ผู้เขียน หัวข้อ: ทริปปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ ภาค#2  (อ่าน 36842 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ออกจากวัดพระนางบูเช็คเทียน เดินทางต่อไปที่เมืองโบราณเหมียนหยาง เมืองโบราณแห่งนี้มีอายุกว่า 200 ปี มาแล้ว มีบ้านเรือนเก่าแก่ที่อนุรักษ์เอาไว้อย่างดี แล้วสร้างบ้านเรือนให้เป็นร้านค้าล้อมรอบเมืองเก่าอีกที เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนจีนและชาวต่างชาตินิยมมาเดินกันมากเหมือนกับเมืองโบราณของไทย หรือตลาดน้ำเก่าแก่อะไรทำนองนั้น ภายในเมืองโบราณประกอบด้วยอาคารหลายหลัง มีโรงเรียนเก่าแก่ที่แต่ละห้องจะมีนักเรียนเรียนตัวต่อตัวกับครูเพื่อเคี่ยวให้เป็นคนที่เก่ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 29, 2015, 11:04:01 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ภายในเมืองโบราณเหมียนหยางมีพื้นที่กว้างจริงๆ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะดีไม่ว่ามุมไหนก็น่าถ่ายรูปไปหมดเพราะเป็นของแปลกใหม่สำหรับคนไทย แม้แต่คนจีนเองพอได้มาที่นี่ก็ถ่ายรูปกันเยอะแยะไปหมดเพราะตึกรามบ้านช่องแบบเก่าๆ แบบนี้ในชีวิตจริงมันเริ่มจะหายากขึ้นทุกทีๆ แล้ว เดินๆ ไปเรื่อยๆ จะไปถึงศาลเจ้าซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองแน่นอนว่าเรามาแล้วก็ต้องมาไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลกันซะหน่อย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2015, 12:53:09 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากนั้นทุกคนก็เข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารภายในเมืองโบราณ อาหารจีนมากมายหลายเมนูนำมาเสิร์ฟทีละอย่างๆ อันไหนที่กินหมดแล้วเค้าจะมายกจานออกจากโต๊ะทันทีเพื่อวางเมนูต่อไป วันนี้เมนูหลักเป็นสุกี้แบบชาวจีน น้ำซุปจะออกสีแดงๆ ส่วนของที่จะใส่ลงไปในสุกี้จะเป็นปลาเป็นหลักมีปลาหลายชนิดค่อยๆ เอาใส่ลงไปรอให้สุกแล้วกินมีผักอีกหลายอย่าง เป็นครั้งแรกที่ได้กินสุกี้จีนก็ว่าได้

อิ่มหนำสำราญกันดีแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ เส้นทางจากเมืองโบราณเหมียนหยางไปยังด่านเจี้ยนเหมินกวน หรือด่านประตูดาบ เป็นช่องว่างระหว่างภูเขา 2 ลูก ซึ่งเป็นทางเดียวที่ใช้ในการเดินทางข้ามเมืองในสมัยนั้น เป็นพื้นที่ที่ขงเบ้งวางกลยุทธต่อสู้กับทัพโจโฉ เส้นทางสายนี้เป็นถนนแคบๆ 2 เลนไปตามภูเขา จนถึงบริเวณด่านจะมีอุโมงค์ที่เจาะขึ้นมาเพื่อให้การเดินทางระหว่างสองเมืองสะดวกมากขึ้นไม่เหมือนสมัยก่อนที่ต้องเดินเท้าหรือขึ่ม้าไปตามหุบเขา รถจะให้เราลงตรงหน้าอุโมงค์ แล้วเราต้องเดินลงไปในหุบเขาผ่านเส้นทางสายเดียวกันกับสมัยสามก๊ก ลอดประตูด่านประตูดาบเจี้ยนเหมินกวน ชมพื้นที่บริเวณนี้ที่มีรูปปั้นของคนสำคัญๆ ในสามก๊กพร้อมประวัติเขียนเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 01, 2015, 04:53:43 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จากป้อมปราการเจี้ยนเหมินกวนมาจนถึงทางออกระยะทางยาวมากน่าจะเกิน 1 กิโลเมตร นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องอาศัยการเดินข้ามเขาเล็กๆ ลูกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ระหว่างทางมีทั้งรูปปั้นและภาพแกะสลักบนแผ่นหินเกี่ยวกับบุคคลต่างๆ ในสามก๊ก ปิดท้ายด้วยร้านของฝากของที่ระลึกตรงทางออกมีรูปตุ๊กตาเจี่ยงเว่ยยืนให้คนมาถ่ายรูปกันด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2015, 01:01:25 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
หลังจากผ่านด่านประตูดาบในตำนานของสามก๊กเป็นที่เรียบร้อยคณะคาราวานเดินทางจากเมืองก่วงหยวนไปที่เมืองเอกเฉินตู เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความเจริญกว่าผู้คนดูคึกคักตลอดเวลา ตึกรามบ้านช่องใหญ่โต คณะเข้ารับประทานอาหารมื้อเย็น จากนั้นก็เดินชมเมืองบริเวณพิพิธภัณฑ์บนกำแพง ที่อยู่ตรงข้ามกับภัตตาคารที่เราอยู่ และส่วนหนึ่งก็ไปเดินถนนคนเดินย่อมๆ ในเมือง บนกำแพงที่เรียกว่าพิพิธภัณฑ์บนกำแพงก็เพราะว่าเค้าเอาข้าวของเครื่องใช้ในสมัยโบราณมาแปะติดไว้กับกำแพงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเฉินตูที่หลายๆ คนคงได้เคยมาถ่ายรูปกันไปแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2015, 06:49:42 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันที่ 16 ของการเดินทาง (29 พ.ย.58)

การเดินทางพิชิต 15,000 ไมล์ก็ยังคงดำเนินการต่อไป เราออกจากโรงแรมแชงกรีลา โดยยังไม่เช็คเอาท์
ออกเดินทางสู่ แพนด้าปาร์ค ที่อยู่ใกล้กับเมืองเฉินตู ใช้เวลาเดินทางเกือบๆ  2 ชั่วโมง ในประเทศจีนมีศูนย์ที่ดูแลและทำการขยายพันธ์แพนด้าอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีแพนด้าที่ต้องดูแลมากกว่า 30 ตัว ในประเทศจีนแพนด้าเป็นสัตว์สำคัญเพราะใกล้สูญพันธุ์ และเนื่องจากแพนด้าไม่ใช่สัตว์ดุร้ายการดำรงชีวิตในธรรมชาติจึงเป็นเรื่องยาก จำเป็นต้องเอามาดูแลไว้ในพื้นที่ที่มีคนดูแลอย่างใกล้ชิด คนจีนเดินทางมาเที่ยวชมแพนด้ากันจำนวนไม่น้อยในแต่ละวัน ที่ศูนย์แต่ละแห่งนอกจากจะเอาแพนด้ามาเลี้ยงยังต้องคอยดูแลรักษาแพนด้าที่ป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ ทำการจับคู่แพนด้าและขยายพันธุ์ แพนด้ากินไผ่เป็นอาหารวันละ 15-18 กิโลกรัมแต่มันต้องการสารอาหารเพียงชนิดเดียวในไผ่ซึ่งมันดูดซึมไว้ได้แค่ 20% จากไผ่ นอกนั้นจะกลายเป็นกากและถ่ายออกมา แพนด้าจึงต้องใช้เวลาเกือบตลอดวันในการกิน และต้องนอนถึง 10 ชั่วโมง เพื่อลดการใช้พลังงานของตัวเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 05, 2015, 01:50:53 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ออกจากสวนแพนด้าเราเดินไปที่ร้านอาหารเพื่อจัดการกับมื้อกลางวัน เดินริมถนนไปเรื่อยๆ เป็นแถวๆ ประมาณ 300 เมตร เสร็จจากมื้อเที่ยงเดินทางกันต่อไปที่ศาลสามก๊ก สถานที่ที่ชาวจีนสร้างขึ้นมาเพื่อรำลึกถึงบุคคลสำคัญในตำนานที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่เฉพาะชาวจีนเท่านั้นแต่สามก๊กยังเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก ศาลสามก๊กเป็นบริเวณที่สามพี่น้องทำการสาบานเป็นพี่น้องกัน ภายในประกอบด้วยรูปปั้นบุคคลสำคัญมากมายหลายคนแสดงให้ชมกันในพื้นที่ที่กว้างขวางมาก มีวัด 2 แห่ง และสวนสาธารณะขนาดใหญ่มากของเมือง เป็นสถานที่พักผ่อนของทั้งชาวจีนและนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างชาติ คนไทยก็มาเที่ยวที่นี่กันเยอะ แม่ค้าชาวจีนหลายคนพูดภาษาไทยได้เป็นบางคำด้วยเพื่อที่จะขายของ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2015, 08:30:38 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ภารกิจเดินทางสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในเฉินตูของวันนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นลง เราเดินทางกลับโรงแรมร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นที่ภัตตาคารใกล้ๆ กับโรงแรม หลังจากนั้นก็เดินชมความสวยงามยามค่ำคืนรอบๆ โรงแรม ด้านหน้ามีแม่น้ำขนาดใหญ่ มีสะพานข้ามแม่น้ำที่สร้างเป็นภัตตาคารอยู่กลางแม่น้ำ เป็นจุดที่สะดุดตาเอามากๆ เวลาที่เปิดไฟสว่างไสวไปทั่ว คนที่มากินอาหารในภัตตาคารก็จะได้ชมวิวแม่น้ำที่สวยงามมีเพียงกระจกกั้นระหว่างคนเดินข้ามสะพานกับคนที่มากินข้าว แสงสีร้านค้าต่างๆ ทำให้แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำที่สวยงามมากของเมืองนี้เลยก็ว่าได้

โปรดติดตามต่อ พรุ่งนี้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 01, 2015, 06:23:57 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันที่ 17 ของการเดินทาง (30 พ.ย.58)

09.00 น. ขบวนคาราวาน ผู้พิชิต 15000 ไมล์ นำรถมาตั้งขบวนหน้าโรงแรมแชงกรีลา เฉินตู เพราะที่เมืองนี้มีพื้นที่กว้างพอที่จะนำรถมารวมกันเป็นขบวนได้ ก่อนจะปล่อยขบวนออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองเจ้าทง และตรงไปตามเส้นทางสู่คุนหมิง ระยะทางจากเฉินตูไปเจ้าทง แวะชมพระพุทธรูปแก่สลักจากหินทรายองค์ใหญ่ ขนาดเต็มหน้าผาสูงตระหง่าน ที่เมืองเล่อซาน คือ 520 กิโลเมตร นับเป็นอีกวันหนึ่งที่คณะของเราเดินทางยาวนานมาก ถึงเมืองเล่อซานก็เที่ยงพอดีแวะกินข้าวในภัตตาคารใกล้ๆ ท่าเรือแล้วลงเรือไปชมพระพุทธรูป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 03, 2015, 05:27:53 AM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
พระพุทธรูปองค์นี้จะเรียกว่าหลวงพ่อเล่อซานก็น่าจะได้ เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองเล่อซาน ภาษาอังกฤษจะเขียนว่า Leshan Giant Buddha แปลกันตรงๆ กันเลยว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่มากๆ เดินทางเข้าไปชมได้ทั้งทางเรือและทางรถ ถ้าเอารถไป 20 คันจะวุ่นวายมากเราเลยเลือกใช้วิธีที่ดีกว่าคือนั่งเรือไปชม ความใหญ่ขององค์พระพุทธรูปที่แกะสลักขึ้นจากหน้าผาสูงชัน มีถ้ำและบันไดทางเดินให้เดินชมกันได้หลายมุมเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ สำหรับทั้งคนไทยและคนจีนเองที่หลายคนก็ไม่เคยได้มาเห็นกับตา

อ่านต่อหน้า 3 นะครับ คลิก  หน้า 3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 01, 2015, 05:07:35 PM โดย jai »