กรมการขนส่งทางบก ปรับปรุงระเบียบการชำระภาษีรถประจำปี ต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยที่มีระยะเวลาคุ้มครองถึงวันสิ้นอายุภาษีรถในปีถัดไป จากเดิมที่กำหนดระยะเวลาความคุ้มครองไว้ไม่น้อยกว่า 30 วันเท่านั้น
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันกรณีรถตามกฎหมายว่าด้วยขนส่งทางบกเกิดอุบัติเหตุ และกรมธรรม์ประกันภัยสิ้นอายุ หรือไม่มีกรมธรรม์ประกันภัย ส่งผลให้ไม่มีผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งกับเจ้าของรถและคู่กรณี กรมการขนส่งทางบกจึงได้ปรับปรุงระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับทะเบียนและภาษีรถตามกฎหมายว่าด้วย การขนส่งทางบก พ.ศ. 2554 โดยกำหนดให้การชำระภาษีรถประจำปี ต้องใช้สัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยที่มีความคุ้มครองอย่างน้อยถึงวันสิ้นอายุภาษีรถในปีถัดไป จากเดิมที่กำหนดให้สัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัยมีความคุ้มครองไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนครบกำหนดชำระภาษี
นายอัฌษไธค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การชำระภาษีรถประจำปีตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก แบ่งรอบการชำระภาษีรถออกเป็น 4 รอบ คือ รอบที่ 1 เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม รอบที่ 2 เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน รอบที่ 3 เริ่มตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ถึง 30 กันยายน และรอบที่ 4 เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม ของทุกปี จึงขอให้เจ้าของรถชำระภาษีรถให้ตรงตามรอบการชำระภาษีดังกล่าวด้วย โดยเจ้าของรถสามารถชำระภาษีรถได้ล่วงหน้า 3 เดือนก่อนวันสิ้นอายุภาษี เพียงนำรถเข้ารับการตรวจสภาพยังสำนักงานขนส่ง ที่รถจดทะเบียนไว้ พร้อมหนังสือแสดงการจดทะเบียนรถ และหลักฐานการจัดให้มีประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาแสดงเท่านั้น ส่วนรถบรรทุกประเภทส่วนบุคคลและรถสาธารณะ และรถโดยสารประเภทส่วนบุคคล ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพปีละ 1 ครั้ง สำหรับรถโดยสารสาธารณะ ได้แก่ รถโดยสารประจำทาง รถโดยสารไม่ประจำทาง และรถขนาดเล็ก ต้องตรวจสภาพปีละ 2 ครั้ง
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
