ผู้เขียน หัวข้อ: ททท.ภาคกลางจัดคาราวานพิชิต 19 จว.กระตุ้นการท่องเที่ยวภาคกลาง  (อ่าน 52468 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลางจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคกลาง ด้วยขบวนคาราวานสื่อท่องเที่ยว ขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัดใน 8 วัน โดยมีนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง ร่วมกับ  Mr. Chen Jiang ทูตวัฒนธรรมสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 8 สำนักงาน ในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมสื่อท่องเที่ยวไทยและเวียดนาม เริ่มต้นขบวนจาก พอร์โต้ชิโน่ Porto Chino สมุทรสาคร จุดสตาร์ทของกองคาราวานขับรถพิชิต 19 จังหวัด.ภาคกลาง (ปีที่ 4) 1-8 พค.2558

โดยมีกำหนดการเดินทางดังนี้

คาราวานขับรถเที่ยวพิชิต 19 จังหวัดภาคกลาง (ปีที่ 4 )
วันที่ 1 – 8 พฤษภาคม 2558


เส้นทางจังหวัดสมุทรสาคร – ประจวบคีรีขันธ์ – เพชรบุรี – สมุทรสงคราม – นครปฐม – ราชบุรี – กาญจนบุรี – สุพรรณบุรี – อ่างทอง – ชัยนาท – สิงห์บุรี – ลพบุรี – สระบุรี – พระนครศรีอยุธยา – ปทุมธานี – นนทบุรี – ฉะเชิงเทรา – สมุทรปราการ – กรุงเทพมหานคร

************************************

วันศุกร์ที่  1 พฤษภาคม 2558 (สมุทรสาคร – ประจวบคีรีขันธ์ – เพชรบุรี)
เชิญชวนแต่งกายวิถีไทยใน Theme : มนต์เสน่ทะเลวัง
07.00 น.​ลงทะเบียน
07.30 น.​ออกเดินทางจาก ปอร์โต้ชิโน่ ศูนย์การค้าแห่งใหม่ในจังหวัดสมุทรสาคร เป็นจุดแวะพักริมทาง​​ของนักเดินทางลงใต้ เป็นจุดเริ่มต้นและจุดปล่อยการเดินทางคาราวานขับรถพิชิต 19 จังหวัด​​ภาคกลาง ในปีที่ 4 ครั้งนี้
11.00 น.​ร่วมกิจกรรมคาราวานพาเต่าไปห่มทราย (1 ในกิจกรรม หัวหินรำลึก คารวานรถเต่า) ณ วัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กราบขอพรเสริมสิริมงคล หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ ​​และพบกับ UNSEEN หลวงพ่อโสธร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
12.30 น.​ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านเรือริมธาร เขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ​​​(ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ เป็นเจ้าภาพ)
ช่วงบ่าย​​ : เยี่ยมชม ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลน สิรินาถราชินี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
           - คาเมล รีพับบลิค สวนสนุกแห่งใหม่ สไตล์โมร็อกโก อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
​​           - ตัดสิน & มอบรางวัลผู้ที่แต่งกายเข้าบรรยากาศวิถีไทยใน Theme มนต์เสน่ห์ทะเลวัง
ช่วงเย็น​​ : เข้าที่พักจังหวัดเพชรบุรี อำเภอท่ายาง เดอะคาแนล และสวนเพชรริเวอร์วิว
​            ร่วมงานคอนเสิร์ตศิลปินเมืองเพชร พร้อมรับประทานอาหารค่ำ ณ ร้านกาแฟบ่อตะกั่ว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี (ททท.สำนักงานเพชรบุรี เป็นเจ้าภาพ)
​​พักผ่อนตามอัธยาศัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2015, 12:28:27 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
สถานีต่อไปของคาราวาน คือวัดห้วยมงคล ร่วมโครงการปล่อยคาราวาน พาเต่าไปห่มทราย ของ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ ขบวนรถเต่า 20 คัน รถตู้คาราวานพิชิต 19 จังหวัด รถกระบะเพนท์ลายแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละสำนักงาน ร่วมเก็บภาพที่ระลึก ลานหน้าหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ ก่อนนายสมชาย ชมภูน้อย ร่วมกับนายอำเภอหัวหิน จะปล่อยขบวนรถและแจกหลวงปู่ทวดเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมขบวนคาราวาน


วัดห้วยมงคล ป็นวัดที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกแต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ ในชุมชนบ้านห้วยคต ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทาน นามใหม่จากห้วยคตเป็นห้วย“มงคล”ซึ่งปัจจุบัน ใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโครงการต่างๆ อีกมากมาย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2015, 12:41:59 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
หลังจากปล่อยคาราวาน พาเต่าไปห่มทราย คณะสื่อท่องเที่ยวเดินทางพิชิต 19  จังหวัดต่อไป ไปด้านหลังหลวงปู่ทวด ที่ประดิษฐานหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำหนักทองเหลือง 128 ตัน

ต่อจากนั้น  เคลื่อนขบวนไปยังร้านอาหารเรือริมธาร เติมพลังด้วยอาหารทะเลแสนอร่อยอิ่มหนำสำราญพุงกางไปตามๆ กัน ก่อนที่จะออกเดินทางปฏิบัติภารกิจต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2015, 12:53:13 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ต่อภาคบ่าย ด้วยพื้นที่มหัศจรรย์ ป่าชายเลน ล้านไร่ ที่พลิกฟื้นขึ้นมาจากบ่อกุ้งรกร้าง ผืนดินชายเลนเสื่อมโทรมจนไม่น่าเชื่อว่าจะกลายสภาพมาเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี ปราณบุรี ประจวบคีรีขันธ์

ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน สิรินาถราชินี เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการฟื้นฟูป่าชายเลนจากนากุ้งร้างแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองเก่า – คลองคอย ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดิมเป็นพื้นที่สัมปทานนากุ้งในช่วงปี พ.ศ.2524-2539 ป่าผืนนี้ฟื้นชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยน้ำพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จฯ ปราณบุรี ปี พ.ศ.2539 กรมป่าไม้สนองพระราชดำริ ด้วยการยกเลิกสัมปทานและผนวกเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำ ปราณบุรี
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกทั้งยังดำเนินการฟื้นฟูป่าด้วยการกำหนดเป็นพื้นที่เป้าหมายปลูกป่า (Forest Plantation Targer- FPT) ในโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์ปีที่ 50 ในปี พ.ศ.2539 ซึ่ง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมโครงการและดำเนินการปลูกป่าชายเลน เพื่อฟื้นฟูสภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อมและพัฒนาเป็นศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลน ในเวลาต่อมาปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยว ควรค่าแก่การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2015, 12:59:15 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ต่อจากนั้นเดินทางสู่จุดหมายต่อไป จังหวัดเพชรบุรีชูที่เที่ยวใหม่สไตล์ตะวันออกคาเมล รีพับบลิค  “ประสบการณ์สุดสนุก แสนสุขทั้งครอบครัว” กับสถานที่ท่องเที่ยว Theme Park แห่งใหม่ของเมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ในบรรยากาศดินแดนบนสุดของทวีปแอฟริกาตะวันออก ที่มีกลิ่นอายของชาวแขกมัวร์ เราคัดสรรเครื่องเล่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของโลกหลายตัวมาไว้ที่โครงการ “คาเมล รีพับบลิค” เพื่อให้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ อีกทั้งโซนสวนสัตว์ที่รวบรวมสัตว์หาดูยากหลายชนิด รอให้ท่านได้มาเพลิดเพลินกับการป้อนอาหารอย่างใกล้ชิด สร้างบนพื้นที่กว่า 35 ไร่ ใช้งบประมาณกว่า 400 ล้านบาท เนรมิตสถาปัตยกรรมโดยรอบตกแต่งในสไตล์โมร็อกโก (Morroccan Architecture) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศราวกับอยู่ในดินแดนโมร็อกโก ซึ่งนอกจากสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มอบความสุขสัมผัสกับสัตว์น่ารักๆ มากมายอย่างใกล้ชิด อาทิเช่น อูฐ ยีราฟ อัลปาก้า พาตาโกเนียนมาร่า หงส์ นกฟลามิงโก้ นกฟินซ์ 7 สี นกแก้วซันคอนัวร์ ปลาคาร์ฟ และอื่นๆ อีกมากมาย
Flying Macaw นวัตกรรมใหม่สุดจากประเทศเยอรมนี มีที่แรกในไทยและที่เดียวในเอเชีย จะพาท่านทะยานสู่ท้องฟ้าโฉบเฉี่ยวไปมาท่ามกลางเวหาได้ ฯลฯ

คลิปการเดินทางวันแรกของคาราวานเที่ยวภาคกลาง

<a href="http://www.youtube.com/v/x86vpgo6pis" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/x86vpgo6pis</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2015, 11:17:56 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ออกจากคาเมลรีพับบลิค เดินทางมุ่งหน้าสู่อำเภอท่ายาง ณ ร้านกาแฟบ่อตะกั่ว สถานที่สำหรับมื้อค่ำสไตล์เรียบง่ายแบบวิถีไทย ดนตรีบรรเลงขับกล่อมจาก น้าหว่อง คาราวานและผองเพื่อนที่ไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ฟังเพลงระดับตำนาน แบบนี้ แล้วก็เดินทางเข้าที่พัก โรงแรมใหม่แกะกล่อง ชื่อ The Canal ห้องพักใหม่สะอาด บรรยากาศดีท่ามกลางความเป็นธรรมชาติ

เช้าวันต่อมา วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 (เพชรบุรี – สมุทรสงคราม-นครปฐม)
เชิญชวนแต่งกายวิถีไทยใน Theme : เที่ยวท่องล่องชมวิถีชุมชน
08.00 น.​ออกเดินทาง
ช่วงเช้า​​ : สัมผัสวิถีชีวิตพื้นบ้านไทยภาคกลาง ณ ตลาดน้ำท่าคาจังหวัดสมุทรสงคราม(แต่เดิมนั้นตลาด​​น้ำท่าคาจะเปิดขายเฉพาะในวันขึ้นหรือแรม 2 ค่ำ, 7 ค่ำ และ 12 ค่ำ ในช่วงเช้าตรู่เป็นต้นไป ​​​เสมือนตลาดนัดแบบบ้านๆ ทางน้ำ แตกต่างจากตลาดน้ำอื่นๆ ที่มักจะขายในช่วงกลางวันหรือเย็น
12.00 น.​ รับประทานอาหารกลางวัน ณ Woodland เมืองไม้ จังหวัดนครปฐม
​​(ททท.ภูมิภาคภาคกลาง เป็นเจ้าภาพ)
ช่วงบ่าย​​ : ชมแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุด พิพิธภัณฑ์ไม้แกะสลักที่มีงานประติมากรรมที่สวยงามและมากที่สุดใน​​ประเทศไทย Woodland เมืองไม้ จังหวัดนครปฐม
​​- เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขึ้ผึ้งไทย ประติมากรรมแห่งชีวิต อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
​​เข้าที่พัก โรงแรมไมด้าทรารวดีแกรนด์ โรงแรมใหม่ล่าสุดของจังหวัดนครปฐม
​​   ตัดสิน&มอบรางวัลผู้ที่แต่งกายเข้าบรรยากาศวิถีไทยใน Theme เที่ยวท่องล่องชมวิถีชุชน
  รับประทานอาหารค่ำ ณ พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย (ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม เป็นเจ้าภาพ)
พักผ่อนตามอัธยาศัย

    ตามกำหนดการในแผนการเดินทาง เราเคลื่อนขบวนคาราวาน จากเพชรบุรีเข้าพื้นที่สมุทรสงคราม เยี่ยมชมตลาดน้ำเก่าแก่ของจังหวัด  ตลาดน้ำท่าคา   เป็น สิ่งหนึ่งที่คู่มากับจังหวัดสมุทรสงคราม ก็คือแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่ ซึ่งมีอยู่มากมาย ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านผูกพันกับแม่น้ำลำคลองเรื่อยมา ทั้งการสัญจรไปมาหาสู่กัน การประกอบอาชีพต่าง ๆ การซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า และสิ่งหนึ่งที่สะท้อนภาพชุมชนริมน้ำได้ชัดเจน คือ ตลาดน้ำ ที่มีมาตั้งแต่ครั้งอยุธยา ในสมัยนั้นชาวบ้านจากสมุทรสงครามจะพายเรือนำพืชผัก ผลไม้ กุ้ง หอย ปู ปลา กะปิ น้ำปลา กุ้งแห้ง ปลาเค็ม ล่องเข้าไปขายต่อเนื่องถึงสมัยธนบุรีและรัตนโกสินทร์ ก่อนที่ตลาดน้ำจะค่อยๆ ลดน้อยลงไปราว 60 ปีที่แล้วเมื่อการสัญจรทางบกสะดวกขึ้น ภาพความคึกคักจอแจของผู้คนและเรือบรรทุกพืชผล สินค้า แน่นขนัดในลำคลอง เสียงเจรจาซื้อขาย พูดคุยทักทายกันทั่วท้องน้ำ นับวันจะหาดูได้ยากยิ่ง แต่ความมีชีวิตชีวาเหล่านี้ยังคงมีอยู่ที่ "ตลาดน้ำท่าคา"

ตลาดน้ำจะมีในวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันขึ้นหรือวันข้างแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ ตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00- 12.00 น
บริเวณตลาดน้ำท่าคาบรรยากาศสองฝั่งน้ำร่มรื่นด้วยสวนมะพร้าวและสวนผลไม้ ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือออกมาจากสวน บ้างก็มาจากละแวกใกล้เคียงบรรทุกผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ ล่องมาขาย สินค้าที่หลากหลายเหล่านี้เป็นตัวแทนบอกเล่าเรื่องราวในท้องถิ่น สภาพภูมิประเทศ พืชพันธุ์ ผลผลิต วิถีชีวิตผู้คน ตลาดน้ำจึงเป็นตัวเชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันไว้ด้วยกัน เป็นศูนย์กลางการพบปะของคนในชุมชนและนักท่องเที่ยวจากภายนอก บริเวณที่ติดตลาดมีทางเดินปูนริมน้ำและสะพานข้ามคลอง ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมตลาดน้ำได้อย่างทั่วถึง

บริเวณด้านหน้าทางเข้าตลาดน้ำมีศูนย์ต้อนรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตลาดน้ำท่าคา มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ในชุมชนจำหน่าย มีการสาธิตการเคี่ยวตาล หยอดตาล และบริการพาล่องเรือเที่ยวสวน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2015, 11:30:26 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ต่อจากนั้นเดินทางต่อไปจุดหมายของเราคือที่เที่ยวจังหวัดนครปฐม ที่เพิ่งเปิดใหม่และกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัย Woodland museum and Resort เป็นสถานที่รับประทานอาหารกลางวันบรรยากาศชิลๆ ริมแม่น้ำท่าจีน อิ่มท้องแล้วเดินชมงานศิลป์ที่แกะสลักจากไม้นับไม่ถ้วน

Woodland Museum & Resort แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ตั้งอยู่ที่อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ริมแม่น้ำนครชัยศรี(ท่าจีน) จังหวัดนครปฐม ภายใน Woodland Museum &Resort ภายในมีสิ่งต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย “ เมืองไม้ ”อาคารแสดงงานไม้แกะสลักขนาดใหญ่มากที่มีความสูง 1.50-3.50 เมตรจํานวนมากกว่า 2000 ชิ้น และ ผลงานไม้แกะสลักขนาดต่างๆ อีกกว่า 3000 ชิ้น“วู้ดแลนด์เมืองไม้” ได้บรรจงจัดการแสดงไม้แกะสลักไว้อย่างพิถีพิถันโดยสถาปนิกไทย ผู้มีประสบการณ์ ในการจัดพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในมหานครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสถึงมหัศจรรย์แห่งการก่อเกิดธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ ที่นํามาซึ่งชีวิต ความเชื่อและตํานานศักดิสิทธ์ต่างๆ ที่จะทําให้ผู้เข้าชมได้เพลิดเพลิน และ ตื่นตะลึงถึงความงดงาม และความมหัศจรรย์ ของศิลปะแห่งธรรมชาติรวมไปถึงความงดงามทางศิลปะที่มนุษย์ได้บรรจงสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยความประณีต จากหลายประเทศในแถบเอเซีย ไทย จีน พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย ฯลฯ และชมวัตถุโบราณอายุ 200-300 ปี

    คณะคาราวานเดินทางเข้าถึง Woodland ก็มีปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด เป็นเรื่องที่น่าตื่นตาแล้วยิ่งได้เข้าไปชมภายในพิพิธภัณฑ์ผลงานศิลปะจากไม้นับพันชิ้น ยิ่งอลังการสุดจะบรรยาย ได้ยินค่าเข้า 300 ช่วงนี้โปรโมชั่นลดเหลือ 200 สำหรับคนไทย ทีแรกคิดว่าแพง แต่พอเข้าไปด้านในได้เห็นผลงานที่ตั้งแสดงอยู่นับพันชิ้น แต่ละชิ้นสวยงามละเอียดปราณีตเป็นงานแกะสลักหาชมยาก นับเป็นสุดยอดนักสะสมผลงานศิลป์จากไม้ของเมืองไทยเลยทีเดียว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2015, 01:02:57 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
สถานีต่อไปยังคงอยู่ในจังหวัดนครปฐม เป็นอีกสถานที่ที่ควรมาสักครั้ง พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย นครปฐม (Thai Human Imagery Museum)

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย เกิดจากแรงบันดาลใจของผู้สร้างสรรค์กลุ่มหนึ่งนำโดย อาจารย์ดวงแก้วพิทยากร ศิลป์ ที่สนใจการสร้างหุ่นขี้ผึ้ง และศึกษาค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จึงประสบความสำเร็จ สามารถสร้างหุ่น ขี้ผึ้งยุคใหม่จากไฟเบอร์กลาสที่มีความคงทน ประณีต งดงาม เหมือนคนจริงที่สุด จนคณะผู้ร่วมงานเห็นสมควรที่ จะสนับสนุนให้ก้าวหน้าต่อไป เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติและศิลปินไทย จึงเริ่มโครงการก่อตั้งพิพิธ ภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ไทยในปี พ.ศ. 2525 สำหรับเป็นสถานที่สร้างและจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส เพื่อการ อนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีไทย อันจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าของเยาวชน โดยปัจจุบันมีหุ่นไฟเบอร์กลาสทั้งหมด 120 รูปอาคารพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยนี้เป็นอาคารสองชั้น โดยมีการจัด แสดง ด้วยกันสองชั้นคือ ชั้นล่าง จัดแสดงหุ่นชุดต่างๆ เช่น ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงค์จักรี, พระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, ชุดพระอริยสงฆ์, ชุดมุมหนึ่งของชีวิต เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย  เป็นพิพิธภัณฑ์ ที่จัดแสดง หุ่นขี้ผึ้ง ที่หล่อจาก ไฟเบอร์กลาส แห่งแรกของประเทศไทย เกิดจากแรงดลใจของ ผู้สร้างสรรค์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งนำโดย อ.ดวงแก้ว พิทยากรศิลป์ ทำการศึกษาขี้ผึ้งยุคใหม่จากไฟเบอร์กลาส ซึ่งค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จึงประสบความสำเร็จ  สามารถสร้างหุ่นมีลักษณะเหมือนคนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผิว ดวงตา แขน เส้นผม  ที่มีความคงทน ประณีต งดงาม เหมือนคนจริงที่สุด และมีวัตถุประสงค์ ในอันที่จะส่งเสริม เผยแพร่ อนุรักษ์ไว้ซึ่ง ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีของไทย อันจะเป็นประโยชน์ ในการศึกษาค้นคว้าของเยาวชนสืบไป
ได้ที่

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

๔๓/๒ หมู่ ๑ ถนนบรมราชชนนี
(ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) กม.๓๑
ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ๗๓๑๒๐
โทร. ๐-๓๔๓๓-๒๖๐๗, ๐-๓๔๓๓-๒๑๐๙


    คณะคาราวานพิชิตเส้นทางท่องเที่ยว 19 จังหวัดภาคกลาง ปิดการเดินทางวันที่ 2 ด้วยงานเลี้ยงสังสรรค์เล็กๆ ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวต้อนรับคณะเดินทาง ร่วมกันชมการแสดงดนตรีพื้นบ้านจากเด็กนักเรียน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2015, 10:55:25 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
คณะคาราวานเดินทางเข้าที่พัก ตามสไตล์ทัวร์นกขมิ้น ค่ำไหนนอนนั่น วันนี้ค่ำที่นครปฐมก็พักที่นครปฐม โรงแรมที่ให้การต้อนรับชาวคณะคาราวานเที่ยวภาคกลางในวันนี้คือ ไมด้า ทวารวดี แกรนด์ โรงแรมเปิดใหม่ใหญ่ตระการตา สวยหรูมีระดับ ด้านหน้ามีเจดีย์ 3 องค์ บนดาดฟ้ามีเจดีย์ตระหง่านอยู่อีก 1 องค์ เป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของโรงแรมนี้

คลิปการเดินทางตามเส้นทางพิชิต 19 จังหวัด ภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
<a href="http://www.youtube.com/v/o0P3zJZyMJk" target="_blank" class="new_win">http://www.youtube.com/v/o0P3zJZyMJk</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 09, 2015, 07:13:35 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม 2558  (นครปฐม – ราชบุรี-กาญจนบุรี)
 เชิญชวนแต่งกายวิถีไทยใน Theme : แดนสวรรค์ตะวันตก
08.00 น.​ออกเดินทาง
ช่วงเช้า​​ : กิจกรรมิเศษเปิดฤดูท่องเที่ยว นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ จังหวัดนครปฐม แหล่งท่องเที่ยวถนนสาย-​​ดอกไม้ ตามโครงการ Dream Destinations 2 : กาลครั้งนั้น...ความฝันผลิบาน
​​- ชมการแสดงหนังใหญ่ UNSEEN หนังไทย วัดขนอน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ได้รับ​​​รางวัล UNESCO
12.00 น.​ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารอัลปาก้า อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ใน​​​บรรยากาศฟาร์มอัลปาก้า (ททท.ภูมิภาคภาคกลาง เป็นเจ้าภาพ)
ช่วงบ่าย​​ : ชมต้นจามจุรียักษ์อายุ 100 ปี  อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ช่วงเย็น : ​​เข้าที่พัก โรงแรมพีรูท โรงแรมใหม่ล่าสุดของจังหวัดกาญจนบุรี
​​  ตัดสิน&มอบรางวัลผู้ที่แต่งกายเข้าบรรยากาศวิถีไทย ใน Theme แดนสวรรค์ตะวันตก พร้อมล่องแพชมบรรยากาศแม่น้ำแควใหญ่ พร้อมรับประทานอาหารค่ำ
(ททท.สำนักงานกาญจนบุรี ​เป็นเจ้าภาพ)
พักผ่อนตามอัธยาศัย

    คลองมหาสวัสดิ์ คลองขุดในสมัยรัชกาลที่ 4 ขุดให้เพื่อการเดินทางสัญจรจากวังหลวง กทม.-พระปฐมเจดีย์/จังหวัดนครปฐม ในสมัยนั้น และทุกๆ 4 กิโลเมตร จะมีศาลาพักริมคลอง ให้ผู้สัญจรได้แวะพัก ประกอบกับที่ศาลาเหล่านั้นได้เขียนตำรายา(คล้ายวัดโพธิ์ กทม.)ให้ความรู้กับผู้สัญจรไป-มาด้วย จึงเป็นที่มาของ "ศาลายา" มาจนถึงปัจจุบัน แต่ปัจจุบันศาลาเหล่านั้นได้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงชื่อคำว่า "ศาลายา" ให้เราได้จัก ได้เรียกนาม กันเท่านั้น

    เปิดฤดูท่องเที่ยว "นาบัว@คลองมหาสวัสดิ์" จังหวัดนครปฐม แหล่งท่องเที่ยวถนนสาย-​​ดอกไม้ ตามโครงการ Dream Destinations 2 : กาลครั้งนั้น...ความฝันผลิบาน  ตลอดเดือนพฤษภาคม 2558
โดยมี นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ ททท.ภูมิภาคภาคกลางได้นำคณะสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมพันธมิตร-ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว กว่า 120 ชีวิต กับคาราวานขับรถเที่ยวพิชิต 19 จังหวัดภาคกลาง เข้าร่วมกิจกรรมเก็บบัว ในนาดอกบัว เช้าวันที่ 3 พฤษภาคม 2558 ณ นาดอกบัว คลองมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม

 วันนี้ ททท.ขอพาทุกท่าน ไปชมดอกไม้อีกชนิดหนึ่งท่ีคนไทยเรารู้จักคุ้นเคยกันเป็น อย่างดี ก็คือ "ดอกบัว" นั่นเอง เราคงจะเคยเห็นบึงบัว ในธรรมชาติ แต่ที่พุทธมณฑลนั้นมีการปลูกบัวโดย เกษตรกรเพื่อส่งขายตลาด บึงที่ใช้ปลูกบัวจึงเรียกกันว่า นาบัว โดยบัวท่ีปลูกคือ บัวสัตตบุษย์ หรือ ฉัตรขาว บัวขาว ซ้อนดอกใหญ่ ดอกตูมเป็นรูปไข่ทรงป้อม กลีบสีเขียว อมขาว เมื่อบานจะเผยกลีบในสีขาว ที่เราใช้สําาหรับบูชา พระนั่นเอง นาบัว เป็นสถานท่ีท่ีนักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือ มาเที่ยวชมกรรมวิธีการเก็บบัว คัดบัว ลงบัวของชาวบ้าน ซึ่งนักท่องเที่ยวยังสามารถพายเรือชมนาบัวได้เอง นาบัว เป็นหนึ่งในจุดแวะของทัวร์ล่องเรือชมวิถีเกษตรริมคลอง มหาสวัสดิ์ นอกเหนอื จากการชม นากล้วยไม้ นาข้าว และ กลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของแม่บ้านเกษตรกร มหาสวัสดิ์ น่าสนใจอย่างย่ิงคลองมหาสวัสดิ์ หรือ คลองชัยพฤกษ์ แหล่งกำเนิดวิถีชีวิตของชาวบ้านริมน้ำ จ.นครปฐม และ ชุมชนเล็ก ๆ อย่างชุมชนคลองมหาสวัสดิ์ ได้รวมตัวกันสร้างวิถีชีวิตแบบพอเพียง ด้วยการทำไร่ ทำสวน แปรผลิตผลต่าง ๆ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อจนกลายเป็นสินค้า OTOP ประจำชุมชน สร้างรายได้พิเศษให้แก่ชาวบ้าน ปัจจุบันเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเชิงอนุรักษ์ เป็นอีกหนึ่งชุมชนตัวอย่างที่ควรค่าแก่การมาสัมผัสเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง

การเดินทางไปชมนาดอกบัว ใช้เส้นทาง คลองมหาสวัสดิ์ คลองสายนี้เป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้านและ "คลองมหาสวัสดิ์" ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards 2007) จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อปี พ.ศ.2550  "เที่ยวท่องล่องชมวิถีชุมชน @ คลองมหาสวัสดิ์" มีกิจกรรมมากมายที่เป็นแหล่งความรู้สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ล่องเรือชมสวน ,ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ,นาข้าวศูนย์สาธิตเกษตร ,การทำนาบัว (Lotus Farm), นาสวนกล้วยไม้,ข้าวตังและวิสาหกิจชุมชน ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดคือการรวมแรงร่วมใจกันของชาวบ้านชุมชนคลองมหาสวัสดิ์จนเกิดเป็นวิถีเกษตรแบบพอเพียง ควรค่าแก่การมาเรียนรู้ หรือพาน้อง ๆ หนู ๆ มาทัศนศึกษาเป็นอย่างยิ่ง

ประวัติความเป็นมาของคลองมหาสวัสดิ์ หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า คลองชัยพฤกษ์ เป็นคลองลัดบางกรวย - คลองบางกอกน้อย  เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างเขตตลิ่งชันและเขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร กับ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ไหลผ่านอำเภอพุทธมณฑล สู่แม่น้ำท่าจีนที่ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม รวมระยะทางประมาณ 28 กิโลเมตร


คลองมหาสวัสดิ์ เริ่มขุดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2402 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) เพื่อย่นระยะทางไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโก ษาธิบดี (ขำ บุนนาค) และพระภาษีสมบัติบริบูรณ์ เป็นแม่กองจ้างชาวจีนขุด แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2403 ใช้เงินทั้งสิ้น 1,101 ชั่ง 10 ตำลึง เมื่อขุดคลองมหาสวัสดิ์แล้วเสร็จ รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาทิพากรวงศ์ฯ จับจองที่ดินว่างเปล่าสองฝั่งคลอง ชุมชนแรก ๆ และผู้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ส่วนใหญ่ได้แก่ชาวบ้านจากริมแม่น้ำนครชัยศรี ดอนหวาย ดาวคะนอง และชาวจีนที่มาขุดคลอง นอกจากนี้ยังได้ให้สร้างศาลาริมคลองสำหรับผู้สัญจรไป-มาเป็นระยะทุกๆ 100 เส้น หรือประมาณ 4 กิโลเมตร ได้สร้างศาลาและเขียนตำรายารักษา โรคต่าง ๆ ติดไว้เป็นการกุศล ต่อมาเรียกกันว่า "ศาลายา" ส่วนศาลาที่ 7 เรียกกันว่า "ศาลาดิน" และศาลาที่ 5 สร้างในการกุศลปลงศพคนของเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ เรียกกันว่า "ศาลาทำศพ" ปัจจุบันกลายเป็น "ศาลาธรรมสพน์" และเป็นชื่อแขวงกับสถานีรถไฟในเขตทวีวัฒนาของกรุงเทพมหานคร

 

นาดอกบัว นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอีกแหล่งหนึ่งในเชิงเกษตร และควรค่าแก่การอนุรักษ์วิถีการดำเนินชีวิตของคนไทยแบบเศรษฐกิจพอเพียงเช่นนี้ หากใครได้ลองมาท่องเที่ยวที่ชุมชนคลองมหาสวัสดิ์แห่งนี้ อาจจะได้ความคิด ได้ไอเดียใหม่ ๆ ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ

การเดินทาง ไปวิสาหกิจชุมชนกลุ่มท่องเที่ยวคลองมหาสวัสดิ์ หมู่ที่ 1 บ้านสุวรรณาราม ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) หรือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 338 (ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) วิ่งไปจนถึงแยกพุทธมณฑลสาย 4 ให้แยกเข้าไปทางศาลายา ผ่านมหาวิทยาลัยมหิดลเข้าสู่ถนนศาลายา-นครชัยศรี สังเกตป้ายวัดสุวรรณาราม และตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ ก็จะถึงยังวัดสุวรรณารามจุดลงเรือล่องชมคลองมหาสวัสดิ์

*สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมยามดอกไม้บานได้ตลอดทั้งปีได้ที่ :

-การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสมุทรสงคราม  (สมุทรสงคราม,สมุทรสาคร,นครปฐม) 

  โทร.0-3475-2847 - 8 หรือ Fanpage : TAT Samut Songkhram

-กลุ่มแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรแม่บ้านเกษตรกร บ้านผู้ใหญ่มนูญ

  โทร.0-3429-7152, 08-1495-9091

- www.เที่ยวภาคกลาง.com หรือ Fanpage : TAT_Tiewpakklang
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 03, 2015, 09:54:13 AM โดย admin »