ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา  (อ่าน 21558 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 08:08:52 PM »
หลังจากเก็บภาพกันอย่างสนุกสนาน ที่จุดชมวิวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินทางลงจากดอยภูคาเข้าตัวเมืองปัว เป้าหมายต่อไปคือต้นดิกเดียม วัดปรางค์ หลังจากได้ยินชื่อต้นดิกเดียม สมาชิกของเราบางคนก็อึ้งไปเลย ว่ามันคือต้นอะไรกันแน่ มันมีความสำคัญยังไง ถึงต้องไปดู

ต้นดิกเดียมเท่าที่จำได้ เคยเห็นรายการทีวีเอามาออกอากศ ว่าต้นไม้แปลก เวลาหลวงตาท่านหนึ่งมาลูบ ต้นไม้นี้จะขยับ เหมือนคนบ้าจี้ มองดูเหมือนลมพัน แต่แท้ที่จริงแล้วไม่น่าเป็นไปได้ พอพระท่านหยุดลูบ ต้นไม้นี้ก็จะกลับไปหยุดนิ่งสนิทเหมือนเดิม

วัดปรางค์อยู่ในตัวเมืองปัว ทางหลวงหมายเลข 1080 มุ่งหน้าอ.เชียงกลาง ห่างจาก 3 แยก เพียงไม่ถึง 1 กิโลเมตร มีทางเลี้ยวซ้ายเข้าไป ดูในหน้าข้อมูลเที่ยว จังหวัดน่านก็แล้วกันครับ หลังจากเขียนเรื่องเล่านี้แล้วจะรีบเข้าไปอัพเดตข้อมูลและแผนที่ให้
http://touronthai.com/gallery/provinceview.php?province_val=nan

หลังจากเดินทางถึงวัดปรางค์ เราได้เห็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ 5 รถตู้ มานมัสการหลวงตาท่าน ซึ่งท่านก็ให้พร และคาถาสำหรับการเดินทางให้ปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว นอกจากนั้นท่านยังได้สอนธรรมะอีกหลายอย่าง หลังจากที่ท่านว่างเราก็นิมนต์ท่านมาลูบต้นดิกเดียมต้นนี้ให้ดู รวมทั้งทีมงานสมาชิกของเรา รวมทั้งผมเองก็ได้ลองลูบดูด้วยเหมือนกัน ปรากฏว่า มีเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ลูบให้ต้นดิกเดียมขยับได้ นั่นก็คือ คุณ krit_tong นั่นเอง ได้ความมาว่า ความเชื่อเรื่องต้นดิกเดียมนี้ ผู้มีบุญ จะสามารถลูบให้ต้นดิกเดียมขยับได้ แท้จริงประการใดไม่รู้ครับ แต่ที่แน่ๆ เวลาหลวงตาท่านมาลูบ ต้นดิกเดียมขยับเยอะมาก ขณะที่แดดร้อนๆ ไม่มีลมเลยด้วยครับ

เสียดายที่เป็นกล้องภาพนิ่ง อธิบายยังไงก็ไม่เหมือนไปดูด้วยตัวเองครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 09:04:03 PM โดย jai »
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 08:22:52 PM »
หลังจากนั้นก็กราบลาหลวงตาท่านแล้วออกเดินทางกันต่อไป จุดหมายตามโปรแกรมของเราคือวัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่านระหว่างการเดินทางอันยาวนาน สู่ตัวเมืองน่าน ก่อนถึงทางแยกในตัวเมืองไม่ไกล มีรถประหลาดๆ ขับเซไปเซมา อยู่เลนกลาง มีมอเตอร์ไซค์อยู่เลนซ้าย ผมก็นึกว่ารถเค้าขับเบี่ยงหลบมอเตอร์ไซค์ แล้วกำลังกลับเข้าเลนกลางตามเดิม ผมแซงขึ้นเลนขวากำลังจะพ้นอยู่พอดี รถที่อยู่เลนกลางก็เซมาจนกันชนหน้ามาขูดเอาด้านข้างรถผม หลังจากนั้นก็ขับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กว่าจะไล่ตามทันให้จอดได้ ก็หลายกิโลเมตร พอถึงแยกไฟแดง ผมขับปาดหน้าให้เค้าจอด เค้าก็บอกให้ไปหาที่จอดคุยกันร่มๆ เฮ้อ ประหลาดคน ถามไปถามมาให้เรียกประกันมาเคลียร์ ปรากฏว่ารถคันนั้นก็ไม่มีประกันอีก ยุ่งเข้าไปใหญ่เลยคราวนี้ เลยต้องเสียเวลารอประกันของเรามาเคลียร์ให้ กว่าจะเสร็จเสียเวลาไปชั่วโมงกว่า โห้ยขับรถแบบนี้น่าจะนอนอยู่บ้านมากกว่า ออกมาเดี๋ยวก็ได้ทำคนตายไม่รู้ตัว

คุยกับประกันเค้าบอกว่าตอนขับอยู่หน้าสนามบิน เห็นเครื่องบินลำหนึ่งร่อนลงกำลังจะจอดเห็นมันสวยดีเลยมัวแต่มองเครื่องบิน ไม่ได้ดูทาง เอ้า ไปกันใหญ่แล้ว ถ้าเหยียบมอเตอร์ไซค์ตายแกก็คงขับไปเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกันมั้งเนี่ย

ในที่สุดยังไงก็แล้วแต่ เราก็มาถึงพระธาตุแช่แห้ง แต่วันนี้มีการบูรณะครั้งใหญ่ เหมือนกับพระธาตุช่อแฮ เพียงแต่พระธาตุแช่แห้ง มีการเอาผ้าสีเขียวมาพันไว้ ทำให้ไม่ได้รูปสวยๆ กลับมา สักการะพระธาตุและพระประธานเสร็จ ก็เดินออกมาเห็นชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังเร่งทำเทียน ด้วยการเอาแผ่นขี้ผึ้งมาพันรอบไส้เทียนที่เป็นด้ายขนาดใหญ่ ดูแล้วน่าจะเป็นเทียนสำหรับงานเวียนเทียน เพราะต้องทำเป็นจำนวนมากๆ เลยได้เก็บภาพเหล่านี้มาฝากกันแทนครับ

หลังก็ออกเดินทางไปกินข้าว สมาชิกที่มากับรถตู้กินกันจนใกล้เสร็จแล้ว และสั่งอาหารเผื่อไว้ให้ รถทั้งสองคันได้แยกกันที่ร้านอาหารร้านนี้ เพราะรถตู้ต้องใช้เวลาอีกมากในการเดินทางไปอุทยานแห่งชาติขุนสถาน

ร้านอาหารร้านนี้ชื่อร้านสุริยา อยู่ตรงข้ามกับวัดพระเนตร ตัวเมืองน่าน อาหารอร่อยมาก ไม่ได้มีการนัดแนะไว้ล่วงหน้า และไม่ได้ค่าโฆษณา ตามสไตล์ทัวร์ออนคอนเฟิร์มครับ บริการดี อาหารประทับใจเขียนให้กันแบบฟรีๆ อีกแล้วครับท่าน เดี๋ยวจะเอารูปร้านอาหารมาลงให้ครับ อยู่ที่กล้องอีกตัว คุณ Joenae อ่านเจอแล้วเอามาลงด่วนครับ

เมนูแนะนำของร้าน ต้มยำปลาคัง ยำผักกูด 2 อย่างนี้สั่งให้จงได้ อย่างอื่นๆ ก็อร่อยครับ แต่สมาชิกทั้งหมดลงความเห็นให้ 2 เมนูนี้ เป็นเมนูเด็ดประจำร้านที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 09:11:04 PM โดย jai »
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 08:45:13 PM »
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว เราก็ออกเดินทางไปทางจังหวัดแพร่ ซึ่งจะผ่านทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน(ดอยเสมอดาว) และจะมีทางแยกไปยังอุทยานแห่งชาติขุนสถานได้ด้วย จากประสบการณ์ที่เคยไปอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เราขึ้นและลงจากหมู่บ้านห้วยแก๊ต ทางนั้นชันมากๆ ทำเอาเบรคคลัทซ์ ไหม้ ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ คราวนี้ลองขึ้นทางอุทยานแห่งชาติศรีน่านบ้าง ปรากฏว่าทางไม่ชันเท่าไหร่ แต่หลุมบ่อมากมายเยอะเหลือเกิน ในที่สุดสรุปว่า เส้นทางบ้านห้วยแก๊ต จะใช้เวลาเดินทางสั้นกว่า แม้ว่าจะชันกว่าก็ตาม ยังไงๆ ก็ดีกว่าเจอหลุมเจอบ่อ

ซึ่งในช่วงเดินทางขาลงเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ เราก็ใช้เส้นทางบ้านห้วยแก๊ตนั่นเอง

การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน เป็นการเดินทางที่อยู่นอกเหนือจากโปรแกรมอย่างแรง เพราะออกจากเส้นทางตามโปรแกรมไปไกลมาก และยังเป็นเส้นทางขึ้นเขาอีกด้วย งานนี้ต้องบอกว่าประทับใจรถตู้ที่พาเราไปจริงๆ ไม่รู้ว่าเบรคเป็นไงบ้าง ไม่ว่าจะไปไหน ออกนอกเส้นทางยังไง กลับดึกขนาดไหน ไม่ได้ยินเสียงบ่นของเค้าเลย

สนใจติดต่อกันเองครับ http://touronthai.com/forum/index.php?topic=276.0

เมื่อเดินทางมาถึงสถานีวิจัยน้ำขุนสถาน ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เพียง 2 กิโลเมตร ทุกคนก็ดีใจมากที่ได้เห็นดอกชมพูภูคาแบบใกล้ชิดไม่ต้องง้อกล้องส่องทางไกล หรือเลนส์ 300mm เราได้เห็นดอกชมพูภูคากันแบบเต็มตาสมกับที่เป็นเป้าหมายหลักของทริปนี้ของเรา เสียเพียงแต่ว่า ในจินตนาการที่วาดไว้ คิดว่าดอกชมพูภูคาเวลาบานจะบานพร้อมกันเหมือนนางพญาเสีอโคร่ง ที่ทำให้บรรยากาศรอบๆ กลายเป็นสีชมพูไปหมด แต่ไม่เป็นไรครับ ธรรมชาติสร้างเค้ามาแบบนี้ ซึ่งก็สวยมากเพียงพอแล้วที่ได้เห็นดอกไม้หายากชนิดนี้ในเมืองไทย
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 09:03:41 PM »
นอกจากนี้สถานีวิจัยน้ำขุนสถานยังมีบ้านให้เข้าพักได้ด้วยครับ แต่ต้องจองล่วงหน้า โดยเฉพาะผู้ที่สนใจอยากจะเข้าพักในช่วงปีใหม่ซึ่งมีนางพญาเสือโคร่งบานพอดี จะต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 2 ปี ครับ ไม่ได้พิมพ์ผิดครับ 2 ปี อาจจะไม่ว่างด้วยซ้ำ เพราะมีคนเข้าจองกันเยอะมาก หากเป็นวันอื่นๆ ที่ไม่ตรงกับงานปีใหม่ก็คงจะพอมีว่างบ้างครับ บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่สร้างสไตล์ ตะวันตก มีอากาศเย็น มีนางพญาเสือโคร่งหลายต้นอยู่หลังบ้าน มีป่าสนด้วยทำให้อากาศร่มรื่นเย็นสบายในเวลากลางวัน ไม่มีร้านค้าใดๆ ต้องเตรียมกันมาเองครับ

สำหรับในช่วงดอกชมพูภูคาบานนี้บ้านหลังนี้จะไม่ติดต้นชมพูภูคานะครับ แต่ก็อยู่ไม่ไกล อีกอย่างใกล้ต้นนางพญาเสือโคร่งก็ดีกว่าอยู่แล้วครับ

ราคาแล้วแต่จะตกลงกันครับ ไม่ได้ตั้งเป็นขั้นต่ำอะไรไว้มากมาย ช่วยค่าน้ำค่าไฟก็พอ

ลักษณะของตัวบ้านที่สวยงามท่ามกลางบรรยากาศดีๆ นี้มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ กันหลายมุมมาก แต่ในทริปนี้ขอมุมนี้มุมเดียวครับ มุมอื่นๆ ในกล้องคนอื่นมีเยอะแต่ไม่รู้จะเอามาโชว์กันหรือเปล่า

กลับลงมาจากสถานีวิจัยน้ำขุนสถาน หาที่กินข้าวเย็นกันที่นครสวรรค์ นึกอยากกินข้าวต้มกับกับข้าวขึ้นมา เลยแวะตัวเมืองร้านข้าวต้มนัดพบสี่แยกบิ๊กซี อยู่ฝั่งตรงข้ามกับบิ๊กซี มาจากพิษณุโลกถึงไฟแดงก็เลี้ยวซ้ายเข้ามา ไม่นานก็เจอร้านนัดพบ หลังจากนั้นเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ

จบทริปด้วยค่าใช้จ่าย 2400 บาทต่อคน ตรงกับที่วางไว้แต่แรก เฮ้อ ลุ้นแทบแย่ เพราะมีการป่วนเข้ามาตอนจัดรถออกทริปแรกๆ นิดหน่อย สมาชิกก็ไม่เต็มรถ แต่หารออกมาได้เท่าเดิมก็ดีครับ

ทริปยาวเหยียดสุดคุ้ม 3 จังหวัด แพร่ พะเยา น่าน ก็ผ่านไปด้วยดีด้วยประการฉะนี้เอง
เที่ยวสถานที่สำคัญๆ หลักๆ ของแต่ละจังหวัด
ชมดอกชมพูภูคาที่หายากได้แบบเต็มอิ่ม
พบเสี้ยวดอกขาวโดยบังเอิญ
ทำบุญไหว้พระสักการะพระธาตุประจำปี เถาะ และปีขาล (เสียดายที่ต้องข้ามวัดอนาลโยและเจดีย์พุทธคยา ประจำปีมะเส็งไป ไม่งั้น ครบเครื่องแบบจัดเต็มแน่นอน)
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ jeab

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 359
  • คะแนน: +3/-0
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 26, 2011, 10:50:43 PM »
ตามมาให้กำลังใจ

 :D

ออฟไลน์ krit_tong

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 15
  • คะแนน: +0/-0
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 07:10:14 PM »
เป็นกำลังใจให้ทริปดีๆ ผู้คนดีๆ และประสบการณ์ที่ดีๆ ;D

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 08:07:42 PM »
เป็นกำลังใจให้ทริปดีๆ ผู้คนดีๆ และประสบการณ์ที่ดีๆ ;D

ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งเข้ามาครับ นึกว่าหายไปไหนกันหมดเสียแล้ว สำหรับทริปนี้หากขาดตกบกพร่องประการใดผู้จัดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

สรุปว่าตามโปรแกรมแล้ว ขาดวัดอนาลโย แต่ก็มีอุทยานแห่งชาติขุนสถานเพิ่มมาให้แทน น่าจะพอทดแทนกันได้นะครับ แล้วหวังว่าจะได้ร่วมทริปกันอีกครับ  8)
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ กิ๊บครับ hs4jfz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
  • คะแนน: +0/-0
Re: เรื่องเล่าจากทริปชมพูภูคา วันที่ 2 ตอนภูลังกา กับภูคา
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 27, 2011, 09:20:40 PM »
เยี่ยมยอดไปเลยครับ สำหรับทริปนี้
สมาชิกทุกคนเป็นกันเอง ฮาสุดๆครับ ;D ;D
เป็นทริปที่ขับรถระยะค่อนข้างไกล แต่ไม่ง่วงเลยครับ มีเพื่อนคุยตลอดทางครับ ;D ;D

ออฟไลน์ Digimon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
  • คะแนน: +0/-0
ทริปนี้สนุกมากๆ นอกจากได้เที่ยวแล้วยังได้เพื่อนกลับมาอีก   ;D

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
เยี่ยมยอดไปเลยครับ สำหรับทริปนี้
สมาชิกทุกคนเป็นกันเอง ฮาสุดๆครับ ;D ;D
เป็นทริปที่ขับรถระยะค่อนข้างไกล แต่ไม่ง่วงเลยครับ มีเพื่อนคุยตลอดทางครับ ;D ;D

ใช่ๆ เกือบทำลายสถิติ ของตัวเองลงเสียแล้ว เช็คระยะจาก Google Maps

เส้นทางการขับรถไปยัง ภูลังกา รีสอร์ท จากสุราษฎร์ธานี
ระยะทาง 1,455 กม. เวลา 21 ชั่วโมง 56 นาที


สถิติเดิม

เส้นทางการขับรถ บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น
วัดจันทาราม จ.อุทัยธานี
กลับมาที่ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น
จากนั้นกลับ บางบ่อ สมุทรปราการ
ระยะทาง 1,809 กม. เวลา 1 วัน 2 ชั่วโมง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2011, 01:44:49 PM โดย Tommy »
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน