หมวดหมู่ทั่วไป > แบกเป้เที่ยว AEC เรื่องราวท่องเที่ยวต่างแดน

ทริปปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ ภาค#2

(1/6) > >>

admin:
ปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ ภาค #2 ต่อจากภาค #1 คลิกอ่าน ภาค #1
เป็นการเดินทางในวันที่ 13 ของภารกิจทั้งหมด ซึ่งทีมงานทัวร์ออนไทยดอทคอมได้มีโอกาสเข้าร่วมในทริปนี้ด้วยนับตั้งแต่วันที่ 13 ของการเดินทางเป็นต้นไป (26 พ.ย.)
ความเป็นมาของทริปกรุณาคลิกๆ อ่านได้ที่นี่ http://www.tiewpakklang.com/news/central-region/19872/

ขบวนคาราวานเดินทางเข้าสู่เมืองซีอาน และพักผ่อนที่เมืองนี้ก่อนที่จะต้องออกเดินทางไปกว่า 500 กิโลเมตรเพื่อที่จะเข้าพักในอีกเมืองหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางมุ่งหน้าลงไปทางใต้ของประเทศและจะเข้าสู่เมืองไทยตามแผนที่วางไว้

    การเดินทางของทีมงานทัวร์ออนไทยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลาง โดยมีคุณจิราณี พูนนายม ผู้อำนวยการกองตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำสื่อมวลชน 2 คนออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิแต่เช้ามาลงที่กวางโจวและต่อเครื่องมาถึงซีอานในช่วงหัวค่ำ เครื่องบินดีเลย์เล็กน้อยแต่ก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรา ช่วงเวลาในการเดินทางตั้งแต่เช้ามาจนถึงค่ำ เราเจอกับสภาพที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ สุวรรณภูมิอากาศยังไม่หนาว พอมาที่กวางโจว อุณหภูมิเหลือ 11 องศา จากการรายงานของสายการบิน และพอเดินทางมาถึงซีอานอุณหภูมิเหลือแค่ 5 องศา และเย็นลงเรื่อยๆ ตามเวลาที่เริ่มดึก เราต้องเดินทางจากสนามบินไปโรงแรมที่พักชื่อ Empark ห่างจากสนามบินประมาณ 40 กิโลเมตร การจราจรไม่ค่อยติดไปได้เรื่อยๆ สบายๆ หน้าโรงแรมปลูกเมเปิลเรียงไว้หลายต้นแต่น่าเสียดายที่ยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนสี แต่ก็พอจะได้เห็นใบสีแดงแล้วบ้าง

admin:
ถึงโรงแรม คณะของคุณสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และคณะผู้ดูแลสื่อมวลชนชาวจีนคอยต้อนรับพร้อมอาหารที่จัดเตรียมไว้ หลากหลายเมนูมีครบทั้งหมู เห็ด เป็ด ไก่ ปลา อาหารทะเลต่างๆ นานา เป็นโต๊ะขนาดใหญ่ ปิดท้ายด้วยบะหมี่และของหวาน ตามธรรมเนียมการรับประทานอาหารของชาวจีน จากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน ท่ามกลางอากาศที่เย็นลงเรื่อยๆ

admin:
วันที่ 14 ของการเดินทาง (27พ.ย.58) ปฏิบัติการพิเศษ 15,000 ไมล์ จากอัลไตสู่สุวรรณภูมิ
เมืองเอกซีอาน - กองทัพหุ่นทหารจิ๋นซี - เมืองถ่วงหยวน(บ้านเกิดพระนางบูเช็คเทียน)

ออกจากโรงแรมเข้าชมพิพิธภัณฑ์หุ่นนักรบและม้าของจิ๋นซีฮ่องเต้ กว่าจะมาถึงก็เกือบ 11 โมง (ที่นี่เร็วกว่าเมืองไทยชั่วโมงเดียว) เรามีเวลา 1 ชั่วโมงเดินชมพิพิธภัณฑ์ที่กว้างใหญ่ เฉพาะทางเดินก็เกือบกิโลนึงเลยทีเดียว ภายในมี 4 อาคารใหญ่ๆ แต่เราเข้าไปชมกัน 3 อาคาร เลือกเฉพาะไฮไลท์สำคัญๆ

สุสานของจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ (ฉินสื่อหวงแห่งราชวงศ์ฉิน) มหาจักรพรรดิจีนผู้รวบรวมประเทศจีนให้เป็นปึกแผ่น
ตั้งอยู่ที่ตำบลหลินถง ห่างจากเมืองซีอาน มณฑลฉ่านซี ประเทศจีน
เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นแหล่งต้นกำเนิดอารยะธรรมโลก ใช้แรงงานทาสกว่า 726,000 คน
ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานประมาณ 38 ปี ตั้งแต่ปี  246 - 208 ก่อนคริสตกาล
มีอาณาเขตพื้นที่ของสุสานรวมทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม.
ขุดพบครั้งแรกเมื่อปีค.ศ.1974 หรือ พ.ศ. 2517 โดยชาวคนนาหนึ่งที่กำลังขุดบ่อน้ำ
ได้รับการคัดเลือกเป็นให้ มรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2530
มีกองทัพทหารดินเผามากกว่า 6,000 ตัว ขนาดเท่าคนจริงๆ มีโครงหน้า สีหน้าและทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกันแม้แต่ตัวเดียว
ปัจจุบันเชื่อว่ายังมีหุ่นลักษณะคล้ายมีชีวิตอีก 5,000 กว่าตัวยังถูกฝังอยู่ใต้ดินและรอการขุดพบ

admin:
จากนั้นก็ออกมากินข้าวในร้านอาหารด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ แน่นอนว่าเป็นอาหารจีนแท้ๆ มีหน้าตาคล้ายๆ ก๋วยเตี๋ยวบวกเฝอยังไงบอกไม่ถูกใส่เนื้อแพะดีว่าไม่ค่อยมีกลิ่นพอกินได้ มีแฮมเบเกอร์แบบจีนๆ ไส้หมู ก๋วยเตี๋ยวผัดรสออกเผ็ดนิดหน่อย มีผลไม้แปลกๆ ที่เราเห็นระหว่างทางเดินไปดูพิพิธภัณฑ์กองทัพหุ่นนักรบจิ๋นซีฮ่องเต้ ลูกแดงๆ นิ่มๆ กัดเปลือกเป็นรูแล้วดูดกินเนื้อข้างในหวานดีเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงเพราะชื่อมันยากมาก

admin:
วันนี้เราต้องออกจากซีอาน เดินทางไปเมืองก่วงหยวน มณฑลเสฉวน ซึ่งบ้านเกิดของพระนางบูเช็คเทียน ฮ่องเต้หญิงองค์แรกและองค์เดียวของจีน
ระยะทางจากซีอานถึงก่วงหยวน อยู่ห่างกันถึง 500 กิโลเมตร เป็นการเดินทางที่ยาวนานมากที่สุดวันหนึ่งของทริปนี้ ด้วยระยะทางที่ยาวมากเราเลยแวะพักเข้าห้องน้ำแค่ครั้งเดียวที่ Ning Shan ประเทศจีนมีถนนหนทางมากมาย แต่ละสายจะยาวๆ ด้วยกันทั้งนั้นแต่จุดพักรถจะไม่มีมากมายเหมือนบ้านเรา ในปั๊มก็มีแต่น้ำมันกับห้องน้ำไม่มีร้านมินิมาร์ทซักเท่าไหร่ วันนี้เป็นการเดินทางแบบยาวๆ ประมาณกรุงเทพฯ-ตาก อะไรประมาณนั้น ใช้เวลาของวันนี้ทั้งหมดอยู่บนรถ จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าหายไปตรงหน้าแต่เส้นทางของเรายังต้องไปอีกไกลจนมองสองข้างทางไม่เห็น เส้นทางสายนี้ตัดทะลุภูเขาหลายลูกที่ประเทศจีนใช้ระบบการสร้างอุโมงค์ทะลุตลอด จำไม่ได้ว่าผ่านอุโมงค์กี่ครั้งน่าจะเกินสิบอุโมงค์

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version