Backpack เที่ยวตุรกี #ภาค2

[juneing]

          วันที่ 2 มกราคม 2558 เรานั่งรถออกจาก Goreme ประมาณ เกือบๆ3ทุ่ม มาถึงที่ท่ารถบัส อิสตันบูลเวลา 6โมงเช้าพอดี ข้อดีของการ
นอนในรถก็คือ เราสามารถประหยัดค่าโรงแรมไปได้สำหรับคืนนั้นๆ รถบัสก็นอนสบายดี มีขนมขบเคี้ยวและชา กาแฟ น้ำผลไม้เสริฟตลอด แถมรถบัส
บางบริษัท มี wifi ฟรีให้เล่นด้วย

          อิสตันบูล (ตุรกี: İstanbul) เดิมชื่อ คอนสแตนติโนเปิล เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศตุรกี ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบบอสฟอรัส
ซึ่งทำให้อิสตันบูลเป็นเมืองสำคัญเพียงเมืองเดียวในโลก ที่ตั้งอยู่ใน 2 ทวีป คือ ทวีปยุโรป (ฝั่ง Thrace ของบอสฟอรัส) และทวีปเอเชีย (ฝั่งอนาโตเลีย)
(ข้อมูลจาก wikipedia) สำหรับภาคนี้เราจะมาตะลุยอิสตันบูลกัน พร้อมกับรายละเอียดทริปการเดินทางทั้ง 11วัน

          หลังจากมาถึงแล้วอิสตันบูลแล้ว เรานั่งรถบัสฟรีจากท่ารถบัสที่เราลง มาลงที่สถานีรถไฟ Aksaray แล้วต่อรถไฟไปลงสถานี Sultanahmet
เพื่อไปเช็คอินที่โรงแรม ซึ่งเราจะนอนที่นี่ตลอดการพักอาศัยที่อิสตันบูล จากนั้นก็เดินเที่ยวกันต่อเลย

[juneing]

          ปัญหาส่วนใหญ่ของการเที่ยวที่อิสตันบูลนี้คือ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนมาก ไม่ค่อยอนุญาติให้ถ่ายรูป อย่างเช่นที่  Topkapi Palace
แห่งนี้ ก็ไม่ค่อยอนุญาติให้ถ่ายรูปในหลายๆพื่นที่ ทำให้เราทำได้เพียง เก็บภาพบริเวณด้านนอกตัวอาคารบางส่วนมาเท่านั้น

[juneing]

          ที่ด้านหลัง Topkapi Palace คือที่ตั้งของ Baghdad Pavilion ที่นี่จะสามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัสอย่างชัดเจน และจะมีร้านกาแฟอยู่ตรงบริเวณนี้
เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมความงาม มานั่งพักผ่อน จิบชาเบาๆ พร้อมกับชมวิวช่องแคบบอสฟอรัสที่สวยงามไปด้วย

[juneing]

          โรงแรมที่เราพักอยู่ไม่ไกลจากสถานี Sultanahmet เท่าไร เดินเท้าไม่เกิน 10 นาที เราก็จะมาถึงที่สถานี Sultanahmet ได้
ซึ่งสถานี Sultanahmet นี้ก็เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆอย่าง Blue Mosque และ Saint Sophia ที่เราเคยไปในเช้าของ
วันแรกที่เรามาถึงอิสตันบูลแห่งนี้

          ด้วยความใกล้ ทำให้ไม่ว่าเราจะเดินไปเที่ยวที่ไหน เราก็จะต้องเดินผ่านสถานที่ 2แห่งนี้ และไม่ว่าจะเดินผ่านกี่ครั้ง มันก็ยังสวยงาม
ทุกครั้งที่เดินผ่าน

         

[juneing]

          วันที่ 3 มกราคม 2558 เช้าวันนี้ เราวางแผนไว้ว่าจะไปเดินเล่นย่าน Taksim ซึ่งถือเป็นย่านเมืองใหม่ของอิสตันบูล ซึ่งให้ความรู้สึก
แตกต่างกับย่านเมืองเก่าที่เราพักมากทีเดียว แล้วจากนั้นเราจะนั่งเรือชมความงามของอิสตันบูลทางช่องแคบบอสฟอรัสกัน

          วันนี้เรานั่งรถรางจากสถานี Sultanahmet มาลงที่สถานี Kabatas จุดแรกที่เราจะไปเที่ยวก็คือ Dolmabahce Palace

[juneing]

          จากนั้นเราก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Taksim เดินเที่ยวดูย่านเมืองใหม่กัน ที่นี่มีร้านขายของฝากและของกินเยอะมาก เดินไปกินไป อร่อยดี
และที่นี่ยังมีรถรางเล็กๆสีแดงวิ่งรอบเมือง สำหรับคนที่ไม่อยากเดินแต่อยากจะชมเมืองอีกด้วย ซึ่งก็เป็นที่นิยม มีคนขึ้นกันแน่นตลอด
         

[juneing]

          เราเดินต่อไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ Galata Tower หอคอยที่เมื่อก่อนเคยใช้สำหรับขังนักโทษ แต่ในปัจจุบันมันกลายเป็นจุดชมวิวที่นิยมแห่งนึง
เลยทีเดียว

          เราเดินต่อไปเรื่อยๆก็จะออกมาเจอกับ Galata Bridge ที่ทอดผ่านช่องแคบบอสพอรัส เชื่อมระหว่างเมืองใหม่กับเมืองเก่าบนแผ่นดินในฝั่งยุโรป
ที่สะพานนี้ คนจะนิยมมาตกปลาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีร้านอาหารที่เน้นขายอาหารทะเลเยอะมาก

[juneing]

          เราเดินข้ามสะพานมาที่ท่าเรืออีกด้านหนึ่ง จะมองเห็นเรือเดินทะเลลำใหญ่จอดอยู่ที่ท่า ใกล้ๆกันก็จะมีป้ายใหญ่ๆเป็นรูปเรือลำนี้ละ เขียนราคา
และเวลาที่เรือแต่ละรอบจะออกจากท่าเรือ เราก็เข้าแถวต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วขึ้นเรือไปชมความงามของสองฝั่งช่องแคบบอสพอรัสกัน เรือที่เราซื้อนั้น
เป็นเรือขนาดใหญ่ มีสองชั้นและมีชั้นดาดฟ้าเรือให้เราได้ขึ้นไปถ่ายรูปกัน ส่วนถ้าใครที่แพ้อากาศหนาว ก็สามารถนั่งภายในเรือทั้งสองชั้นได้
เพราะภายในเรือมีฮีทเตอร์อุ่นสบาย พร้อมกับมีชา กาแฟ และขนมขบเคี้ยวจำหน่ายอีกด้วย

          เรือลำนี้จะแล่นพาเราชมความงามกันประมาณ 1ชั่วโมง ระหว่างที่เรือวิ่งก็จะมีฝูงนกนางนวลบินตามเรือตลอด เพราะคนบนเรือพากันมาโปรย
อาหารให้กับนกนางนวล ตลอดการเดินทาง

[juneing]

          สองฟากฝั่งของช่องแคบบอสพอรัสสวยงามมาก ระหว่างที่เรือแล่นไปให้เราได้ชมความความงามของสองฟากฝั่งยุโรบและเอเชีย เรานั่งที่
ดาดฟ้าเรือ เพื่อเก็บรูปไปเรื่อยๆ บางช่วงรู้สึกว่าหนาวมากไปก็เดินลงมานั่งในเรือที่ชั้น2 สลับกันไปมา

          เป็น 1ชั่วโมงที่เต็มอิ่มกับวิวสองฟากฝั่งริมทะเลมาก นั่งดูพระอาทิตย์ตกบนเรือ นั่งจิบชาตุรกีไปเรื่อยๆ ก็มีความสุขไปอีกแบบนึง หลังจาก
ที่เราขึ้นจากเรือก็เดินเที่ยวตลาด Spice Bazaar ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับท่าเรือ แล้วจึงเดินทางกลับโรงแรม

[juneing]

          วันที่ 4 มกราคม 2558 วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวในตุรกี เราตื่นสายกว่าปกติเพราะไม่ต้องรีบออกไปเที่ยวไกลๆ การท่องเที่ยววันนี้
จะเป็นการเที่ยวแบบสบายๆไม่ต้องรีบเร่ง ไม่ต้องแข่งกับเวลา พยายามซึมซับอิสตันบูลให้มากที่สุด ก่อนจะกลับเท่านั้นเอง

          หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย เราก็ออกเดินเท้าจากสถานี Sultanahmet เดินมาเรื่อยๆ ตามรางรถไฟ เดินชมวิว ชมร้านขายอาหาร
ร้านขายของฝากต่างๆมาเรื่อยๆ จนมาถึงที่สถานี Eminonu แถวๆที่เราขึ้นเรือชมช่องแคบบอสพอรัส ก็จะเห็นสถานีรถบัสซึ่งอยู่ติดกับ Galata Bridge
วันนี้เราจะนั่งรถบัสไป ขึ้นกระเช้า Cable Carที่ Pierre Loti Hill เพื่อชมความงามของเมืองอิสตันบูลแบบ Panorama กัน

         

[juneing]

          ด้านบนของ Pierre Loti Hill จะมีร้านขายชา กาแฟ ให้เรานั่งจิบชาไปด้วย ชมวิวไปด้วย บนยอดเขานี้สามารถเห็นวิวของโกลเด้นฮอร์น
และทิวทัศน์ของนครอิสตันบูลได้อย่างชัดเจน

          ชื่อของภูเขาลูกนี้ตั้งขึ้นเพื่อให้เกียรติแก่ "จูเลี่ยน วูด" Julien Viaud นักประพันธ์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีชื่อเสียงในตุรกีเป็นอย่างมากใน
ช่วงศตวรรษที่ 19 หรือที่รู้จักในนามปากกา "เปีย ลอททึ" Pierre Loti

[juneing]

          หลังจากชมวิว จิบชาเป็นที่เรียบร้อย สบายใจแล้ว เราก็ลงจาก กระเช้า Cable Car นั่งรถบัสกลับมาลงแถว Eminonu เดินชมวิว แถวๆ
สะพานอีกรอบนึงก่อนเดินทางกลับประเทศไทยในวันรุ่งขึ้น

          วันที่ 5 มกราคม 2558 เราบินกลับไทยนั้นหลังจากกินอาหารเช้าเรียบร้อย ประมาณ 9โมงครึ่ง เราก็นั่งรถรางจากสถานี Sultanahmet
มาลงที่สถานี Aksaray แล้วต่อรถไฟใต้ดินมาลงที่สนามบิน แล้วไป Transit ที่โดฮาอีกครั้ง

          วันที่ 6 มกราคม 2558 เวลา เที่ยงกว่าๆ เราก็กลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

[juneing]

          คราวนี้มาถึง รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆสำหรับการเดินทางไปตุรกี ตอนแรกที่ตัดสินใจไปตุรกี เราลอง Search หาที่เที่ยวที่น่าสนใจในตุรกี
ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง มีที่ไหนที่น่าสนใจ ไปที่ไหนก่อน ไปที่ไหนหลัง มีที่ไหนที่จะต้องไปให้ได้ จากการหาข้อมูล คนที่ Backpack ไปเที่ยว
ตุรกีน้อยมาก เนื่องจากที่เที่ยวแต่ละเมืองอยู่ไกลมาก การจะนั่งรถหรือต่อรถในแต่ละที่อาจจะไม่สะดวกสบายนัก บริษัททัวร์จึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดี
สำหรับความสะดวกสบายตรงนี้ แต่ถ้าเรามีร่างกายและหัวใจที่พร้อมจะเป็น Backpacker ละก็ ตรงนี้คงจะไม่ใช่ปัญหา

 อันนี้คือแผนการเดินทางที่เราวางไว้

                    วันที่ 1-2 (เนื่องจากความแตกต่างด้านความต่างของเวลาไทยกับตุรกี) กรุงเทพฯ >> โดฮา >> อิสตันบูล ไปแลกเงินและ
                                เดินเล่นชมบรรยากาศ >> ไปเซลจุก (Selcuk) โดยนอนบนรถ
                    วันที่ 3    ถึงเซลจุก (Selcuk) เที่ยวเมืองโบราณเอฟิซุส (Ephesus) >> ไปปามุคคาเล (Pamukkale) >> พักโรงแรม
                    วันที่ 4    เที่ยว เฮียราโปลิส (Hierapolis) >> ปามุคคาเล (Pamukkale) >> ไป Goreme (Cappadocia) โดยนอนบนรถ
                    วันที่ 5    ถึง Goreme (Cappadocia) >> One Day Trip >> พักโรงแรม
                    วันที่ 6    ขึ้นบอลลูน ไม่ได้ขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี >> อุชหิซาร์ (Uchisar) >> อิสตันบูลโดยนอนบนรถ
                    วันที่ 7    อิสตันบูล >> พักโรงแรม
                    วันที่ 8    อิสตันบูล >> พักโรงแรม
                    วันที่ 9    อิสตันบูล >> พักโรงแรม
                    วันที่ 10-11 (เนื่องจากความแตกต่างด้านความต่างของเวลาไทยกับตุรกี) อิสตันบูล >> โดฮา >> กรุงเทพฯ

          เราเริ่มมองหาตั๋วเครื่องบินก่อนเลย เพราะจากประสบการณ์ในทริปภูเขาไฟ Ijen&Bromo ของเรา สอนว่า ถ้าเราได้ตั๋วเครื่องบินราคาถูก
ก็จะมีชัยในการลด Cost ไปเกือบครึ่ง ดังนั้นยอมเสียเวลา Transit สักหน่อย เพื่อลดค่าใช้จ่ายดีกว่า แล้วโชคก็เข้าข้างเรา เมื่อสายการบินกาตาร์
แอร์เวย์ส ออกโปรลดราคามาในช่วงปลายปี ถึงราคาจะไม่ได้ถูกที่สุด แต่ก็เป็นราคาที่เราพอจะยอมรับได้ คือบินไป-กลับ ในราคา 23,105 บาท
แต่จะต้องไป Transit ที่โดฮา 

         หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย เราจึงมานั่งดูแผนการเดินทางที่เราวางเอาไว้ ที่เที่ยวแต่ละจุดค่อนข้างจะอยู่ไกลกัน ดังนั้นเพื่อลดค่าใช้จ่าย
และระยะเวลาในการเดินทาง เราจึงเลือกเดินทางข้ามเมืองในตอนกลางคืน การนอนบนรถบัสถือเป็นข้อดีอย่างนึงคือ เราสามารถประหยัดเงินในการ
จ่ายค่าโรงแรมลงได้ แต่อาจจะต้องแลกกับความสะดวกสบายในการนอนนิดหน่อย และที่สำคัญคือบนรถบัสทุกบริษัท ไม่มีห้องน้ำบนรถ แต่รถบัสจะจอด
ให้เราเข้าห้องน้ำเกือบทุกชั่วโมง ซึ่งการเข้าห้องน้ำสาธารณะที่ตุรกี จะต้องจ่ายเงินค่าเข้าครั้งละ 1TL หรือประมาณ 15บาท

         จากในแผนการเดินทาง เราจะนอนบนรถบัส 3คืน แสดงว่าเราก็จองโรงแรมเพียงแค่ 5คืนเท่านั้น ดังนั้นเราก็จะสามารถ Save Cost จากจุดนี้
ได้อีก
           

[juneing]

         ต่อมาในเรื่องของการจองที่พักโรงแรมอีก 5คืนที่เหลือนี้ หลักในการเลือกโรงแรมที่จะจองของเราก็ง่ายๆคือ

               1. เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งคมนาคม  เช่น ใกล้สถานีรถไฟ รถบัส
               2. ราคาถูก สะอาด และปลอดภัย
               3. ใกล้ร้านขายอาหาร หรือ ร้านสะดวกซื้อ ( กันอดตาย 55555 ) 

          ทั้งหมดทั้งมวลของโรงแรมที่เราไปพักที่ตุรกี เราจองผ่านเวบ http://www.booking.com เนื่องจากมีรายละเอียดและแสดงสถานที่ตั้ง
ของโรงแรมที่ลดราคาในตุรกีให้เราเลือกเยอะดี รวมทั้งเป็นราคาที่ Net แล้ว ไม่ต้องมาบวกค่า Vat ทีหลังอีก

          โรงแรมแรกของการจองครั้งนี้คือ Ozbay Hotel เนื่องจากทางโรงแรมไม่มีเวบของทางโรงแรมโดยตรง รูปและคำติชมโรงแรม
สามารถดูได้ตามลิงก์ http://www.booking.com/hotel/tr/ozbay.th.html และ
http://th.tripadvisor.com/Hotel_Review-g297992-d662827-Reviews-Ozbay_Hotel-Pamukkale.html
บรรยากาศโรงแรมดี ราคาไม่แพง และไม่อยู่ไกล Pamukkale มากนัก ราคาห้องละ 1020บาท ไปจ่ายที่โรงแรมเลย ไม่ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต

          โรงแรมที่2 ที่เราจองผ่าน Booking คือ Walnut House โรงแรมนี้เจ้าของใจดีมาก เขาเล่าให้ฟังว่า ตัวเขาเป็น Architect และออกแบบ
โรงแรมนี้เองหมดเลย สิ่งที่เขาภูมิใจนำเสนอก็คือ ดาดฟ้าโรงแรมที่เป็นห้องอาหารของโรงแรม สามารถมองเห็นวิวในมุมสูงแบบ Panorama
เลยทีเดียว อันนี้เป็นเวบไซด์ของทางโรงแรม http://www.walnuthousehotel.com/ ราคาห้องละ 1428บาท ไปจ่ายที่โรงแรมเลย
ไม่ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต

          และสำหรับโรงแรมสุดท้ายที่เราพักในอิสตันบูลถึง 3คืนก็คือโรงแรม Blue Tuana Hotel สตาฟของโรงแรมเป็นกันเองมาก สถานที่ตั้งของ
โรงแรมก็อยู่ไม่ไกลจาก Blue Mosque และสถานีรถราง Sultanahmet เนื่องจากทางโรงแรมไม่มีเวบของทางโรงแรมโดยตรง รูปและคำติชมโรงแรม
สามารถดูได้ตามลิงก์ http://www.booking.com/hotel/tr/blue-tuana.th.html?aid=331515;label=blue-tuana-aCIJ8Qr1rdDTdGUUJXfCTgS7734324440;sid=f9819500437ecf055087a1b25b07b0e3;dcid=4;ucfs=1;srfid=e42057adfdcada2e7d291453116f9e734005bd98X1;highlight_room=
และ http://th.tripadvisor.com/Hotel_Review-g293974-d2070895-Reviews-Blue_Tuana_Hotel-Istanbul.html
ราคาห้องละ 2349บาท นอน 3คืน จ่ายไป 7046บาท แต่อันนี้เป็นโปรลดราคาของเวบ Booking ที่เราเลือกแบบไม่สามารถเปลี่ยนวันจองได้
ซึ่งเป็นราคาที่ถูกที่สุด เลยจำเป็นต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต

          เมื่อจัดการจองที่พักเรียบร้อยแล้ว คราวนี้มาถึงเรื่องแลกเงิน แนะนำว่าให้แลกเป็นเงินยูโรหรือเงินดอลล่าห์ไป แล้วไปแลกเป็นเงินตุรกี
ที่ตุรกีจะคุ้มกว่า อาจจะแลกที่สนามบินแค่ให้พอนั่งรถไฟไปลงแถวสถานี Sultanahmet แล้วหาร้านแลกเงินแถวนั้น มีหลายร้านให้เลือก
และดูที่ป้ายหน้าร้านด้วยว่า มีคำว่า No commission หรือเปล่า ไม่งั้นเราจะต้องเสียเงินค่า Commission ในการแลกเงิน
         

[juneing]

          ต่อไปสุดท้าย เป็นรายละเอียดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันของทริปนี้ดูได้ตามตารางด้านล่างนี้เลย

          ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัตร Istanbulkart เนื่องจากการเดินทางในอิสตันบูลนั้น มีหลายแบบด้วยกัน ทั้งรถราง รถไฟ รถเมล์เป็นต้น
หากเราลงจากสายแรกแล้วเปลี่ยนสายไปขึ้นอีกสาย เช่น เปลี่ยนจากรถใต้ดินไปขึ้นรถราง ก็ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม สายใครสายมัน ใช้ร่วมกันไม่ได้
ราคาค่าใช้บริการอยู่ที่ประมาณ 3 TR หรือประมาณ 45 บาท ตลอดสาย แต่ถ้าเราใช้ Istanbulkart เราก้จะใช้บริการเฉลี่ยต่อรอบได้ประมาณ
2 TR ประมาณ 30 บาทเท่านั้น ราคาเฉพาะบัตรเปล่าๆ 6TL ถ้าเราซื้อ 20TL  แสดงว่าเราจะสามารถใช้เงินในบัตรได้แค่ 14TL เท่านั้น