ผู้เขียน หัวข้อ: ทริปปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ ภาค#2  (อ่าน 36701 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากเฉินตูมาเล่อซาน ระยะทาง 120 กิโลเมตร ต่อจากเล่อซานมาเจ้าทงอีก 400 กิโลเมตร ผ่านหุบเขาหน้าผาสูงใหญ่ช่วงจะค่ำ ไม่สามารถจะถ่ายรูปสวยๆ มาฝากกันได้ น่าเสียดายมากๆ เจ้าทงกับคุนหมิงเป็นเมืองที่อยู่ในแอ่งกระทะ มีหุบเขาสูงใหญ่ล้อมรอบบรรยากาศทั้งวันแทบจะไม่เจอแสงแดด อากาศที่นี่เราคาดว่าจะอุ่นว่าเฉินตูแต่ปรากฏว่าอุณหภูมิ 8 องศา ผิดคาดและต้องไปจัดการหาเสื้อกันหนาวกันเพิ่มบางคนถึงกับเดินซื้อในตลาดที่เมืองเจ้าทง ดีที่ราคาเสื้อกันหนาวที่นี่ไม่แพง แค่ 100 หยวนหรือ 500 บาท ก็ได้เสื้อดีๆ ใส่แล้ว เมืองเจ้าทงมีแอปเปิ้ลเป็นผลไม้หลัก ต่างกับเมืองก่วงหยวนที่มีทับทิมเป็นหลัก ร้านแอปเปิ้ลหาง่ายตามริมถนน จัดการกับมื้อเย็นเป็นอาหารคล้ายๆ จิ่มจุ่มบ้านเรา มีแต่หมูเท่านั้น เอาใส่ลงในหม้อรอให้น้ำเดือดๆ ซดร้อนๆ คลายหนาวได้เป็นอย่างดี
แล้วเข้าที่พักในเมืองเจ้าทง พรุ่งนี้เราต้องเดินทางอีก 4 ชั่วโมงโดยประมาณ จากเจ้าทงไปคุนหมิง ระยะทางเกือบๆ 300 กิโลเมตร ใกล้เมืองไทยบ้านเราเข้ามาอีกเรื่อยๆ แล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2015, 11:39:57 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันที่ 18 ของการเดินทาง (1 ธ.ค.58)
คณะออกเดินทางจากเจ้าทงไปคุนหมิง จากเจ้าทงมาคุนหมิงระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร ต้องขับรถนานถึง 4 ชั่วโมงกว่า
ก่อนถึงคุนหมิง 50 กิโลเมตรโดยประมาณ มีทางแยกไปชมป่าหิน หรือ Stone Forest Scenic area ที่นี่ทำให้เราได้รู้ว่าทำไมที่เมืองเลยของไทยถึงเรียกว่าคุนหมิงเมืองเลย เพราะที่คุนหมิงมีป่าหินแบบเดียวกันแต่ใหญ่กว่าบ้านเรามากนี่เอง คณะคาราวานเข้าชมสวนหินหลังอาหารกลางวันจนสวนหินปิด แล้วถึงเดินทางเข้าที่พัก ในเมืองคุนหมิง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2015, 01:31:39 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถึงเมืองคุนหมิงเราได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นทั้งคณะ โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานคุนหมิงมาต้อนรับคณะและร่วมรับประทานอาหารเย็นก่อนจะแลกของที่ระลึกระหว่างเมืองคุนหมิงกับคณะคาราวาน

วันที่ 19 ของการเดินทาง (2 ธ.ค.58)
รุ่งเช้าคณะของเราต้องออกเดินทางจากคุนหมิงจนถึงสิบสองปันนา ระยะทางไกลมากๆ กว่า 600 กิโลเมตร เป็นการทำลายสถิติการเดินทางไกลที่สุดใน 1 วันของทริปนี้เลยทีเดียว เราตั้งขบวนกันอย่างง่ายๆ หน้าโรงแรมคุนหมิงโฮเทล แล้วออกเดินทางกันแต่เช้า ที่คุนหมิงอากาศยังค่อนข้างเย็น 8 องศาเองด้วย ผิดกับที่คิดไว้มากเลยครับ

ออกจากคุนหมิง เราแวะจุดพักรถโม่เจียง เป็นจุดพักรถที่ดีที่สุดในช่วงการเดินทางนี้ ห้องน้ำสะอาดมีร้านอาหารและของฝากมากมายให้เลือกซื้อหากัน เมืองนี้มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่าเมืองคู่แฝดเพราะคนพื้นเมืองที่นี่เวลามีลูกจะมีเหตุการณ์ประหลาดเหมือนกันคือหลายคนจะคลอดออกมาเป็นแฝด ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความนิยมในการจัดงานแต่งงานหรือถ่ายรูปแต่งงานของคู่บ่าวสาว เฉพาะช่วงเวลาที่เราแวะไปเดินเล่นก็มีคู่แต่งงานมาที่นี่ 2 คู่ นอกจากจะนิยมมาถ่ายรูปแต่งงานและจัดงานแต่งงานแล้วยังมีความเชื่อด้วยว่าถ้าใครอยากได้ลูกเป็นฝาแฝดให้มาขอพรที่นี่มักจะสำเร็จกันด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 06, 2015, 12:39:56 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ระยะทาง 600 กว่ากิโลเมตร ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะขับรถตามกันหลายๆ คันให้ทันในวันเดียว แต่เราก็ทำสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของทีมงานและสมาชิกที่ร่วมในคาราวานครั้งนี้ เราถึงสิบสองปันนา หรือซีซวงป่านนา (Xishuangbanna) ตามสำเนียงหลักของจีนในช่วงหัวค่ำ ยามเย็นเมืองนี้คึกคักกว่าที่คิดแม้แต่คนที่เคยมาแล้วยังประหลาดใจถึงความเจริญของเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างมาก คณะคาราวานร่วมรับประทานอาหารที่ร้าน ไก่ย่าง Man Fei Long 2 อาหารที่ยกออกมาเสิรฟแทบแยกไม่ออกระหว่างเมืองสิบสองปันนากับอาหารอีสานบ้านเรา มีข้าวเหนียวไก่ย่างเป็นหลักตามด้วยอาหารอื่นๆ อีกหลายอย่าง จนอิ่มหนำสำราญก็เข้าที่พักที่ถนนคนเดินสิบสองปันนา และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือไปพระธาตุองค์ใหญ่ที่สวยงามเด่นตระหง่านเป็นที่สถานที่ยอดนิยมของสิบสองปันนา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 06, 2015, 03:12:36 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถนนคนเดินที่สิบสองปันนาเป็นถนนคนเดินที่เหมือนกับปายมากๆ ของที่เอามาวางขายส่วนมากเป็นแฮนด์เมดและเจ้าของร้านนั่งทำให้เห็นๆ กันไปเลยว่าไม่ได้รับมาจากโรงงานนะจ๊ะ ชอบตรงที่คนเดินไม่เยอะเกินไปมีที่ว่างให้เดินหลบหลีกกันได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเบียดกันแน่น ด้านบนแขวนโคมไฟหลายๆ สี อากาศเย็นกว่าแม่ฮ่องสอนของเรานิดหน่อยเดินชิลมาก มี 3 ซอยใหญ่แล้วก็มีซอยเล็กๆ แยกย่อยอีกนิดหน่อย อาหารการกินรสชาติใกล้เคียงกับอาหารบ้านเราแต่วัตถุดิบต่างกันนิดหน่อย มีเอาผักมาตำส้มตำในครกเหมือนส้มตำแต่ไม่ใช้มะละกอรสชาตแปลกๆ ดี ปกติเปิดขายทุกวันแต่วันธรรมดาแม่ค้ามาไม่ค่อยเต็มจะดูโล่งๆ ไปหน่อย ถนนคนเดินอยู่ไม่ไกลจากพระธาตุเลยเดินเที่ยวได้แบบสบายๆ ไม่ไกลมากเดินเรื่อยๆ พอเหนื่อยเราก็กลับ ชอบตรงที่รถจักรยานปั่นของบ้านเค้าปั่นได้สองคนนั่งข้างๆ กันเหมือนรถยนต์เลย อีกไม่นานบ้านเราคงมีเกลื่อนแน่เลย

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันที่ 20 ของการเดินทาง (3 ธ.ค.58)
เรายังคงอยู่ที่สิบสองปันนาเพื่อรอสมาชิกส่วนหนึ่งของคาราวานที่จะเข้ามาสมทบอีกหลายคน เพื่อร่วมเป็นคณะคาราวานที่ใหญ่มากขึ้นแล้วเดินทางเข้าประเทศไทย เวลาวันนี้เราไปชมป่าดึกดำบรรพ์ หรือป่าฝนเมืองสิบสองปันนา ความหมายของป่าฝนก็คือเป็นพื้นที่ป่าที่มีฝนตกชุกและไม่เคยแห้ง เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาส่วนหนึ่งเช่นเผ่าอาข่า คณะเข้าชมวิถีชีวิตวัฒนธรรมของชุมชนส่วนหนึ่งของชาวจีนเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ เพราะชาวเขาที่นี่คล้ายกันกับชาวเขาที่เมืองไทย มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทำการเกษตรและทอผ้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากนั้นที่ป่าฝนแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่ของนกยูงฝูงใหญ่ จะมีการแสดงนกยูงบินเป็นรอบๆ มีการแสดงของชาวเขาการเต้นรำ การตีกลอง เดินแบบแฟชั่นชุดชาวเขาที่จะเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน การเที่ยวชมป่าฝนแห่งนี้จะมีรถรางบริการตลอดแล้วจอดให้เราลงเดินเป็นจุดๆ ไป ใช้เวลาทั้งหมดเกือบสองชั่วโมง แต่ถ้าจะเที่ยวให้ทั่วจริงๆ ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวันเพราะมีกิจกรรมหลายอย่างให้เราได้ชมและร่วมสนุกได้ตลอด

นายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.ททท.ภูมิภาคภาคกลางได้ร่วมสนุกกิจกรรมเต้นรำกระทบไม้ของชาวเขาด้วย ด้วยเหตุที่หมู่บ้านนี้มีนกยูงอยู่เยอะวิถีชีวิตชาวเขาจึงผูกพันกับนกยูงค่อนข้างมาก การแสดงร่ายรำของชาวเขาก็มีระบำนกยูงสวยมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 06, 2015, 01:08:24 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ช่วงบ่ายเดินทางไปชมวัดของสิบสองปันนาแต่ขอบอกว่าเห็นประตูวัดแว่บแรกไม่คิดเลยว่าเป็นวัดในเมืองหนึ่งของจีน นี่มันวัดไทยชัดๆ เห็นพระยืนองค์ใหญ่เด่นสง่าอยู่บนเขา สูงขึ้นไปกว่าพระพุทธรูปกำลังสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งก็เหมือนของไทยทุกประการ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ช่วงเย็นของวันที่ 3 ธันวาคม มีการจัดงานแถลงข่าวและเลี้ยงส่งขบวนคาราวานสื่อมวลชนชาวจีนร่วมสัมภาษณ์และร่วมงานเลี้ยงกันมากมาย เป็นการสิ้นสุดการเดินทางในประเทศจีนของเส้นทางนี้ วันที่ 4 ธันวาคม ขบวนคาราวานจะเดินทางจากสิบสองปันนาเข้า สปป.ลาว ที่ด่านสากลบ่อเต็น ขับข้ามพรมแดนลาวไปเข้าประเทศไทยที่ด่านเชียงของ นายสมชาย ชมภูน้อย กล่าวทำความเข้าใจกติกาการขับรถในเมืองไทยคร่าวๆ และกฏต่างๆ ที่ชาวจีนควรรู้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 06, 2015, 02:58:08 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันที่ 21 ของการเดินทาง (4 ธ.ค.58)
เวลา 9.00 น. ฤกษ์งามยามดี ขบวนคาราวานเดินทางออกจากสิบสองปันนาระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตรเศษๆ ข้าม สปป.ลาว เข้าเชียงของ จ.เชียงรายของประเทศไทย ใช้เวลาค่อนข้างนานในการตรวจเอกสารข้ามแดน 3 ประเทศ ทำให้เราเดินทางช้ากว่ากำหนดไปประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี เราแวะกินข้าวกลางวันใน สปป.ลาว ชื่อร้าน คัวไท ซึ่งก็มีความหมายว่า ครัวไทย นั่นเอง เป็นมื้อแรกที่ชาวจีนหลายคนในทริปนี้ได้ลิ้มรสชาตอาหารไทย และเริ่มฝึกการใช้ช้อนในการกินข้าวแทนตะเกียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2015, 05:56:16 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
และแล้วคณะเราก็เดินทางถึงเมืองไทย ด้วยการต้อนรับที่อบอุ่นของหลายๆ ฝ่าย ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นำโดยคุณสมฤดี ชาญชัย ผู้อำนวยการภูมิภาค สื่อมวลชนมากมายหลายแขนง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานเชียงราย ทุกๆ คนดีใจมากที่เดินทางเข้าถึงประเทศไทย ส่วนชาวจีนทั้งสื่อมวลชนและนักท่องเที่ยวต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกันทุกคน จากการสัมภาษณ์นักเดินทางบางส่วนที่ยังไม่เคยมาประเทศไทย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถเข้ามาถึอเป็นครั้งแรกของทุกคน ทุกคนดีใจ ประทับใจ การต้อนรับของชาวไทยที่เปี่ยมไปด้วยมิตรภาพที่ดี ที่การสื่อสารที่ไม่ค่อยเข้าใจกันไม่สามารถมาเป็นอุปสรรคขวางกั้นไมตรีจิตของเราได้ ก่อนยื่นตรวจเอกสารเราถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึกอย่างสนุกสนาน เราเดินทางจากด่านเชียงของมีสายฝนโปรยปรายต้อนรับคณะให้รู้สึกเย็นฉ่ำ

เราเดินทางถึงโรงแรมริมกกรีสอร์ท โดยสวัสดิภาพ ทานอาหารเย็นพร้อมชมการแสดงต้อนรับจากชาวเชียงราย เป็นที่ประทับใจของทุกๆ คนก่อนที่จะเข้าพักหลังจากการขับรถที่ยาวนานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

จบการเดินทางปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์อัลไต-สุวรรณภูมิ ภาค 2 เอาไว้เท่านี้ครับ เพราะถ้าเขียนต่อไปคงจะยาวมาก อ่านต่อกันภาค 3 การเดินทางใน 19 จังหวัดภาคกลางกันนะครับ  อ่านต่อภาค #3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2015, 06:02:43 AM โดย jai »