หลังจากอิ่มตื้อกับมื้ออาหารแล้วเราก็เดินทางไปที่ด่านพรมแดนเพื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย แน่นอนว่าต้องไม่ลืมเข้า Duty Free หอบหิ้วของดีราคาปลอดภาษีเข้ามาคนละนิดคนละหน่อยพอหอมปากหอมคอ ขากลับเราไม่ได้กลับทางรถไฟ แต่กลับทางรถบัสที่คอยรับเราอยู่แล้วที่ร้าน ตอนเข้าประเทศไทยต้องจากรถเพื่อเดินผ่านเครื่องสแกนซึ่งแน่นอนว่าไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ขึ้นรถไปกันต่อ กินข้าวเย็นฝั่งไทยที่ร้านเรือนริมน้ำกลับเข้าที่พัก
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นสายหน่อยเก็บข้าวของเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เดินทางไปไหว้หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคายที่วัดโพธิ์ชัย แล้วต่อด้วยไปไหว้พระสุกที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ก่อนที่จะเดินเข้าตลาดท่าเสด็จช้อปปิ้งของฝากมากมายก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ และแน่นอนว่ามาตลาดท่าเสด็จก็ต้องกินร้านแดงแหนมเนือง ถ้าไม่กินร้านนี้เหมือนมาไม่ถึงหนองคายกันเลยทีเดียว อิ่มหนำสำราญกันดีแล้วก็ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอีกสักคนละ 2-3 กล่อง เป็นอันเสร็จภารกิจการมาเที่ยวตามธรรมเนียมไทยๆ ไปไหนต้องมีของฝาก แล้วก็เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
จบทริปดีๆ ที่น่าประทับใจอีก 1 ทริป ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนางอัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการ สำนักงาน มาให้การต้อนรับคณะด้วยตนเอง
และที่จะลืมไม่ได้คือบริการดีๆ น่าประทับใจ ของ วินวิน สไมล์ บริษัทนำเที่ยวในทริปนี้ด้วย
ไว้พบกันใหม่ทริปหน้าครับ