เดินจากหน้าวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ มาประมาณ 300 เมตร เราได้พบกับ “ค่ายบางระจัน” เดินเข้าค่ายมาอย่างกับว่าได้อยู่อีกโลกหนึ่ง มันช่างร่มรื่น เย็นสดชื่น น่าเดิน น่าอยู่ในนี้นานๆ มากจังเลย ต้นไม้ใหญ่อายุนับหลายร้อยปี และต้นไม้นานาพันธุ์ สมุนไพรที่ใช้ทำยาต่างๆ มากมาย คือไม่น่าเชื่อ ว่าในเมืองสิงห์บุรี มีพื้นที่อย่างนี้อยู่ เพื่อนนักท่องเที่ยวที่เดินสวนออกมา ต่างก็บอกกันว่า ข้างในเย็นมากกกก อื้ม เป็นแบบนี้นี่เอง เรานี่แทบไม่อยากจะออกไปเจอแดดเลย
ด้านในมีศาล ปู่ ย่า ชาวบางระจัน ที่สละชีพเพื่อชาติ มีเนินดินและป้อมที่ชาวบางระจันสร้างไว้เป็นแนวป้องกันพม่า
ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หรือประมาณ 200 ปีเศษมาแล้ว ราวๆ พุทธศักราช 2308 ชาวบ้านบางระจันนำโดย นายจัน หนวดเขี้ยว,นายโชติ,นายดอก,นายทองเหม็น,นายทองแสงใหญ่,นายแท่น,นายเมือง,นายพันเรือง,ขุนสรร ได้รวบรวมชาวบ้านตั้งค่ายเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยต่อสู้กับพม่าที่มารุกราน ณ บริเวณบ้านบางระจัน โดยมีพระอาจารย์ธรรมโชติเป็นผู้ประสิทธิ์วิทยาอาคมบำรุงขวัญ ชาวบ้านบางระจันได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญจนสามารถรบชนะพม่าถึง 7 ครั้ง แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้เสียค่ายแก่พม่าในการรบครั้งที่ 8