Backpack เที่ยวตุรกี #ภาค1

[juneing]

          ตุรกี (อังกฤษ: Turkey; ตุรกี: Türkiye) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐตุรกี ตุรกีเป็นประเทศสองทวีปที่มีดินแดนอยู่ทั้งในทวีปเอเชีย
และทวีปยุโรป ตุรกีในฝั่งเอเชียซึ่งครอบคลุมบริเวณส่วนใหญ่ของคาบสมุทรอานาโตเลีย นับเป็นพื้นที่ร้อยละ 97 ของประเทศ และถูกแยกจากตุรกี
ฝั่งยุโรปด้วยช่องแคบบอสพอรัส ทะเลมาร์มะรา และช่องแคบดาร์ดะเนลส์ (ซึ่งรวมกันเป็นพื้นน้ำที่เชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)
ตุรกีในฝั่งยุโรปซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรบอลข่าน มีพื้นที่คิดเป็นร้อยละ 3 ของทั้งประเทศ ดินแดนของตุรกีมีรูปร่างคล้ายสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความยาว
มากกว่า 1,600 กิโลเมตร และกว้างประมาณ 800 กิโลเมตร (ข้อมูลจาก wikipedia)

          ทริปนี้เกิดจากความคับแค้นใจที่อยากจะไปเที่ยวโซนยุโรปบ้าง คุยกันไปๆมาๆ สรุปว่าเราลองไปเที่ยวตุรกีดูดีกว่า วีซ่าก็ไม่ต้องขอด้วย
ลองเช็คราคาทัวร์บริษัทต่างๆดู ช่วงปีใหม่เดินทาง10วัน ราคา 6หมื่นอัพทั้งนั้น ถ้าแพงขนาดนั้น Backpackไปเองดีกว่า งบประมาณเมื่อเทียบ
กับราคาทัวร์แล้วต้องถูกกว่า เบื้องต้นวางไว้ไม่เกิน 40,000บาท ดังนั้นเราจึงเริ่มมองหาตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางไปตุรกีกัน เราออกเดินทางตั้ง
แต่คืนวันเสาร์ที่ 27 ธันวาคม 2557 - 6 มกราคม 2558 (รายระเอียดทริปเดินทาง ค่าใช้จ่าย รวมทั้งรายละเอียดที่พัก เดี๋ยวจะสรุปรวมยอด
เอาไว้ที่ท้ายกระทู้ Backpack เที่ยวตุรกี #ภาค2)

          แผนการเดินทางที่เราวางไว้ก็คือ

                    วันที่ 1-2 (เนื่องจากความต่างของเวลาไทยกับตุรกี) กรุงเทพฯ >> โดฮา >> อิสตันบูล ไปแลกเงินและ
                                เดินเล่นชมบรรยากาศ >> ไปเซลจุก (Selcuk) โดยนอนบนรถ
                    วันที่ 3    ถึงเซลจุก (Selcuk) เที่ยวเมืองโบราณเอฟิซุส (Ephesus) >> ไปปามุคคาเล (Pamukkale) >> พักโรงแรม
                    วันที่ 4    เที่ยว เฮียราโปลิส (Hierapolis) >> ปามุคคาเล (Pamukkale) >> ไป Goreme (Cappadocia) โดยนอนบนรถ
                    วันที่ 5    ถึง Goreme (Cappadocia) >> One Day Trip >> พักโรงแรม 
                    วันที่ 6    ขึ้นบอลลูน ไม่ได้ขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี >> อุชหิซาร์ (Uchisar) >> อิสตันบูลโดยนอนบนรถ
                    วันที่ 7    อิสตันบูล
                    วันที่ 8    อิสตันบูล
                    วันที่ 9    อิสตันบูล
                    วันที่ 10-11 (เนื่องจากความต่างของเวลาไทยกับตุรกี) อิสตันบูล >> โดฮา >> กรุงเทพฯ

          วันที่ 27 ธันวาคม 2557 เริ่มออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ เกือบๆเที่ยงคืน  กรุงเทพ ==> โดฮา ==> อิสตันบูล

          วันที่ 28 ธันวาคม 2557  กว่าจะมาถึงอิสตันบูล ก็เกือบๆ ตี5 เวลาที่นี่ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง เราใช้เวลาให้เป็นประโยชน์มากที่สุด
โดยนั่งรถไฟไปจองตั๋วรถบัสเพื่อจะเดินทางไป Selcuk ในคืนนี้ก่อน ฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่บริษัทรถบัสเลย จากนั้นก็เดินทางไปแลกเงินตุรกีแถว
ตลาดแกรนด์บาซ่าแล้วเดินเที่ยวแถวๆนั้น เพื่อเก็บบรรยากาศของการมาถึงตุรกีครั้งแรกกัน จากนั้นนั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานีรถบัส เพื่อเดินทางไป
Selcuk คืนนี้เราได้นอนบนรถบัสเป็นคืนแรก

[juneing]

          วันที่ 29 ธันวาคม 2557 เรานั่งรถจากอิสตันบูลประมาณ 2ทุ่มครึ่ง มาถึงที่ Selcuk เกือบๆ 7โมงเช้า พอลงรถที่สถานีรถบัสเราก็ซื้อตั๋ว
สำหรับเดินทางไป Pamukkale ในตอนเย็นนี้ ฝากกระเป๋าไว้ที่บริษัทรถบัส แล้วไปขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางไปเที่ยว Ephesus เราโชคไม่ดีนัก
พอเดินทางมาถึง Ephesus ฝนก็ตกตลอดเลย ทำให้บรรยากาศการเที่ยวเป็นอารมณ์แบบชุ่มช่ำ ผสมวิ่งๆเพื่อหลบฝนไปด้วย

[juneing]

          จากนั้นตอนเย็นเราก็เดินทางกลับมาขึ้นรถบัสเพื่อเดินทางไป Pamukkale เรามาถึง Pamukkale ประมาณสองทุ่มกว่าๆ จากนั้นก็ซื้อตั๋ว
สำหรับเดินทางไป Goreme ต่อในคืนวันพรุ่งนี้ต่อเลย แล้วจึงเข้าพักผ่อนที่ Ozbay Hotel เพื่อเอาแรง

          วันที่ 30 ธันวาคม 2557 ตื่นเช้ามาหลังจากกินข้าวเช้าแล้ว เราเช็คเอาท์ออกเลย แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน จากนั้นเราก็เดินทางไป
Hierapolis ก่อนเลย เพื่อไปดูความยิ่งใหญ่อลังการสมัยโบราณ จากนั้นก็เดินต่อไปยัง Pamukkale ปราสาทปุยฝ้ายอันเลื่องชื่อ ที่ทุกคนพูดกันว่า
ถ้ามาที่ตุรกีจะต้องมาที่นี่

          แล้ววันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฟ้าฝนไม่ค่อยจะเป็นใจให้เราเที่ยวสักเท่าไรนัก นอกจากจะมีฝนพรำๆตลอดแล้ว ก็ยังมีหมอกค่อนข้างเยอะ เรียกว่า
เกือบทั้งวันแทบไม่เห็นแสงอาทิตย์กันเลยทีเดียว

[juneing]

         แม้ความอลังการของ Hierapolis จะสู้ Ephesus ไม่ได้ แต่ Hierapolis ก็มีความสวยงามในตัวของมันเอง ซึ่งดูแล้วก็ต้องกลับมานั่ง
คิดว่า คนสมัยก่อนเขาสร้างขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย

[juneing]

          เดินต่อมาอีกหน่อย เราก็จะเจอ Pamukkale ปราสาทปุยฝ้าย ที่เขาว่ากันว่าสวยงามมากกันแล้ว แต่ระหว่างทางที่เดินจาก Hierapolis
มาที่ Pamukkale วิวก็สวยไม่แพ้กัน

[juneing]

          สิ่งที่ดึงดูดให้คนมาเที่ยวสำหรับ Pamukkale คือ หน้าผาหินสีขาวที่กว้างใหญ่เป็นรูปร่างคล้ายหอยแครง และน้ำตกแช่แข็ง ถ้ามองดู
จะดูเหมือนสร้างจากหิมะ เมฆ หรือ ปุยฝ้าย น้ำแร่ที่ไหลลงมาแต่ละชั้นจะแข็งเป็นหินปูน ห้อยย้อยเป็นรูปร่างต่างๆ สวยงามอย่างที่ร่ำลือกันจริงๆ
หลังจากกลับจาก Pamukkale เรากลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรม แล้วออกมารอรถตู้ที่จะไปสถานีรถบัสที่หน้าโรงแรม เพื่อขึ้นรถบัสไป Goreme
คืนนี้ก็เป็นคืนที่สองที่เรานอนบนรถบัส

[juneing]

          วันที่ 31 ธันวาคม 2557 เรานั่งรถบัสจาก Pamukkake มาที่ Goreme ตอนเช้า 6โมง อากาศหนาวมากๆ รีบเข้าพักในโรงแรมก่อนเลย
วันนี้เราจะพักกันที่ Walnut House แม้จะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แต่เจ้าของโรงแรมก็ใจดีเปิดห้องให้เลย แถมมี Welcome Drink พร้อมทั้งบอกให้
ขึ้นไปกินข้าวเช้าที่ดาดฟ้าได้ด้วย ทั้งๆที่เข้าพักคืนนี้ เช้าวันรุ่งขึ้นจึงจะสามารถกินข้าวเช้าได้
         
          วันนี้เราซื้อ One Day Tour เพื่อเที่ยวรอบๆเมือง Cappadocia เนื่องจาก Cappadocia กว้างมากและที่เที่ยวแต่ละที่ก็อยู่ไกลกัน
เพื่อความสะดวก จึงจัดการซื้อ One Day Tour กับทางโรงแรมที่พักเลย ( จริงๆแล้วเราสามารถซื้อที่บริษัททัวร์ที่มีอยู่หลายบริษัทแถวๆสถานีรถบัส
หรือแม้กระทั่งบริษัทรถบัส ก็สามารถซื้อได้ ) ซึ่งเป็นราคาที่รวมอาหารกลางวันแล้ว จากนั้นก็เดินไปที่สถานีรถบัส เพื่อซื้อตั๋วรถบัสกลับอิสตันบูลตอน
กลางคืนวันพรุ่งนี้

          โปรแกรม One Day Tour ที่เราซื้อนั้นชื่อว่า Green Tour ซึ่งจะพาเราไป

          1. Goreme Panorama
          2. Derinkuyu Underground City
          3. Ihlara Valley
          4. Selime Monastery

[juneing]

          Cappadocia ถือเป็นเมืองที่สวยมากๆ รูปร่างแปลกตา เนื่องจากในอดีตเกิดการระเบิดของภูเขาไฟ และมีลาวาไหลมาปกคลุมพื้นที่บริเวณนี้
นานวันเข้าแดด ลม ฝน ก็กัดกร่อนพื้นที่บริเวณดังกล่าวทีละเล็กทีละน้อย จนกลายเป็นภูมิประเทศที่แปลกตา

[juneing]

          การมาเที่ยวที่นี่ในฤดูหนาวก็ให้บรรยากาศดีไปอีกแบบนึง One Day Tour ที่เราซื้อนี้จะมารับเราที่โรงแรม พาขึ้นรถ Mini Van หลัง
จากเที่ยวครบหมดตามโปรแกรมแล้ว ก็จะมาปล่อยเราลงที่โรงแรมตามเดิม จากนั้นเราเดินไปที่สถานีรถบัสเพื่อนซื้อตั๋วรถบัสกลับอิสตันบูล

          หลังจากกลับมาตอน 1ทุ่ม (Green Tour จะเริ่มตั้งแต่ 9.00-19.00) เราได้รับข่าวร้ายว่า บอลลูนยกเลิก เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี
ที่สำคัญคือตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ยังไม่มีใครสามารถขึ้นบอลลูนได้เลย ด้วยความผิดหวังอย่างแรง เพราะเราหวังกันไว้ตั้งแต่ตอนวางแผนมาเที่ยวตุรกี
ว่า จะขึ้นบอลลูนในตอนเช้าเพื่อชมเมือง Cappadocia จากบนท้องฟ้า เราถามบริษัทบอลลูนว่า ทำไมบอลลูนถึงขึ้นไม่ได้ เพราะฝนตกเหรอ
เพราะตั้งแต่เรามาที่ตุรกี ฝนตกเกือบทุกวัน บริษัทบอลลูนบอกว่า ไม่ว่าจะฝนตกหรือหิมะตก มันไม่เป็นอุปสรรคกับการขึ้นบอลลูนหรอก ที่บอลลูนขึ้น
ไม่ได้เพราะ ลมแรง ถ้าลมแรง เราจะไม่สามารถควบคุมบอลลูนได้ จึงอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

[juneing]

          เหตุการณ์ครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า เราวางแผนการเที่ยวได้ แต่เราไม่สามารถวางแผนสภาพอากาศได้ เพราะฉะนั้นการวางแผนเที่ยวทุกครั้ง
เราควรจะวางแผนสำรองเอาไว้ด้วย และควรจะมีประมาณ 2แผนเป็นอย่างน้อย เผื่อเกิดเหตุการณ์ผิดแผนที่1 เรายังมีแผนที่2 สำหรับแก้ขัดได้

          วันที่ 1 มกราคม 2558 ตื่นเช้าขึ้นมา หลังจากกินอาหารที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เราเก็บข้าวของเพื่อคืนนี้จะเดินทางกลับไปที่อิสตันบูล
จากนั้นฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่บริษัทรถบัส แล้วเดินมาฝั่งตรงข้ามเพื่อขึ้นรถเมล์ไป Uchisar กัน

          วันนี้ก็เป็นอีกวันที่อากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไรในการเที่ยว เพราะนั่งรถเมล์ไปถึง Uchisar เดินเที่ยวได้สักพัก ฝนเจ้ากรรมก็ตกกระหน่ำลงมา
ทั้งวิ่งทั้งหลบฝน มานั่งคิดๆก็ขำๆตัวเอง

[juneing]

          คนที่เมืองนี้ใจดีและเป็นกันเองมาก ตอนที่เราเดินๆ ถ่ายรูปๆอยู่ งงๆทางกันบ้าง ก็มีคนแถวนั้นยิ้มทักทายตลอด บางคนชวนเข้าไปในบ้าน
จุดเตาผิงให้ แถมเสริฟชา นั่งคุยกับเราอีกต่างหาก ของที่ระลึกที่สามารถเห็นได้ทั่วไปก็คือ Blue Eye หรือ Evil Eye ซึ่งคนตุรกีบอกว่ามันคือ
เครื่องหมายนำโชค ถ้าเรานำมันไปติดไว้ที่บ้าน หรือติดตัวไว้ เราก็จะโชคดี

[juneing]

          หลังจากเดินออกจาก Uchisar เราก็เดินออกมารอรถเมล์สายเดิม รอสักพักใหญ่ๆ รถก็มา เรานั่งไปลงที่ท่ารถจุดเดิมกับที่เรานั่งรถเพื่อมา Uchisar
แต่ด้วยอากาศไม่เอื้ออำนวยอีกแล้ว ฟ้าครึ้มตลอด เหมือนฝนจะตกอีกแล้ว แผนที่เราวางไว้ว่าจะเช่ารถจักรยานปั่นเที่ยวทั่วเมือง ก็เป็นอันต้องล้มพับไป
แต่ไม่เป็นไร เราเปลี่ยนจากปั่นจักรยานเป็นเดิน (กางร่ม) ทั่วเมืองเอาแทนละกัน หลังจากเดินเล่น ขึ้นเขาลงเขาหลายชั่วโมง จนหนำใจแล้ว เราก็มาที่ท่ารถ
เพื่อจะนั่งรถบัสกลับอิสตันบูลกัน คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายที่เราจะนอนบนรถบัส เรื่องหลังจากนี้เราจะต่อกันที่ Backpack เที่ยวตุรกี #ภาค2