช้า ก็ได้ฟ้าสีฟ้ามา ครั้งนี้ไปบ่าย ได้น้องแพะ มาเล็กหญ้าอ่อนพอดี ;D ;D
ชื่อวัด Dhamma yan gyi Pahto
-
หุหุ ถ่ายแบบนี้มาเกือบทุกวัด
-
มุมนี้อีกวัด 8) 8)
วัด Su la ma ni Pahto อยู่ใกล้กับวัด Dhamma yan gyi pahto วัดนี้ต้องไปตอนบ่าย ค่ะ
-
หลายๆวัด จะถ่ายรูปภายในไม่ได้ค่ะ เท่าที่สังเกตุ คือวัดที่ภายใน เป็นพระพุทธรูป องค์สีแดงๆแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ถ่ายรูปได้ค่ะ แต่น่าจะเอาขาเข้าไปถ่ายลำบากหน่อย เพราะจะมีคนเดินเข้าเดินออกตลอดเวลา
-
วัด LawKanandar Pagoda อยู่ติดริมน้ำ อิรวดี ไปบ่ายก็ได้ แต่ไปเช้าดีกว่า
-
สุดท้าย เมืองพุกาม รูปนี้ถ่าย ตอนเช้าค่ะระหว่างรอพระอาทิตย์ขึ้น เนื่องจากว่า เราต้องรีบไปขึ้นรถเที่ยว 19.00 เลยไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตก กลับเข้า รร อาบน้ำอาบท่า
รร แจ้งที่ท่ารถให้ สามารถมารับที่หน้า รร ได้เลย เนื่องจากว่า รร ที่ พักอยู่ติดถนนและ รถมาตรงเวลามากค่ะ
-
เรานั่งรถ ไปลงที่เมือง Nyaung Shwe แต่รถบัสที่เรานั่งผ่านจะปลายทางที่เมืองตองยี โดยเราบอกคนรถว่าเราจะลงที่เมือง นี้ก่อน เราไปถึงเมืองนี้ประมาณ ตีสามครึ่ง พอลงไปถึง เราก็จัดการซื้อตํ๋วรถกลับมัณฑาเลย์ ในค่ำวันถัดไป มีรถ ธรรมดา กับ วีไอพี โดยราคา 11000 และ 15000 จ๊าด ราคาต่างกันร้อยกว่าบาท เราเลือก วีไอพี เที่ยว 19.30 น.
-
พอเห็นแบบนี้ แล้ว รู้สึกว่า เราสามารถจัดโปรแกรม เที่ยวครบทุกเมืองในเที่ยวเดียวได้ เลย โดย ลงเครื่อง จากมัณฑาเลย์ พุกาม (บากัน ) อินเล (ยองชเว) และนั่งไปลง พะโค (บาโก) ต่อรถไปย่างกุ้งได้เลย โดย จากบาโก เราสามารถต่อรถไปที่อินทร์แขวนได้อีกต่อหนึ่ง
จากความเห็นส่วนตัวนะค่ะ คิดว่า ถนนหนทางไม่ได้ลำบากอย่างที่ใครหลายคนๆ บอก รถที่นั่งก็ดูโอเค ปรับอากาศทุกสาย ถ้าไม่อยากเหนื่อยมากก็พัก เมืองละหนึ่งคืน แต่ถ้ามีเวลาน้อยถึงเช้า ค่ำก็นั่งรถย้ายเมืองได้เลยค่ะ
รถวีไอพีของเราคืนนี้แถวละสามที่นั่ง
-
หลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งรอที่สถานีรถบัส เลยเพื่อรอเวลาไปท่าเรือ ตอนประมาณตีห้าครึ่ง คนขายตั๋วได้ติดต่อเรือให้ พอเกือบๆหกโมงเช้า รถมอเตอร์ไซด์ก็มารับเราเพื่อไปยังท่าเรือ Shwe Nyaung สำหรับบางคน อยากจะพักที่เมืองก็ได้ มีโรงแรมหลายที่เหมือนกัน ตัวเมืองนี้ไม่ค่อยใหญ่สามารถเดินเที่ยวได้มีวัดที่น่าสนใจคือวัด Shwe yan Pye ที่น่าสนใจโดยเรากะว่าจะไปดูในวันต่อไปก่อนจะขึ้นรถ
จากท่ารถ ไปท่าเรือ เราสามารถเดินไปได้ไม่ไกลมากประมาณ 1-2 กิโล แต่ถ้าเดินไม่ไหวก็มีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
-
เราเหมาเรือเพื่อไปส่งที่โรงแรม ในราคา 15000 จ๊าด เรือสามารถนั่งได้ 5-6 คน ค่ะ แต่ก็เห็นคนพม่านั่งกันเป็นสิบคนใน หนึ่งลำนะค่ะ นั่งเรือประมาณ 40 นาที ก็มาถึงที่พักของเรา พาราเม้าอินเลรีสอร์ท ไปถึง รร ก็ให้เข้าห้องได้เลยค่ะ เราก็แจ้งว่าเราต้องการเหมาเรือเที่ยวประมาณ 11.00 โมง ทาง รร ก็ติดต่อเรือให้ ราคาเหมาทั้งวันอยู่ที่ 25000 จ๊าด
-
หลังจากเข้าที่พักได้ เราก็นอนพักเอาแรงกันสักนิด ตื่นมาอาบน้ำอาบท่า ออกมาตอนสิบเอ็ดโมงกว่า คนขับเรือก็พาเราไปที่เที่ยวต่างๆ ที่มีในอินเล ระหว่างทาง ก็จะเห็น เรือสวนไปสวนมาตลอดเวลา ส่วนใหญ่เป็นเรือเครื่องเกือบหมด เราก็ตั้งใจมองหา ผู้ชายพายเรือ ด้วยเท้า ซึ่งก็จะมีให้เห็นเป็นระยะ
-
ผู้ชายพายเรือ อีกสักรูป
-
ทะเลสาปอินเล จะมี คนอาศัย เป็นหมู่บ้านๆ แต่ละหมู่บ้านก็จะมีอาชีพของท้งอถิ่นแต่ละแบบ โดยคนขับเรือพาเราไป ชม หมู่บ้านทำพัด
-
วัดพระบัวเข็ม คิดค่ากล้อง 500 จ๊าด เราเลยไมไ่ด้ถ่ายรูปด้านใน อิอิ แต่แอบเอากล้องมือถือถ่าย
-
หมู่บ้านทอผ้าใยบัว
ตั้งใจจะซื้อกลับมา แต่สู้ราคาไม่ไหว สี่เมตรตัดทั้งชุดตกประมาณ 3000 บาท
-
ทำมีด ทำดาบ
-
ทำเครื่องเงิน พม่าขึ้นชื่อเรื่องหยก มีขายเยอะเหมือนกัน ทำบุหรี่ ปลูกผักลอยน้ำ หลายอาชีพมาก
สภาพบ้านเรือนที่ปลูกในทะเลสาป อากาศที่นี้อากาศเย็นสบาย ตอนเช้าๆก็หนาวนิดค่ะ
-
ที่สุดท้ายที่เราไปวันนี้ คือวัดอินเต่ง
-
เจดีย์ เล็กๆ จริงๆมันคือสถูป 555
-
ปิดท้ายของวันนี้ ด้วย ภาพหน้าที่พัก ฟ้าเน่าทั้งวัน มีฝนตกนิดหน่อย ตอนเย็นเลยได้ฟ้าแบบนี้
-
เช้าๆ อากาศ เย็นสบาย ค่ะ เรานัดเรือ 9 โมงเช้า เพื่อไปเดินเล่นตลาด
-
เป็นตลาดสด รวมทั้ง ตลาดที่มีของที่ระลึกขายมากมาย
-
ทีอินเลจะมีการปลูกผัก ในน้ำกันเยอะเหมือนกัน
-
วัด แมวกระโดด แต่ ไม่กระโดดแล้วนะจ้า
-
เที่ยว เสร็จ เราก็เตรียมตัวกลับขึ้นฝั่ง แต่โชคดีที่เขามีพิ๊แห่พระบัวเข็ม เราจึงได้มีโอกาสได้เห็นพิธี แห่โดยบังเอิญ
-
ทำไมเราจึงเห็นแต่ ผู้ชายใช้เท้าพายเรือ
-
จากทางน้ำ ก็แห่เข้าไปในวัด
-
เราใช้เวลาอยู่ที่ พิธีนี้นานเหมือนกัน พอกลับขึ้นฝั่งก็เย็นแล้ว เราต้องรีบหาอะไรกินเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถตอน 19.30 น
เรามาถึงมัณฆาเลย์ประมาณ ตีสี่เกือบตีห้า พอลงจากรถปุ๊บ เราก็ โดนรุมไปด้วย คนขับมอเตอร์ไซดรับจ้าง มึนๆอยูสักแปป เราก็เจรจา เพื่อไปวัดมหามัยมุนี
-
วัดมหามัยมุนี เป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า ที่สำคัญที่ชาวพม่า ต้องหาโอกาสมากราบสักการะ
ทริปนี้ เราไปมาสองที่ ที่วัดเจดีย์ชเวสิกองที่ พุกาม และที่วัดนี้
ตี4-ตี 5 จะมีพิธีล้างพระพัก ทุกวัน ผช สามารถ เข้าไปปิดทองที่องค์พระได้แต่เราซึ่งเป็น ผญ ก็ได้กราบไหว้อยู่ด้านนอก
-
หลังจากนั้น เราไปหาห้องน้ำ ในวัด เพื่อสำหรับล้างหน้าล้างตา ล้างตัว ห้องน้ำที่วัดนี้ ค่อนข้างดี ค่ะ ติดแอร์ด้วย แต่แอบแพง 500 จ๊าด หลังจากเสร็จธุระส่วนตัวแล้ว เราก็จ้างมอเตอร์ไซด์คันเดิมไปส่งที่ ถนน 79 ช่วงตัดถนน สาย 26 และ 27 หัวมุมกับพระราชวังมัณฑาเลย์ จะเป็นที่จอดรถของแอร์เอเชีย สำหรับไปส่งเราที่สนามบิน
เรามาถึงก่อนเวลา เราจึงเดินหาอะไรทานแถวๆนั้น แล้วมานั่งรอบริเวณนั้น เวลาประมาณ 8.30 รถก็มาจอด ประมาณ 9.00 รถก็ออก และใช้เวลาประมาณ 1 ชม เดินทางไปสนามบินค่ะ
-
จบแล้วค่ะ
เที่ยวง่ายๆ อย่าลืมไปเที่ยวกันนะจ้า
-
ไปๆๆๆ แบบนี้ต้องไป คร้าบ
-
เที่ยว เสร็จ เราก็เตรียมตัวกลับขึ้นฝั่ง แต่โชคดีที่เขามีพิ๊แห่พระบัวเข็ม เราจึงได้มีโอกาสได้เห็นพิธี แห่โดยบังเอิญ
สุดยอดมาก โชคดีอะ อยากเห็นบ้างจุงเบย