ทริปปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ ภาค #3 (19 จังหวัดภาคกลาง)

[admin]

(ต่อจากภาค 2) ความเดิมที่เล่าไว้จบภาค 2 ตอนที่คณะคาราวานเดินทางเข้ามาถึงด่านเชียงของ และเดินทางเข้าเมืองเชียงรายไปพักที่โรงแรมริมกกรีสอร์ท โดยการต้อนรับอย่างอบอุ่นของ ททท.เชียงราย และ ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ย้อนกลับไปอ่านกันได้ที่ ทริปพิเศษคาราวานพิชิต 15,000 ไมล์ อัลไต-สุวรรณภูมิ#ภาค 2

[admin]

วันที่ 22 ของการเดินทาง (5 ธ.ค.58)

วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายศุกรีย์ สิทธิวนิช รองผู้ว่าการด้าน สื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธาน ร่วมกับคณะคาราวานทั้งชาวไทยและชาวจีนร่วมพิธีถวายพระพรในตอนเช้า และดำเนินการพิธีเปิดขบวนคาราวานในช่วงประเทศไทย ออกเดินทางจากโรงแรมริมกก ไปที่วัดร่องขุ่น ไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทาง เป็นที่ประทับใจของทั้งชาวไทยและชาวจีนที่ร่วมเดินทางเป็นอย่างมาก ชาวจีนปฏิบัติตามระเบียบที่เราแจ้งไว้ด้วยการแต่งกายมิดชิดและงดโพสต์ท่าทางที่ไม่เหมาะสมในการถ่ายภาพในวัดร่องขุ่น ถือเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอันดีงามระหว่าง 2 ประเทศ โดยที่เราปฏิบัติตามระเบียบของจีนมาตลอด 16 วันของการเดินทางช่วงแรก

[admin]

เย็นวันที่ 5 ธันวาคม ขบวนคาราวานทั้งหมดเดินทางถึงจังหวัดชัยนาท แวะกินข้าวที่จ.แพร่ (แสงจันทร์รีสอร์ท) แล้วเดินทางต่อเป็นระยะทางยาวมากอีกวันหนึ่งเพื่อเข้าสู่ภาคกลาง แล้วร่วมรับประทานอาหารเย็นที่สวนนกชัยนาท พบกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท ร่วมการรำวงอย่างสนุกสนาน ก่อนเข้าที่พัก

วันที่ 23 ของการเดินทาง (6 ธ.ค.58)
ออกเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวภาคกลาง ได้แก่ ไหว้พระพรหมที่พรหมบุรี จากนั้นเดินทางเข้าจังหวัดลพบุรีเที่ยวชมพระปรางค์สามยอด ไหว้ศาลพระกาฬ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของลพบุรี ด้วยการอำนวยความสะดวกของทหารเปลี่ยนจากขบวนคาราวานเป็นรถทหารเพื่อความสะดวกในการหาที่จอดรถ

[admin]

เข้ารับประทานอาหารกลางวันในค่ายทหาร เล่นกิจกรรมกระโดดหออย่างสนุกสนาน สำหรับชาวจีนการถ่ายรูปกับตำรวจหรือทหารถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ เพราะทหารของจีนจะเข้มงวดมาก จึงทำให้ชาวจีนมีความสุขกับการได้ถ่ายรูปกับทหารของไทย

[admin]

คณะคาราวานเดินทางเข้านมัสการรอยพระพุทธบาทที่สระบุรี ก่อนจะเดินทางเข้าที่พัก สำหรับการเดินทางเที่ยวภาคกลางวันนี้นับว่าเป็นวันที่เดินทางสั้นมาก เพื่อไม่ให้เหนื่อยล้ามากเกินไป นอกเหนือจากการไหว้รอยพระพุทธบาทชาวจีนยังเดินเลือกซื้อของในตลาดของวัด รู้สึกว่าชาวจีนจะรู้จักน้ำเสาวรสกันเป็นอย่างดี แต่ละคนซื้อคนละหลายๆ ขวด

[admin]

เย็นวันนี้ขบวนคาราวานเข้าร่วมรับประทานอาหารที่โรงแรมลพบุรีอินน์ โดยมีนายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ให้เกียรติร่วมงานเลี้ยงต้อนรับคณะคาราวาน นายสมชาย ชมภูน้อย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขับรถในเมืองไทยแก่คาราวานชาวจีนเพิ่มเติม จากความผิดพลาดที่เราเห็นในวันนี้ เพื่อความปลอดภัยของขบวนคาราวานทุกคน ก่อนแยกย้ายเข้าที่พัก

วันที่ 24 ของการเดินทาง (7 ธ.ค.58)
การเดินทางที่ยาวไกลที่สุดเท่าที่เราเคยร่วมทาง คือ 15000 ไมล์ ยังคงดำเนินการต่อไป ชาวจีนและชาวไทยเริ่มเรียนรู้และปรับตัวมากขึ้น ถึงแม้ว่าเราจะไม่เข้าใจภาษาของกันและกัน แต่เราก็ข้ามอุปสรรคนั้นมาได้อย่างงดงาม คณะคาราวานออกเดินทางจากที่พัก ไปยังวัดม่วงเป็นสถานที่แรกของวันนี้ แน่นอนว่า พระพุทธรูปองค์ใหญ่ของวัดม่วงสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก และสังขารของอดีตเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ก็สร้างความแปลกใจให้กับชาวจีนได้ไม่น้อย ชาวจีนหลายคนได้สัมผัสนิ้วพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและอธิษฐานขอพรกันไป ในระหว่างนี้ คุณสมฤดี ชาญชัย ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เข้าร่วมในขบวนคาราวาน ซึ่งเมื่อขบวนคาราวานนี้ได้ขับผ่านภาคกลางไปก็จะเข้าสู่ภาคอีสานต่อไปจนกว่าจะเดินทางถึงด่านเชียงของและข้ามพรมแดนกลับสู่ประเทศจีนต่อไป

[admin]

ออกเดินทางจากวัดม่วง จ.อ่างทอง ไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี ชมพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร และเดินช้อป ชิม ชิล กันในหมู่บ้านลี่เจียง ทุกคนเดินถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนานและไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่แห่งนี้ให้คนจีนได้เดินเที่ยวกันด้วย มังกรที่สูงสง่ากลางเมืองสุพรรณบุรี แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างสองประเทศ พื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ การท่องเที่ยวอแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี นายวิศรุต อินแหยม พร้อมด้วยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมต้อนรับขบวนคาราวานในมังกรขนาดใหญ่ ก่อนจะรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันในหมู่บ้านลี่เจียง

ว่าที่ร้อยตรี สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีมอบของที่ระลึกให้กับคณะคาราวานที่ได้ผ่านเข้ามาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสุพรรณบุรี

[admin]

หลังจากนั้นเดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าชมสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ทุ่งมะขามหย่อง สถานที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จเมื่อ 2 ปีก่อน ชาวจีนที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยรู้จักพระเจ้าอยู่หัวและหลายคนชอบถ่ายรูปหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ เป็นที่น่ายินดีสำหรับประชาชนชาวไทย เมื่อเข้าพื้นที่พระนครศรีอยุธยาได้รับเกียรติจาก คุณสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาต้อนรับคณะถ่ายรูปที่ระลึกกับนักเดินทางหัวใจแกร่งที่ใช้วีลแชร์ร่วมเดินทางกับคาราวานนี้มาจากเมืองจีน คณะคาราวานร่วมกันให้อาหารปลาอย่างสนุกสนานในทุ่งมะขามหย่องก่อนเดินทางกันต่อไปยังเพนียดช้างเมืองพระนครศรีอยุธยา

[admin]

คณะคาราวานเดินทางเข้าเพนียดช้างอยุธยา เป็นเวลาที่กำลังจะมีการอาบน้ำช้าง สำหรับช้างเด็กก็ลงไปเล่นน้ำในอ่าง ไม่น่าเชื่อว่าอ่างใบนี้ช้างลงไปเล่น 2 ตัวก็ยังไม่แตก ส่วนช้างโตๆ ก็ลงไปเล่นในแม่น้ำกันเลย ลูกช้างน้อย 2 เชือกเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานแย่งกันลงไปนอนในอ่าง เป็นที่น่าเอ็นดูสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวจีน

[admin]

หลังจากสนุกกับช้างกันเต็มที่จุใจ และช้างเดินเข้าไปพักผ่อน คณะคาราวานเดินทางชมวัดพนัญเชิง เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับ จีน ตั้งแต่สมัยอดีต จนถึงปัจจุบัน ที่ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก และหลวงพ่อโต หรือซำปอกงที่คนจีนรู้จักกันเป็นอย่างดี

จากนั้นเดินทางร่วมรับประทานอาหารกลางแจ้งตามแบบวัฒนธรรมไทย แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศคล้ายงานวัด ในเทศกาลอาหารอร่อยเมืองอยุธยา มีการแสดงดนตรี การฟันดาบ พลองไทย มวยไทย ฯลฯ โดยมีนายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภาคกลาง คุณสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแขกผู้มีเกียรติร่วมต้อนรับคณะคาราวานในวันนี้

คลิกอ่านต่อ หน้า 2

[admin]

วันที่ 25 ของการเดินทาง (8 ธ.ค.58)
 ขบวนคาราวานออกเดินทางจากพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้ามาที่จังหวัดปทุมธานี ไหว้สมเด็จโตองค์ใหญ่ที่วัดโบสถ์ ให้อาหารปลาท่าน้ำ แล้วเดินทางต่อไปที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ไหว้พระพิฆเณศ อีกหนึ่งความเชื่อของชาวไทยที่รับเอาวัฒนธรรมความเชื่อทางศาสนามาจากที่อื่น จากนั้นเดินทางไปที่บางปูร่วมรับประทานอาหารในทะเลแวดล้อมด้วยบรรยากาศยามเย็นที่แสนโรแมนติกและหมู่นกนางนวลที่มาบินวนเวียน

[admin]

บรรยากาศงานเลี้ยงต้อนรับคณะคาราวานที่บางปูเป็นไปอย่างสนุกสนานและอบอุ่น โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพฯ นำโดย นางปานจิตร สันทัดกลการ ผู้อำนวยการสำนักงาน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และแขกผู้มีเกียรติมากมาย ร่วมจัดงานต้อนรับ พร้อมการแสดงและร่วมร้องเพลงไทยและเพลงจีน เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันไปในตัว

[admin]

วันที่ 26 ของการเดินทาง (9 ธ.ค.58)
ขบวนคาราวานออกเดินทางจากโรงแรมในสมุทรปราการ มุ่งหน้าไปเที่ยวสมุทรสาคร ที่วัดนักบุญอันนา พื้นที่รับผิดชอบของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม โดยมี คุณอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการ ททท.สมุทรสงคราม มาต้อนรับคณะและร่วมรับประทานอาหาร ก่อนจะนำคณะออกเดินทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไป

[admin]

หลังจากชมศาสนสถานอีกแบบหนึ่งของชาวไทยที่แสดงให้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติแม้ว่าจะเป็นคนละศาสนา คือคริสตศาสนา วัดนักบุญอันนา คณะคาราวานเดินทางไปชมโบสถ์ปรกโพธิ์ที่วัดค่ายบางกุ้ง ความอัศจรรย์ของธรรมชาติที่ต้นไม้ 4 ชนิดขึ้นมาโอบอุ้มโบสถ์โบราณที่น่าจะพังทลายลงตามกาลเวลา และถ่ายรูปในมุม Unseen Thailand อย่างสนุกสนาน จากนั้นก็เดินทางไปที่อุทยาน ร.๒ เปลี่ยนชุดเป็นชาวไทยแบบโบราณ ถ่ายรูปบนอุทยาน ร.๒ ซึ่งมีบริการอยู่ใต้ถุนเรือนไทยหมู่

[admin]

ต่อจากนั้นร่วมรับประทานอาหารเย็นสไตล์ไทยๆ น้ำพริกปลาทู แกงเขียวหวาน ไก่ทอด ชมการแสดงที่จัดโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน สมุทรสงคราม เป็นการแสดงที่สวยงามอลังการ ประทับใจแขกผู้มาเยือน

วันที่ 27 ของการเดินทาง (10 ธ.ค.58)
จากจังหวัดสมุทรสงคราม ขบวนคาราวานเดินทางเข้าที่พักที่จังหวัดราชบุรี ใกล้ตลาดน้ำดำเนินสะดวก "ไม้แก้วดำเนิน" รุ่งเช้าคณะเดินทางเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกและต้นกำเนิดของตลาดน้ำดำเนินสะดวก คือตลาดน้ำเหล่าตั๊กลัก ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ในที่ปัจจุบัน เสน่ห์ของตลาดน้ำเหล่าตั๊กลักคือบ้านเรือนของชาวจีน ที่ยังคงสภาพแม้เวลาที่ผ่านไปนานนับร้อยปี เจ้าของบ้านคนปัจจุบันคือลูกหลานรุ่นที่ 4 และเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง Lost in Thailand ที่โด่งดังในประเทศจีนมาแล้ว

[admin]

จากจังหวัดราชบุรีเดินทางยาวไปที่จังหวัดเพชรบุรี รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทางแล้วเดินทางต่อถึงชะอำ นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภาคกลาง พร้อมด้วยท่านอุปทูตวัฒนธรรมจีน และคณะคาราวาน ทำกิจกรรม CSR เก็บขยะรอบๆ หาดทราย ก่อนที่จะลงเล่นน้ำกับคณะคาราวานชาวจีนอย่างสนุกสนาน พี่เหอชายผู้ไม่มีแขนทั้งสองข้างที่เป็นที่ฮือฮาเพราะร่วมขับรถมากับขบวนคาราวานจนถึงวันนี้ จูงมือภรรยาตัวเองเดินลงเล่นน้ำทะเล เพราะภรรยาไม่กล้าออกไปไกล เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้เห็น ก่อนจะถึงเวลาอาหารเย็นในโรงแรม

[admin]

วันที่ 28 ของการเดินทาง (11 ธ.ค.58)
ขบวนคาราวานถ่ายรูปหมู่ที่หน้าโรงแรมริมหาดชะอำ แล้วออกเดินทางมุ่งหน้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แวะเลือกซื้อผลไม้และสินค้าเกษตร ณ ตลาดเกษตร ทุ่งกระต่ายขัง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ชาวต่างชาติต่างก็ชอบผลไม้ไทยที่มีความหลากหลายมากมายให้เลือกตามความพอใจ เลือกเดินชิมทุกๆ ร้านได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ สร้างความประทับใจให้สมาชิกในขบวนคาราวานเป็นอย่างมาก

ต่อจากนั้นเดินทางไปที่ด่านสิงขร เพื่อแนะนำเส้นทางสำหรับนักขับรถเที่ยวที่อาจจะอยากเดินทางผ่านประเทศไทยเข้าไปประเทศพม่า เดินเลือกซื้อของในตลาดใกล้ๆ ด่าน มีทั้งของไทยและของพม่าวางขายหลายอย่าง ช้อปปิ้งกันเต็มที่แล้วก็ไปต่อที่ตลาดน้ำสามพันนาม อ.หัวหิน

[admin]

ออกจากตลาดเกษตรกรประจวบคีรีขันธ์พร้อมผลไม้หลายชนิดที่ซื้อกันเต็มรถ มุ่งหน้าสู่เมืองประจวบคีรีขันธ์ รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันที่กองบิน 5 และเดินเล่นอ่าวมะนาว ชาวจีนอาศัยอยู่ในประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาล ประกอบไปด้วยหลายมณฑล หลายคนที่มาจากปักกิ่งเล่าให้ฟังว่าเวลาจะไปเที่ยวทะเลต้องเดินทางไกลมากเป็นหลักพันกิโลเมตร ต่างจากเมืองไทยที่มีทะเลมากมายไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากเราก็ได้สัมผัสบรรยากาศทะเลแสนสวยได้แล้ว อ่าวมะนาวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประจวบคีรีขันธ์ ที่ถือว่าเป็นหาดทรายที่สะอาดมากแห่งหนึ่งของไทย

ต่อจากนั้นเดินทางไปที่ด่านสิงขร เพื่อแนะนำเส้นทางสำหรับนักขับรถเที่ยวที่อาจจะอยากเดินทางผ่านประเทศไทยเข้าไปประเทศพม่า เดินเลือกซื้อของในตลาดใกล้ๆ ด่าน มีทั้งของไทยและของพม่าวางขายหลายอย่าง ช้อปปิ้งกันเต็มที่แล้วก็ไปต่อที่ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม

[admin]

เดินช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำหัวหินสามพันนามกันจนจุใจขบวนคาราวานออกเดินทางต่อไปที่หัวหิน โดยใช้รถสองแถวจากโรงแรมไปที่หาดหัวหินเพื่อทำกิจกรรม CSR ทำความสะอาดชายหาดร่วมกัน เดินเล่นรับลมชมวิวหัวหินก่อนที่จะเดินทางไปร่วมรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารเรือริมธาร เขาตะเกียบ ให้การต้อนรับโดย คุณบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ดร.รุ่งโรจน์ สีเหลืองสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คุณลิษา อึ้งเห่ง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน - ชะอำ คุณทรงกรช กรกุมสินนิธี นายกสโมสรโรตารีหัวหิน พันตำรวจโท พันธุ์ล้าน ปฐมพรวิวัฒน์ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน คณะคาราวานสานสัมพันธไมตรี ไทย - จีน ครบรอบ 40 ปี 15,000 ไมล์ จาก"อัลไตสู่สุวรรณภูมิ" ประทับใจกับการต้อนรับที่อบอุ่นและอาหารทะเลของไทยเป็นอย่างมาก

[admin]

เช้าวันต่อมา คณะคาราวานออกเดินทางจากโรงแรมหัวหินแกรนด์ เดินทางจากประจวบคีรีขันธ์ ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี ชมสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองของใช้ของฝากต่างๆ ที่ตลาดน้ำกองถ่ายค่ายสุรสีห์ สถานที่ถ่ายทำหนังดังของไทยสมเด็จพระนเรศวร ร่วมรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางบรรยากาศเมืองเก่าของไทย ชิมขนมและอาหารตามร้านต่างๆ ที่นำมาวางขาย

คลิกอ่านต่อหน้า 3

[admin]

จากตลาดน้ำกองถ่ายค่ายสุรสีห์ พี่เหอผู้พิการมือ 2 ข้าง เดินเคียงข้างเพื่อนร่วมคารวานที่ต้องนั่งวีลแชร์ในการเดินทางมุ่งหน้าเข้าไปปางช้างทวีชัย จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่ชาวจีนในขบวนคาราวานตั้งใจอย่างมากว่าจะมาที่นี่ให้ได้เพื่อที่จะได้นั่งช้างเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่งกว่าการเที่ยวเล่นน้ำทะเลเสียอีก  เพราะในประเทศจีนสถานที่ที่จะพบเห็นช้างที่ฝึกฝนมาจนสามารถมาบริการนักท่องเที่ยวได้แบบนี้มีน้อยมาก จบการขี่ช้างก็มีการโชว์น่ารักๆ จากลูกช้างสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่มาร่วมคาราวานในครั้งนี้อย่างยากที่จะลืมเลือน

[admin]

ชมโชว์ช้างนั่งช้างสมความตั้งใจที่อยากจะมาเมืองไทยไปแล้วขบวนคาราวานเดินทางไปยังสะพานข้ามแม่น้ำแควร่วมรับประทานอาหารสุดประทับใจบนแพที่ลากไปชมพระอาทิตย์ตกที่สวยน้ำของคุ้งน้ำ จากนั้นลากย้อนกลับมาชมเมืองกาญจนบุรีที่สวยงามยามค่ำคืน ดื่มด่ำกับบรรยากาศของสายน้ำและเสียงเพลงไปพร้อมกับอาหารที่แสนอร่อย สื่อมวลชนชาวจีนเล่าให้ฟังว่า ในประเทศจีนที่กว้างใหญ่ไพศาลมีแม่น้ำลำคลองมากมาย แต่จะหาแม่น้ำที่มีบริการนั่งแพกินข้าวชมวิว หรือนั่งแพไปค้างคืนกลางบรรยากาศของธรรมชาติเหมือนเมืองไทยนั้นหายากมาก การได้นั่งแพดินเนอร์แบบนี้ในเมืองไทยจึงเป็นความประทับใจไม่เคยคิดว่าจะได้รับจากการเดินทางมาแสนไกล กับคาราวาน 15000 ไมล์ อัลไต-สุวรรณภูมิ ของเราเลย

[admin]

อิ่มหนำสำราญกันเป็นที่เรียบร้อยทั้งอาหารอร่อยและอิ่มใจกับวิวสวยๆ ริมฟากแม่น้ำแคว ขบวนเดินทางไปที่พักในกาญจนบุรี เช้าวันต่อมาออกเดินทางเที่ยวกันต่อ ไปที่วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ ชมเจ้าแม่กวนอิมแม้แกะสลักปางพันเนตรพันกร ที่ใหญ่อลังการมากๆ คาดว่าจะเสร็จประมาณต้นปีหน้า หรือช่วงประมาณตรุษจีน งานแกะสลักทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลือเพียงพิธีใส่หัวใจเจ้าแม่กวนอิมเพื่อเป็นเสร็จสมบูรณ์เท่านั้น ปีหน้าจะเปิดให้ชมอย่างเป็นทางการ จากนั้นนายอิสสระพงษ์ แทนศิริ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี ส่งคณะคาราวานเพื่อเดินทางเข้าจังหวัดนครปฐม ชม Wood Land เมืองไม้ โดยมีคุณอินทิรา วุฒิสมบูรณ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสมุทรสงครามและคณะมาให้การต้อนรับขบวนคาราวาน ร่วมรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติของสายน้ำนครปฐม ก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ มหานคร เป็นจังหวัดที่ 19 ของภาคกลาง เป็นอันว่าคณะคาราวาน 15000 ไมล์ อัลไต-สุวรรณภูมิ ได้เดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลางครบทั้ง 19 จังหวัด เป็นที่เรียบร้อย และจะพักผ่อนในกรุงเทพฯ เป็นเวลา 2 วัน ก่อนที่จะเดินทางต่อขึ้นไปตามเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

[admin]

ขบวนคาราวานเดินทางเข้าถึงกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมงานต้อนรับคณะคาราวานที่ศูนย์วัฒนธรรมจีน โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีที่แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ไทย-จีน คาราวานเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ จากเทือกเขาอัลไตที่มีข้อสันนิษฐานว่าเป็นที่อยู่อาศัยของคนกลุ่มหนึ่งที่ได้อพยพลงมาอยู่ในพื้นที่ประเทศไทยปัจจุบัน เป็นส่วนหนึ่งของประชากรชาวไทยมาตั้งแต่อดีตกาล ขับรถเรื่อยลงมาทางตอนใต้ผ่านมณฑลต่างๆ เมืองต่างๆ จนเข้าสู่ประเทศไทย ที่ด่านเชียงของ จังหวัดเชียงราย แล้วเดินทางเข้าสู่ภาคกลางท่องเที่ยวในพื้นที่ 19 จังหวัดจนครบ มาพักที่กรุงเทพฯเป็นเวลา 2 วันก่อนจะเดินทางขึ้นไปทางภาคอีสานแล้วกลับออกจากชายแดนไทยที่ด่านเชียงของอีกครั้ง เป็นระยะทางกว่า 15000 ไมล์ นับเป็นคาราวานที่ยิ่งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การท่องเที่ยวระหว่าง ไทย-จีน เป็นการสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต เป็นการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ได้เรียนรู้แลกเปลี่ยนกันระหว่าง 2 ฝ่าย

หลังจากงานเลี้ยงต้อนรับแล้ว คณะคาราวานจะพักผ่อนจากการเดินทางไกลที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 2 คืน แล้วจะเดินทางต่อไปยังภาคอีสาน ในเช้าวันที่ 16 ธันวาคม 2558 จบการรายงานการเดินทางทริปพิเศษภาค 3 เอาไว้เท่านี้ ติดตามกันต่อ กับ ทริปปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ ภาค #4 (อีสานแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรม) นะครับ