Touronthai Forum สนทนาประสาเที่ยว
หมวดหมู่ทั่วไป => แชร์ประสบการณ์/โพสต์รูปประทับใจ => ข้อความที่เริ่มโดย: Puripatt ที่ พฤษภาคม 03, 2013, 08:48:40 PM
-
ลำคลองงู
ทริปนี้มีโปรแกรมเที่ยว 2 แห่งด้วยกันคือ ถ้ำเสาหิน และ ถ้ำนกนางแอ่น ทริปของผมเป็นทริปสุดท้ายของปีนี้ครับ เพราะ อช.ลำคลองงูจะปิดทำการ เปิดให้เที่ยวอีกครั้งปีหน้าครับ
เริ่มออกเดินทางเกือบๆ 5 ทุ่ม มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ซึ่งอยู่ในอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เราเดินทางไปถึงอุทยานประมาณตี 3 กว่าได้ แต่กว่าจะเข้าไปถึงที่หน่วยหน่วยเขาพระอินทร์ก็ 6 โมงเช้าพอดี ก็ติดต่อเจ้าหน้า ทำการลงทะเบียน กางเต็นท์ ที่ทางเจ้าหน้าที่จัดให้ ซึ่งดูเหมือนว่าทางเจ้าหน้าที่จะรู้ว่ากลุ่มของเรา ไม่ธรรมดาแน่ๆ ไล่ออกมาอยู่ซะชายป่า เลย ทีเดียว 5555 พักผ่อนเอาแรงไว้ก่อนก่อนจะไปลุยถ้ำ เสาหินปูนที่สูงที่สุดในโลก ที่ความสูง 62.5 เมตร ที่เป็นเสาหินที่สูงที่สุดในโลก
-
:D ;D
-
แล้วก็เดินไปกินอาหารเช้าที่หน่วย ซึ่งทาง อช. เตรียมเอาไว้ให้ หลังอาหารเช้า ก็เตรียมตัวเดินทางสู่ถ้ำเสาหิน เป้าหมายของพวกเราในวันนี้ ไปรถของทางอุทยานและมีเจ้าหน้าที่ 3 ท่านไปดูแลพวกเรา นั่งกันไปหลังรถคุยกันเฮฮาลั่นรถ เจ้าหน้าที่ก็สนุกไปด้วย คุยกันไปเพลินๆแล้วรถก็จอด ตัดกิ่งไผ่ ที่ขวางทางรถ ออกเล็กน้อยเดินทางต่อๆๆ นั่งรถกันไปจนถึงจุดที่ต้องเดินเท้ากันแล้ว ป่าที่นี่จะเป็นป่าไผ่ที่สมบูรณ์ทีเดียว
http://www.youtube-nocookie.com/embed/yg-HjofgejM" frameborder="0" allowfullscreen><
-
:P ::)
-
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดิน ซึ่งสงสัยเป็นอย่างมากว่าเดินป่าทำไมต้องสวมเสื้อชูชีพ 555 (เดี๋ยวก็รู้)
-
เรื่องเดินไม่ใช่ปัญหาสำหรับพวกเรา แต่เส้นทางที่จะไปนั้นแหร่ะคือปัญหา ช่างลำบากยากเย็นซะเหลือเกิน เส้นทางเลาะแนวทางน้ำ ป่าไผ่ ผ่านช่องเขาไปเรื่อยๆ เส้นทางไม่ง่ายและก็ไม่ยากจนเกินไป
-
ตลอดเส้นทางของการเดินไปชมถ้ำเสาหิน เราก็ต่างเก็บถาพ ต้นไม้ใบหญ้า น้ำตกกันไปเรื่อยๆๆ
-
:P เป็นการไม่เร่งรีบ การเก็บภาพ ธรรมชาติ ไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง
-
แล้วก็ถ่ายๆๆๆๆๆๆ ภาพๆไปเรื่อยๆๆ
-
;D ;D ถ่ายๆๆๆ แล้วก็ถ่ายๆๆ
-
:P :P
-
เดินๆๆๆๆๆๆ
-
:P ;D
-
ยังยิ้มสู้ ก็จงเดินกันต่อไปๆๆๆๆ :P :P :P
-
:o :o
-
สุดท้ายเราก็เดินกันจนถึงปากถ้ำเสาหินจนได้ การจะเข้าไปชมเสาหินนั้น ต้องลอยตัวเข้าไปในถ้ำโดยทางเจ้าหน้าที่จะคอยดูแล ตลอดการเข้าไป อันนี่ต้องเชื่อฟัง ทางเจ้าหน้าที่นะครับ เพราะข้างในนั้นมีอันตรายจากสายน้ำที่ไหลเชี่ยวเป็นอย่างมาก
-
:o :o
-
:D ::) :-X
-
ใกล้ถึงการลอยตัวแล้ว พร้อมลุย
-
ถึงภายในนั้นสายน้ำที่ไหลเชี่ยวเป็นอย่างมาก เราก็ไม่หวั่น คอยๆ พากันเข้าไปภายในถ้ำ ลอยตัวทวนกระแสน้ำไปเรื่อย พร้อมส่องไฟตามผนังของถ้ำ ดูนั้นนี่ไปเรื่อยๆ ภายในถ้ำนั้นเจอสิ่งอัศจรรย์ มีฟันของมนุษย์อยู่ภายในนั้น (จริงแล้วเป็นแค่หินที่มีลักษณะที่คล้ายฟันมนุษย์ เท่านั้นอย่าตกใจไปกันนะครับ)
http://www.youtube.com/v/mDMDGA48ya4?version=3&hl=th_TH"></param><param name="allowFullScreen
-
:D :D
-
เจอแล้ว ฟันมนุษย์ (5555) น่ากัวเหมือนกันนะ
-
จนสุดท้ายพวกเราก็เข้าไปจนได้พบกับเสาหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่อายุนานๆ หลายหมื่นปี ที่มีความสูงที่สุดในโลก
-
แต่น่าเสียดายครับที่ชื่นชมได้เพียง 10 นาทีเท่านั้น เจ้าหน้าที่บอกว่ากลับได้แล้ว เพราะวันนั้น นักท่องเที่ยวเยอะมาก ทุกกลุ่มต่างไปที่ถ้ำเสาหินทั้งหมด เลยต้องรีบถยอยออกมาจากจากถ้ำ เพราะถ่ายรูปไม่ได้แล้ว แสงไฟระยิบระยับไปหมด ก็ลอยตัวออกมาจากถ้ำเช่นเดิม ออกมาจากถ้ำได้ก็ไปกระโดดน้ำเล่นกัน เลยลงไปคุยกับปลาสักหน่อย สอบถามความเป็นอยู่ ว่าเป็นไงที่นี่สบายไหม 555 (บ้าไปแล้ว)
http://www.youtube.com/v/yyroXjbZIwg?version=3&hl=th_TH
-
:o :o
ลงไปคุยกับปลากันเถอะ
http://"http://www.youtube-nocookie.com/embed/hOx-VEzuFjc" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
-
ตัว ข้าวเรียงเม็ดก็พร้อมออกเดินทางกัน ซึ่งขากลับไม่ต้องกังวลครับ เรื่องไปพร้อมกัน เหมือนขามา ไม่มีอยู่แล้ว 555 ตั้งหน้าตั้งตาเดินๆๆ ให้ไปถึงลานจอดรถเมื่อเช้าให้เร็วที่สุด เพื่อจะไปหาแป๊บซี่เย็นๆๆ กินๆๆ โดยใช้เวลาในการเดินกลับเพียง ชม. เศษๆ เท่านั้นก็ รูปภาพขากลับถ่ายไม่กี่รูปครับ แบตหมดๆๆๆ แล้ว ตั้งหน้าตั้งตาเดินๆๆ อย่างเดียวครับ
-
:P :P
-
พักรอกลุ่มหลังๆ เพื่อกลับที่พัก พร้อมๆ กัน แต่พวกเราเป็นกุล่มแรกที่เดินทางถึงนั้นจะแอบลักไก่ ไปหาแป๊บซี่เย็นๆๆ กินก่อนกับกลุ่มที่สมาชิกครบแล้วจะกลับที่พัก แต่ก็ต้องโดน เจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้ไป ฮ่าๆๆ เพราะกลัวรถจะขึ้นเขาไม่ไหว สรุปอด (เพราะคิดการร้าย) แต่ก็มีคนแอบไปขโมยปีโป้ ของกลุ่มอื่นมากินด้วย (หายไป1 อันไม่มีใครรู้หรอก 555+ ) เอ้ารอๆๆ จนครบก็ขึ้นรถไปหาน้ำเย็นๆๆ กินๆๆ กันๆๆๆ แต่รถที่รับเรากลับที่พักนั้นขอบอกว่าขับได้สุดมันส์ มากๆๆ เล่นกันซะไส้ลงมากองรวมกันเลย ฮ่าๆๆ แถมเจอฝนเล็กน้อยระหว่างทาง ก็สนุกๆๆ ดีครับ มันส์ ดี
-
ครั้นถึงที่พักก็อาบน้ำ พักผ่อนไปทานข้าวเย็นๆๆ ไฮท์ไลท์ยามดึกไม่มีไรมากครับ นั่งคุยเล่นๆ กันไป ตามภาษา จนเพลาเลยไป 2 ทุ่มกว่าก็แยกย้ายกันเข้านอน เก็บแรงเพื่อลุย เส้นทางพรุ้งนี้ต่อกัน
-
;D ;D
-
:-* :-*
-
พรุ้งนี้เจอกันถ้ำนกนางแอ่น (แปะไว่ก่อนเดี๋ยวมาเล่าต่อ)
-
ภาพแนวตั้งมันเล็กจุงเบย แนวตั้งน่าจะสูงเท่ากับความกว้างของภาพแนวนอนนะ คงจะสวยกว่านี้เยอะอะ ;D
-
วันที่สองของการเดินทาง วันนี้เราจะไปถ้ำนกนางแอ่นกัน
ตื่นแต่เข้ามารับอากาศที่สดใส พร้อมไอหมอกเล็กน้อย เดินเก็บภาพบรรยากาศรอบๆที่พัก เอียงหูฟังเสียงนกเจื้อยเแจ้วเพลินๆยามเช้า ไปพร้อมจิบกาแฟ ปนกับเสียงสนทนาเพื่อนๆในทริป จัดแจงหุงหาของกินรองท้องยามเช้า
-
:P :P
-
:P :P
-
;D ;D
-
จากนั้นก็เดินไปที่โรงอาหารของอุทยานฯ กินอาหารเช้า พร้อมรับอาหารกลางวันที่ อช. จัดเตรียมไว้ให้ อย่างครบชุด อิ่มท้องแล้วแดด เริ่มแรงก็เกณฑ์กันไปขึ้นรถคันเดิม พร้มอเจ้าหน้าที่ชุดเดิม แล้วออกทริป มุ่งหน้าไปที่ถ้ำนกนางแอ่นกันโดยเร็วพลั้น ใช้เวลาเพียงไม่นานกับระยะทาง 6 กม. ก็ถึงทางเดินสู่ถ้ำนกนางแอ่น จากนี่เราต้องเดินเท้าต่อกันไปอีก เล็กน้อย น่าจะราวๆ 2 กม.ได้ เส้นทางก็เดินลัดเลาะแนวเขา ป่าไผ่ ก็จะถึงปากถ้ำนกนางแอ่น และปากถ้ำเวิลด์คัพ (แต่ถ้ำเวิลด์คัพ ไม่อนุญาติให้เข้าไปเนื่องจากภาพในถ้ำนั้น มีกระแสนน้ำที่ไหลเชี่ยว ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยว จึงถูกสั่งปิด)
-
:P ???
-
:P แล้วก็เดินๆๆๆกันต่อไป
-
มีการชิมผลไม้ป่าด้วย รสชาติโอเค เลย (ขนุนป่า) แล้วก็เดินต่อไป
-
:P :-[ :-[
-
พวกเราก็ชื่นชมกับความอลังการของถ้ำนกนางแอ่น ที่มีจำนวนนกนางแอ่นที่มีมากมายหลายพันตัว ที่พลัดกันบินเข้าออก เป็นเหมือนหน่วย ลาดตระเวน ที่คอยดูแลถ้ำนั้นตลอดเวลาที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในพื้นที่ ถ้ำนกนางแอ่นเป็นถ้ำที่พบบริเวณตอนกลางของห้วยลำคลองงู เหนือถ้ำเสาหินเป็นถ้ำที่มีขนาดใหญ่ มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปลาเวียน เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปปลามาให้ชมกันจากนั้นเก็บภาพได้พอสมควร พี่เจ้าหน้าที่ก็บอกเตรียมตัวลุยน้ำกันได้แล้วๆๆ เพราะต้องลอยตัวไปตลอดสายน้ำนี้ไปจนเกือบสุดปลาย ไฮไลท์จริงๆ อยู่ตรงนี่นะครับการลอยตัวไปพร้อมกับสายน้ำ เงยหน้ามองฟ้า และดูเพดานถ้ำ อีกหนึ่งประสพการณ์ที่ต้องออกไปค้นหาจริงๆ ลุยน้ำกันเลยๆๆ เมื่อพร้อม
http://www.youtube-nocookie.com/embed/hWEA2Ry_CV8
-
8) :o
-
เสียดายตรงนี้ผมไม่ได้กระโดดน้ำเพราะต้องคอยเก็บถาพสมาชิกที่กระโดดน้ำกันแต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ลงน้ำอยู่ดี ขอบอกว่าถ้ำนกนางแอ่นนี้สวยจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งหินงอกหินย้อย ที่มีการก่อตัวมากันเป็นหลายร้อยปี แต่ก็น่าเสียอยู่เหมือนกันที่บางจุดไม่มีการก่อตัวแล้ว หรือเรียกว่าหินตาย นั้นก็คงเป็นเพราะกระแสน้ำได้มีการเปลี่ยนทิศทางไปในหลายๆ จุด จึงขาดน้ำที่น้ำพาตะกอนไป ธรรมชาติเริ่มบอกอะไรถึงการเปลี่ยนแปลงบ้างอย่างแล้วนะครับ
-
:o :o
-
:o :o :o :o
-
:P :P
-
กลุ่มเราก็เดิน เลาะชั้นหินของถ้ำไปเรื่อยๆ มีลงน้ำบ้าง เดินบ้างสลับกันไปเรื่อยๆ จุดสุดปลายทางน้ำ ก็จะพบกับทางเดิน เพื่อไปยังจุดจอดรถที่เรามาเมื่อเช้า เดินต่อเพียงเล็กน้อย ก็จะพักทานข้าวเที่ยงกันแล้ว
-
:o :o :o
-
??? ::)
-
:o :o
-
:D ;D
-
;D ;D
-
:P :P
-
:P :P
-
:o :o
-
:D :D ;D ;D
-
ดูกันยาวๆๆๆ ;D ;D
-
;D ;D ;D
-
:D :D ;D
-
จากนั้นก็ขึ้นรถกลับที่พัก พักผ่อนสักครู่ เก็บของเพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯกัน ยังๆๆ ไม่จบครับ ก่อนกับ กรุงเทพฯ ขอแวะเที่ยวน้ำตกนางครวญ กันสักหน่อย ได้ข่าวว่าสวยไม่แพ้น้ำตกหลายๆ แห่งที่เห็นมา ไปกันเลย จุดหมายต่อไป น้ำตกนางครวญ ที่อยู่ในที่ทำการอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จากปากทาง แค่เพียง 4 กม. เส้นทางก็ไม่ได้สบายแต่ก็ไม่ลำบากไปสำหรับรถยนต์ ถึงที่ทำการ อช. แล้ว ใช้เวลาเพียง 30 นาทีได้ก็ถึงลาดจอดรถ
-
การจะเข้าชม น้ำตกนางครวญ นั้นจะต้องเดินเท้ากัน อีก 700 เมตร ซึ่งตัวน้ำตกนั้น มีทั้งหมด 4 ชั้น แต่ต้องไปพร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ให้เข้าชมได้เพียง ชั้นที่ 1-3 เท่านั้น เนื่องจากชั้นที่ 4 นั้นเส้นทางอันตราย ไม่อนุญาติให้เข้าไป (แต่ผมกลับได้ภาพชั้นที่ 4 มานะครับ ฮ่ามากน้ำตกชั้นนี้ ) ป่ะพร้อมแล้วเดินเท้ากันต่อเลย แค่ 700 เมตรเอง สบายๆ แค่นี้ น้ำตกนางครวญมีต้นกำเนิดจากลำห้วยสองสายไหลจากเนินเขาแปดร้อยและห้วยชะอี้ รวมกันเป็นห้วยทองผาภูมิ ซึ่งแหล่งต้นน้ำนั้นมาจากป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เดินจากชั้นที่ 1 เส้นทางเดินง่ายไม่ชัน ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ และผ่านชั้นที่ 2 เดินเลาะสายน้ำตกไปเรื่อยๆ ผ่านไปจนถึงชั้นที่ 3 ซึ่งรู้เลยว่าขากลับเหนื่อยแน่ๆ เจอทางแบบนี้ แต่ถ้าจะพูดถึงความสวยของน้ำตกนางครวญ นั้นชั้นที่ 3 มีความสวยงามมาก ซึ่งน้ำตกจากหน้าผาสูงประมาณ 50 เมตร ลงสู่แอ่งน้ำกว้าง มีน้ำตลอดทั้งปี ชื่นชมความงามกันพอสมควรก็เดินทางกลับ
มาชมน้ำตกชั้น ที่ 1 กัน
-
ชั้นที่ 2 ของน้ำตกนางครวญ สวยงามๆๆๆ ขนาดน้ำน้อยๆ (เจ้าหน้าที่บอก ช่วงหน้าฝน น้ำจะเต็ม จนมองไม่เห็นชั้นหิน)
-
ชั้นที่ 3 ของน้ำตกนางครวญ สวยงามมากๆ น้ำตกชั้นนี้ ถามที่มาของชื่อน้ำตกนี้ กับทางเจ้าหน้าที่ไม่มีคำตอบ (เซ็ง)
จนไปค้นหาที่มาจนได้ว่าที่ได้ชื่อว่า น้ำตกนางครวญ เพราะ
เป็นชื่อที่ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าชื่อน้ำตกนางครวญนี้ มาจากการที่มีนักศึกษาหญิงชายคู่หนึ่งมาเที่ยวที่น้ำตกนางครวญชั้นที่ 3 และผู้ชายได้ลงไปเล่นน้ำและเป็นตะคริวทำให้เสียชีวิต ฝ่ายผู้หญิงก็ได้แต่ร้ำไห้คร่ำครวญ ชาวบ้านแถวนั้นจึงเรียกน้ำตกนางครวญ
-
ส่วนน้ำตก ชั้นนี้เป็นชั้นพิเศษ เพราะน้ำตกชั้นนี้เป็นน้ำตก "ฉันสวย" เป็นชั้นที่ 4 ผมตั้งเอง 5555
-
เส้นทางขากลับก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็สบายๆ ผ่านมาเยอะ เรื่องแบบนี้ สุดท้ายก็เดินถึงลานจอดรถจนได้ แล้วก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกับป้าย อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 123 ของประเทศไทย
การท่องเที่ยวแบบนี้ขอฝากด้วย
* ไม่เอาอะไรออกมานอกจากภาพถ่าย
* ไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า
* ไม่ฆ่าสิ่งใดนอกจากเวลา
ขอบคุณครับ ;D ;D ;D
ส่วนคลิปวีดีโอ โปรดรอสักพัก กำลังรวบรวม อยู่ครับ
-
เส้นทางขากลับก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็สบายๆ ผ่านมาเยอะ เรื่องแบบนี้ สุดท้ายก็เดินถึงลานจอดรถจนได้ แล้วก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกับป้าย อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 123 ของประเทศไทย
การท่องเที่ยวแบบนี้ขอฝากด้วย
* ไม่เอาอะไรออกมานอกจากภาพถ่าย
* ไม่ทิ้งอะไรไว้นอกจากรอยเท้า
* ไม่ฆ่าสิ่งใดนอกจากเวลา
ขอบคุณครับ ;D ;D ;D
ส่วนคลิปวีดีโอ โปรดรอสักพัก กำลังรวบรวม อยู่ครับ
อยากให้ภาพแนวตั้งใหญ่กว่านี้ครับ มองไม่ค่อยเห็นตาไม่ดี 8)
สำหรับคลิปวีดีโอ เอามาวางในเรื่องเล่าได้ด้วยนะ ยกตัวอย่างเช่น
http://www.youtube.com/v/mDMDGA48ya4?hl=th_TH&version=3
ถ้าไม่รู้ว่าทำไง อ่าน ขั้นตอนการวางคลิปได้ใน http://www.touronthai.com/forum/index.php/topic,404.0.html
-
เดี๋ยวมีเวลาจะแก้รูปแนวตั้งให้นะครับ