ล่องใต้ ภาค ๕ เทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ นครหาดใหญ่

[Tommy]

กลับมาอีกแล้วที่แดนใต้ ยังคงเน้นจังหวัดสงขลาเป็นหลักเหมือนเดิม คราวนี้ไม่มีแผนการอะไรมากมาย ขับรถมุ่งหน้าลงใต้ แวะไหว้พระปรางค์ ๕ ยอดที่วัดพระมหาธาตุ จังหวัดเพชรบุรี พระปรางค์ ๕ ยอดเป็นปูชนียสถานที่สำคัญประจำจังหวัด แม้จะมีอายุเก่าแก่มากแต่ก็ยังคงความสมบูรณ์ ลักษณะงานศิลปะที่สร้างพระปรางค์องค์นี้ขึ้นมาลวดลายต่างๆ ยังอยู่ครบ และอยู่กลางตัวเมืองเพชรบุรี เดินทางสะดวก องค์พระปรางค์ ๕ ยอดมีระเบียงคตล้อมรอบทั้ง สี่ด้าน ด้านหน้าเป็นพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องขนาดใหญ่เป็นพระปฏิมาประธานประจำพระอุโบสถ

การเดินเข้าชมพระปรางค์  ๕ ยอดต้องเดินทะลุออกด้านหลังพระอุโบสถ เปิดให้เข้าชมทุกวัน นอกจากนั้น ผนังภายในพระอุโบสถ ยังมีภาพจิตรกรรมที่เก่าแก่ งดงาม ผ่านกาลเวลายาวนานจนเริ่มมีการชำรุด หายไปหลายส่วน บางภาพเลือนลางไปมากกว่าครึ่งภาพ หากอยากจะชมควรจะไปเสียแต่วันนี้ที่ภาพเหล่านี้ยังคงอยู่

เชิญชมภาพที่สวยงาม ณ บัดนี้

[Tommy]

ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ด้านในตรงประตูเข้าอุโบสถ ไหว้พระเสร็จแล้วหลังจากนั้นก็เดินออกไปทางประตูหลังอุโบสถ ฐานพระประธานในพระอุโบสถก็มีลวดลายสวยงามล้อมรอบฐาน แต่เนื่องจากพระประธานและพระพุทธรูปส่วนใหญ่ประดิษฐานไว้ภายในมีพลาสติกใสล้อมรอบ จึงถ่ายภาพได้ลำบากหน่อย เดินออกประตูหลังจะพบรอยพระพุทธบาทจำลอง ขนาดไม่ใหญ่มากนัก จากนั้นเดินออกไปก็จะเห็นพระปรางค์ ๕ ยอด

[Tommy]

เชิญชมพระปรางค์ ๕ ยอดแบบรอบๆ เลยครับ เนื่องจากขนาดของพระปรางค์ ๕ ยอดที่ค่อนข้างสูง มีเจดีย์รายองค์เล็กๆ ที่อยู่ที่มุมทั้งสี่ของฐาน ทำให้จับภาพทั้งหมดไม่ได้แม้ว่าจะใช้เลนส์ไวด์ 10mm แล้วก็ตาม ใครอยากชมความงดงามและคุณค่าของงานศิลปะไทยคงต้องมาชมด้วยตัวเอง พระปรางค์ ๕ ยอด มียอดที่สูงมาก เข้าเมืองเพชรบุรีมาแล้วจะเห็นส่วนยอดขาวๆ ได้จากไกลๆ

[Tommy]

ระเบียงคตรอบพระปรางค์ ๕ ยอด ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยจำนวนหลายองค์ เรียงบนฐานรอบระเบียงคต สวยงามมาก สำหรับองค์พระปรางค์ มีบันไดทางขึ้น-ลง ทั้งสี่ด้าน แต่ละด้านมีบานประตูลวดลายสวยงามบันไดทางขึ้น-ลง ถี่และชัน ตามลักษณะความสูงขององค์พระปรางค์

[Tommy]

หลังจากนั้นก็เดินทางยาวมุ่งหน้านครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางปกติตรงอย่างเดียวผ่านชุมพร สุราษฎร์ธานี ถึงสิชล นอนค้างที่นี่เป็นบ้านหลังหนึ่งของสมาชิกในทริปแบบโฮมสเตย์กันเองสบายๆ บ้านหลังนี้ล้อมรอบไปด้วยสวนมังคุด ครั้งหนึ่งเคยมาตอนฤดูเก็บเกี่ยว ได้มังคุดกลับบ้านมาหลายกิโล โชคดีจริงๆ ตื่นแต่เช้ามาหาผีเสื้อเอากลับมาฝาก ตอนนี้ยังไม่ได้เทียบคู่มือผีเสื้อเลยยังไม่รู้ว่าเป็นชนิดไหน เดี๋ยวกลับมาอัพเดต หรือไม่ก็จะเอาเข้าเก็บไว้ใน Gallery อัลบัมผีเสื้อ คลิกเข้าไปดูกันได้ครับ http://touronthai.com/forum/index.php?action=gallery

[Tommy]

ออกเดินทางเข้าเมืองนครศรีธรรมราช ปกติเมื่อมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชก็ต้องเข้าไปสักการะวัดพระมหาธาตุวรวิหาร แต่ทริปนี้ไม่ได้เข้าไป เดินเล่นรอบๆ สวนศรีธรรมาโศกราช เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่หลักๆ สำหรับจัดงานพิธีหลายๆ อย่าง อย่างเช่นในวันนี้มีงานมาฆบูชานานาชาติเป็นประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุที่ยิ่งใหญ่ พระธาตุในวัดพระมหาธาตุได้รับการเสนอชื่อขึ้นเป็นมรดกโลก และรอการตัดสิน ทางจังหวัดนครศรีธรรมราชจึงได้จัดงานแห่ผ้าขึ้นธาตุให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา กำหนดจัดงาน 12-18 กุมภาพันธ์ และวันที่ 18 จะเป็นวันที่สำคัญ เป็นไฮไลท์ของงานสำหรับคนที่สนใจอยากร่วมงานมาฆบูชาที่ยิ่งใหญ่นี้ปีนี้พลาดไม่ได้ครับ

[Tommy]

สถานที่ที่น่าสนใจใกล้ๆ กับสวนสาธารณะศรีธรรมาโศกราชก็ได้แก่ กำแพงเมือง ซึ่งเป็นกำแพงเมืองเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี คล้ายๆ กับที่จังหวัดอื่นๆ ที่เคยเป็นหัวเมืองของไทยในอดีต

[Tommy]

หลังจากนั้นไปหอพระอิศวรครับ จะมีเสาชิงช้าเหมือนในกรุงเทพฯ เพียงแต่ขนาดจะเล็กกว่านิดหน่อย ในวันสงกรานต์ จะมีพิธีแห่นางดานที่สวยงาม หอพระอิศวรจะแสดงแสงสีเสียงเรื่องประวัติของการโล้ชิงช้า ความหมายของนางดาน หรือนางกระดาน ซึ่งมีพระอาทิตย์ พระจันทร์ และพระคงคา



ข้อมูลความหมายของประเพณีแห่นางดาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://touronthai.com/gallery/placeview.php?place_id=66001003

เมื่อทริปที่ไปร่วมงานแห่นางดานได้เข้าไปสักการะพระอิศวรและพระนารายณ์ (หอพระนารายณ์อยู่ตรงกันข้ามกับหอพระอิศวร) คราวนี้เลยตั้งใจไปเก็บภาพในช่วงเวลากลางวันมาเพิ่มเติม 3  รูปนี้เป็นหอพระอิศวรครับ

[Tommy]

ชมภาพภายในหอพระอิศวร ครับ ประกอบไปด้วยเทวรูปศักดิ์สิทธิ์หลายองค์ภายใน และภาพพระอิศวรครับ จากนั้นก็เดินข้ามถนนไปหอพระนารายณ์

[Tommy]

ประตูทางเข้าหอพระนารายณ์จะเหมือนกันกับหอพระอิศวรคือประดับด้วยมู่ลี่ดอกไม้สีเหลืองเต็มบานประตู

ข้อมูลครับ
หอพระอิศวร

อยู่ริมถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย เป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวร และฐานโยนิ รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์ อาทิ เทวรูปศิวนาฏราช พระอุมา และพระพิฆเนศ ปัจจุบันเทวรูปสำริดในหอพระอิศวรเป็นของจำลอง ของจริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช

หอพระนารายณ์

เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์อีกแห่งหนึ่ง อาคารหอพระนารายณ์เดิมไม่สามารถสืบทราบรูปแบบได้แล้ว สิ่งที่พบภายในหอพระนารายณ์ ได้แก่ เทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสีเทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบและพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ นับเป็นเทวรูปที่เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

[Tommy]

หลังจากนั้นก็วกกลับเข้าตัวเมืองนครศรีธรรมราช แวะไหว้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช อันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ครั้งก่อนที่เคยมาก็ถ่ายภาพศาลหลักเมืองไว้เยอะแต่จะเป็นช่วงเย็นเป็นส่วนใหญ่ ภาพช่วงยามเย็นก็สวยงามมาก ครั้งนี้ก็เลยตั้งใจเก็บภาพช่วงกลางวันในวันนี้ที่ฟ้าเปิดสีสันสดใสสวยงามมากครับ

[Tommy]

นอกจากนี้ยังได้เข้าสักการะพระโพธิสัตว์ ที่ประจำรอบศาลหลักเมืองทั้งสี่ทิศครับ ได้แก่ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอมิตาภะพุทธ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอะโมฆะสิทธิพุทธ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอักโษภะยาพุทธ และ พระเทวะโพธิสัตว์ พระรัตนะสัมภาวะพุทธ

[Tommy]

พระเทวะโพธิสัตว์ พระรัตนะสัมภาวะพุทธ ถ้าหากเดินทางมาเข้าศาลหลักเมืองจากสนามกีฬา หรือสวนสาธารณะที่เห็นเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ หันหน้าเข้าหาศาลหลักเมือง จะเห็นมณฑปเล็กๆ สี่มุมของศาลหลักเมือง แต่ละมุมประดิษฐานพระโพธิสัตว์ 1 องค์ ด้านซ้ายคือ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอมิตาภะพุทธ ด้านขวาคือ พระเทวะโพธิสัตว์ พระรัตนะสัมภาวะพุทธ ถ้าหากเราเดินเวียนขวา จะลำดับตามนี้ครับ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอมิตาภะพุทธ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอะโมฆะสิทธิพุทธ พระเทวะโพธิสัตว์ พระอักโษภะยาพุทธ และ พระเทวะโพธิสัตว์ พระรัตนะสัมภาวะพุทธ

[Tommy]

เล่ามาซะตั้งนานเมื่อไหร่จะถึงเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ซะทีน้อ

ก็นี่แหละครับ หลังจากที่ถ่ายรูปไหว้ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชกันแล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังหาดใหญ่โดยไม่ต้องเข้าตัวเมืองสงขลา ไม่ผ่านสะพานติณสูลานนท์ ไม่ผ่านเกาะยอ มุ่งหน้าไปยังหาดใหญ่อย่างเดียวเลย เมื่อมาถึงหาดใหญ่ ก็มีแวะพักให้หายเหนื่อยเช็คอินเข้าโรงแรม แต่ช่วงนี้โรงแรมเต็มเกือบหมดทุกแห่ง หาที่พักยากมาก ได้ที่ซากุระ จากนั้นก็ไปเที่ยวกันเลย

เทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ เป็นงานที่มีโคมไฟสีสันต่างๆ มากมาย เอามาประดิษฐ์เป็นรูปร่างต่างๆ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตัวการ์ตูน มังกร พญานาค ซานตาคลอส น้องสุขใจก็มี โคมไฟหลากสีสันจำนวนมากทำให้สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ สว่างไสวสวยงาม โดยเฉพาะโคมไฟที่แสดงอยู่บนสระน้ำขนาดใหญ่ แสงสีสะท้อนบนผิวน้ำสวยงามมากจริงๆ เชิญทัศนากันได้แล้วครับ

ลานจอดรถจะอยู่ที่หน้าไอซ์โดมหรือว่าโดมน้ำแข็ง ทีแรกผมเข้าใจว่าไอซ์โดมนั้นปิดไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ความจริงยังเปิดอยู่แล้วเดี๋ยวจะได้ดูภาพกันครับ เดินไปที่งานโคมไฟระยะทางไกลเอาเรื่องเหมือนกัน เริ่มทางเข้าจะเป็นโคมไฟปีกระต่ายครับ เข้าไปอีกหน่อย ก็จะเจองานโคมไฟสีสวยๆ บนผิวน้ำมีหลายชุดด้วยกัน แล้วจากนั้นเป็นโคมไฟเฉลิมพระเกียรติ

[Tommy]

เดินต่อเข้าไปอีกเป็นโคมไฟจินตนาการโลกของเด็ก จากนั้นเป็นโคมไฟนานาชาติ ชุดโคมไฟนานาชาตินี้มีจุดเด่นอยู่ที่สามารถส่งเสียงทักทายนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาได้เป็นระยะๆ ตามรูปร่างของโคมไฟชาตินั้นๆ อย่างเช่นโคมไฟหุ่นรูปชาวญี่ปุ่น จะทักทายเราเป็นภาษาญี่ปุ่น เดินผ่านทีแรกก็ตกใจเลยครับ ไม่ได้คิดว่าหุ่นเหล่านี้จะพูดได้ มีหลายชาติด้วยกันเรียงกันไปเป็นแนวตามทางเดินครับ

[Tommy]

หลังจากนั้นจะไปถึงสะพานแขวนข้ามสระน้ำ ใต้สะพานแขวนมีการทำโคมไฟเป็นกระทงเรียงรายกันยาวเหยียด ไปจนถึงโคมไฟชุดเทพเจ้ามังกร เทพเจ้ามังกรเป็นโคมไฟที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด มีคนเข้ามาถ่ายรูปกันมากมายต่อเนื่องตลอดเวลา

[Tommy]

เล่ามาถึงตรงนี้แล้วลืมไปเรื่องนึงครับ ไม่รู้ว่ามีใครมีปัญหาการถ่ายภาพโคมไฟสีแดงกันหรือเปล่า ผมเจอหลายครั้งมากเวลาถ่ายรูปโคมไฟสีแดงแล้วมันไม่ยอมจะแดง เมื่อเจอปัญหานี้ผมก็พยายามยืนปรับกล้องอยู่ตั้งนานเพราะจำได้ว่าตอนที่ไปเชียงใหม่ ประตูท่าแพมีการแขวนโคมไฟไว้หลายสี มีนักท่องเที่ยวไปถ่ายรูปกันเป็นจำนวนมาก เวลาเจอปัญหาแบบนี้วิธีแก้เฉพาะกล้อง Nikon แล้วกันครับเดี๋ยวกล้องอื่นทำตามแล้วไม่เหมือนกัน จะมาว่ากันได้

เลือกไวท์บาลานซ์ เป็นหลอดไส้ (คงรู้นะครับว่าอันไหน ภาษาอังกฤษจำไม่ได้) จากนั้นปรับสีไปทางแดง ตรงค่า A3 M2 จากนั้นก็ใช้ได้แล้วครับ โคมไฟจะเป็นสีแดงขึ้นมามากกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่เหมือนกับที่ตาเห็นเท่าไหร่ ทั้งนี้ยังมีเรื่องการชดเชยแสงเข้ามาเกี่ยวข้อง ขึ้นอยู่กับช่วงของเลนส์ที่ใช้ด้วย สำหรับกล้อง Nikon ที่ปรับอุณหภูมิแสงแบบ เคลวิน อันนี้ไม่ทราบครับ ไปลองหากันดูเองละกัน

มาเรื่องโคมไฟกันต่อ หลังจากที่ข้ามสะพานแขวนมาแล้วจะเจอโคมไฟอีกหลายชุด อย่างเช่น โลกใต้สมุทร หมีภูเขา นกเพนกวิน จากนั้นเดินต่อไปอีกจะเห็นโคมไฟสัญลักษณ์ประจำจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ หามุมดีๆ จะสามารถถ่ายภาพเทพเจ้ากรีกได้ เป็นโคมไฟชุดที่อยู่บนผิวน้ำ แต่ต้องเอาเลนส์เทเลมาด้วย มีขาตั้งด้วยถึงจะดี

สัญลักษณ์ประจำจังหวัดก็ทำมาหลายจังหวัดหมดภาคใต้เลยครับ ขอเอาเฉพาะที่เด่นๆ ละกันครับเริ่มจากมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี

[Tommy]

เล่ามาถึงมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี มีภาพสถานที่จริงมาด้วย เพื่อเปรียบเทียบ เพราะไปมาเมื่อไม่นานเท่าไหร่ (ล่องใต้ภาค ๔)


กลับมาดูงานโคมไฟกันต่อครับ จากมัสยิดกลางจังหวัดปัตตานีก็เป็นเรือกอแระ และโนห์รา เดินเข้าไปอีกจะเป็นโคมไฟ เฉลิมพระชนม์พรรษา ๘๔ พรรษา น้องสุขใจลอยกระทง มีซานตาครอส และโคมไฟเทศกาลต่างๆ อย่างเช่นวันเด็ก ปีใหม่ ฯลฯ โคมไฟโลกดึกดำบรรพ์ ไดโนเสาร์สองตัว ขยับส่วนคอได้ ทำเอาเด็กๆ หลายคนสนใจมาถ่ายรูปกันใหญ่ มียีราฟ และแรด ก็เป็นจุดสนใจจุดหนึ่ง

[Tommy]

ต่ออีกชุดเดียวครับ พอเดินมาถึงตรงนี้แล้วจะวกกลับไปตรงทางเข้าแล้วจะผ่านโคมไฟวันเด็ก งานลอยโคมยี่เป็ง และบั้งไฟพญานาค และอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้เอาลงมาให้ดูทั้งหมด มีอีกเยอะมากๆ ครับ แต่จะถ่ายทุกจุดคงดึกมากไปหน่อย พอเดนจนมาบรรจบรอบที่ทางเข้าก็หาน้ำดื่ม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมน้ำร้อนมาด้วยแก้หิว ตรงบริเวณโคมไฟเทพเจ้ามังกรมีร้านค้า มีของกินหลายอย่างให้เลือกครับ เข้ามาแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องของกินและเครื่องดื่ม

[Tommy]

เอาละเมื่อเดินมาจนบรรจบจุดเริ่มต้นตรงทางเข้างานเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ จะมาเจอโดมน้ำแข็ง หรือไอซ์โดม ถึงตรงนี้ก็จะเข้าไปชมความสวยงามของงานแกะสลักน้ำแข็งและมีไฟส่องสว่างสวยงามข้างในกันแต่ทั้งนี้ขอยกเรื่องไอซ์โดมไปต่อเป็นเรื่องใหม่เพราะภาพมันเยอะและสะดวกในการค้นหาเวลาอ่านครับ

ไปต่อที่ http://touronthai.com/forum/index.php?topic=426.0