ผู้เขียน หัวข้อ: เส้นทางเส้นไหมใยฝ้าย ลายหมี่...ขิด วิถีชีวิตชุมชน  (อ่าน 4141 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เส้นทางเส้นไหมใยฝ้าย ลายหมี่...ขิด วิถีชีวิตชุมชน
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กันยายน 04, 2015, 10:06:08 AM »
นอกเหนือจากการไหว้พระในวัดสำคัญๆ ของเวียงจันทน์แล้วเราต้องไม่ลืมเรื่องของฝาก ของที่ระลึก ที่เวียงจันทน์มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าซื้อ ไม่ว่าจะเป็นซิ่นแบบลาวแท้ เครื่องเงิน เสื้อสกรีนน่ารักๆ อักสอนลาว สะบายดี ฯลฯ ของอื่นๆ อย่างเหล้าบุหรี่ก็มีตามธรรมเนียม แล้วแต่ว่าสนใจอย่างไหนลองแวะเข้าไป ร้านที่ของครบแบบนี้เราแนะนำเลยว่าต้องเป็นร้าน กำแพงเวียงหัดถะกำ อยู่ไม่ไกลจากวัดทาดหลวงเท่าไหร่ เดินห้องแอร์สบายๆ กันไปเลย แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะว่า ร้านนี้มีทั้งเงินแท้ และเงินผสม ของที่อยู่ในตู้กระจกเป็นเงินแท้ ส่วนของที่อยู่ด้านนอกเป็นเงินผสม ทำขึ้นเพื่อความสวยงาม และราคาจะได้ไม่แพงจนเกินไปคร้าบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 04, 2015, 11:01:01 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เส้นทางเส้นไหมใยฝ้าย ลายหมี่...ขิด วิถีชีวิตชุมชน
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กันยายน 04, 2015, 01:25:21 PM »
เรียบร้อยสำหรับการไปเที่ยวเวียงจันทน์ครึ่งวันเช้า จากนี้ก็ต้องเป็นเรื่องของอาหาร ข้ามไปฝั่งลาวแล้วจะหาอาหารถูกปากอย่างไทยๆ แนะนำให้มากินริมแม่น้ำโขง ร้านนี้อยู่ตรงข้ามกับอ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ของเรานั่นเอง อาหารหลายอย่างรสชาติคล้ายอาหารไทย แต่ก็มีบ้างที่จะมีรสที่เป็นของฝั่งลาว อย่างลาบหมู รสจะไม่จัดเหมือนบ้านเราไม่ใส่ข้าวคั่วด้วย แต่ต้มยำปลาน้ำโขงนั้นอร่อยติดใจเลย ใข่เจียวจะเจียวมาแบบแห้งๆ ไม่มีน้ำมันเหลือติดจานให้เห็นเลย สุดยอดมากๆ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: เส้นทางเส้นไหมใยฝ้าย ลายหมี่...ขิด วิถีชีวิตชุมชน
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กันยายน 04, 2015, 03:01:09 PM »
หลังจากอิ่มตื้อกับมื้ออาหารแล้วเราก็เดินทางไปที่ด่านพรมแดนเพื่อเดินทางกลับเข้าประเทศไทย แน่นอนว่าต้องไม่ลืมเข้า Duty Free หอบหิ้วของดีราคาปลอดภาษีเข้ามาคนละนิดคนละหน่อยพอหอมปากหอมคอ ขากลับเราไม่ได้กลับทางรถไฟ แต่กลับทางรถบัสที่คอยรับเราอยู่แล้วที่ร้าน ตอนเข้าประเทศไทยต้องจากรถเพื่อเดินผ่านเครื่องสแกนซึ่งแน่นอนว่าไม่มีปัญหาอะไร แล้วก็ขึ้นรถไปกันต่อ กินข้าวเย็นฝั่งไทยที่ร้านเรือนริมน้ำกลับเข้าที่พัก

เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นสายหน่อยเก็บข้าวของเช็คเอาท์ออกจากโรงแรม เดินทางไปไหว้หลวงพ่อพระใส พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองหนองคายที่วัดโพธิ์ชัย แล้วต่อด้วยไปไหว้พระสุกที่อยู่ไม่ไกลกันมาก ก่อนที่จะเดินเข้าตลาดท่าเสด็จช้อปปิ้งของฝากมากมายก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ และแน่นอนว่ามาตลาดท่าเสด็จก็ต้องกินร้านแดงแหนมเนือง ถ้าไม่กินร้านนี้เหมือนมาไม่ถึงหนองคายกันเลยทีเดียว อิ่มหนำสำราญกันดีแล้วก็ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอีกสักคนละ 2-3 กล่อง เป็นอันเสร็จภารกิจการมาเที่ยวตามธรรมเนียมไทยๆ ไปไหนต้องมีของฝาก แล้วก็เดินทางกลับ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

จบทริปดีๆ ที่น่าประทับใจอีก 1 ทริป ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น โดยนางอัจฉพรรณ บุญเจริญ ผู้อำนวยการ สำนักงาน มาให้การต้อนรับคณะด้วยตนเอง
และที่จะลืมไม่ได้คือบริการดีๆ น่าประทับใจ ของ วินวิน สไมล์ บริษัทนำเที่ยวในทริปนี้ด้วย

ไว้พบกันใหม่ทริปหน้าครับ
 ;)