ทริป จาก 4 มาเป็น 2 และจาก 2 มาเป็น 4

[Puripatt]

งง กันละซิว่า จาก 4 มาเป็น 2 และจาก 2 มาเป็น 4  มันคือทริปอะไร 555+

             เรื่องมีอยู่ว่าก็แค่ว่างครับ 24-26 ธ.ค. ไม่รู้จะไปไหน เห็นเพื่อนๆไปเที่ยวเชียงใหม่กันด้วยรถตู้ (4 ล้อ) ก็เลยขอตามไปด้วยเพราะเห็นมีที่ว่าง 1 ที่ ก้ขอติดรถไปด้วยและผมก็กายร่างเป็น มอเตอร์ไซค์ (2ล้อ) เพื่อเที่ยวตามจุดต่างๆ ที่นัดหมายกับสมาชิกกันไว้ 
วันเดินทางที่ 23 ธ.ค. 53 โดยรถมารับที่ สนง.ปตท. สำนักงานใหญ่ เวลา 20.00 น.จุดแรกที่ไปด้วยรถตู้ก้ดอยม่อนแจ่ม ที่มีสมาชิกในเว็ป เคยนัดกันไว้จะไปเที่ยวแต่ก็ต้องพลาดกันเพราะต่างคนต่างออกทริปหนีเที่ยวกัน 555 เมื่อสามชิกมากันครบแล้วก็เดินทางไปเชียงใหม่กันเลยตลอดทางก็นั่งเป็นเพื่อนคนขับรถครับ ไปตลอดทาง ดุหนังบนรถไปเรื่อง อยากนอนแต่นอนไม่หลับหรือเป็นเพราะอาการปวดขา เลยทำให้นอนไม่หลับ(ก่อนเดินทางไม่กี่ ชม. รถล้มมาครับ) แต่ก็ไม่ช่ายปัญหาครับ คนมันจะเที่ยว หยุดเราไม่ได้อยู่แล้วแค่ขาเจ็บ อิอิๆ  เดินทางไปถึงเชียงใหม่ราวๆ ตี 5 ได้ครับ แวะที่ ย่านตลาดสมเพชร ครับ เพื่อรอกินข้าวข้าวที่ร้านโจ๊ก แถวนั้นครับ แต่ไม่จำชื่อไม่ได้ ระหว่างรอ แอบงีบสักนิด ราวๆ ชม.ได้ ก็ต้องตื่นครับเพื่อไปกินข้าวเช้า ก่อนขึ้นดอยม่อนแจ่ม  เอ้า อิ่มท้องกันแล้วก็เดินทางไปม่อนแจ่มกันเลยครับ  รับชิมวิวที่ม่อนแจ่มกันได้เลยครับผม.....

[Puripatt]

ขอบอกว่าวันนั้นสวยมากที่ม่อนแจ่ม และก็ได้รับความรู้เพิ่มอีกหนึ่งอย่างว่าม่อนแจ่ม มีที่มาเป็นอย่างไร ม่อนแจ่ม คำว่า ม่อน หมายถึง เนินเขาเล็กไม่สูงมากๆ ส่วนแจ่ม เป็นชื่อของเจ้าของที่มีชื่อว่าแจ่ม  รวมกันเป็นม่อนแจ่ม สรุปคือ ยอดเขาเล็กๆตรงนั้นเป็นของคุณแจ่ม

[Puripatt]

ม่อนแจ่ม จ้า 

[Puripatt]

 

[jeena]

มาเล่าต่อเร็วๆ รออยู่จ้า

[Puripatt]

หลังจากที่ชื่นชมความสวยงามม่อนแจ่มเป็นที่อิ่มเอม กันเรียบร้อยเดินทางต่อกันเลย สถานที่ต่อไปที่จะไปกันคืองานดอกไม้บานของเชียง(จำชื่องานเต็มๆไม่ๆได้)อยู่ตรงข้าม สนาม 700 ปี เชียงใหม่ งานนี้ดอกไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ เพราะดูแล้วงานยังจัดไม่ค่อยจะเสร็จ ยังเตรียมงานกันอยู่เลยวันไปเที่ยว เลยได้รูปมาน้อย ใช้เวลาอยู่ที่นั้นประมาณ ชม. นิดๆ ก็ออกเดินทางไปที่ศูนย์วัฒน์ธรรม (ตลาดต้นโพธิ์) เพื่อทำการเปลี่ยนรถเป็นรถเมล์แดงซึ่งเราว่าจ้างไปข้างบนขุนช่างเคี่ยน และจัดแจงเตรียมเสบียง ไปนอนข้างข้างบน และเพื่อไปชมความงามมของดอกนางพญาเสื้อโคร่ง(หรือซากุระเมืองไทย) แต่ก่อนหน้านั้นเราได้รู้ข่าวมาว่า ดอกนางพญาฯไม่บานสักเท่าไหร่ เนื่องจากโดนฝนทำให้ดอกร่วงเกือบหมด แต่ก็ไม่เป็นไร ตั้งใจไปสัมผัสอากาศหนาว เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็เดินทางไปที่ขุนช่างเคี่ยนกันเลย ขึ้นไปถึงก็ได้รู้ว่า ข่าวที่ได้รับมาเป็นจริง ดอกไม้ไม่บานเลย บานเป็นบางต้น แต่ก็ยังดีครับที่มีให้เห็น  ถึงที่พักก็จัดแจงเข้าที่พัก เราจองบ้านพักกันไว้ คืนละ 700 บาท ถ้าจำไม่ผิดนะครับ พร้อมเครื่องนอน ผ้าห่ม ที่นอน ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะครับ  โอเคเลยครับสำหรับ รับสมาชิกได้ 10 คน ตกเย็นอากาศก็เริ่มเย็นๆ ลงๆ เรื่อยๆ ได้สัมผัสอากาศ หนาวแน่ๆ แล้วก็หนาวสมใจจริงๆ     จากนั้นก็ถึงเวลามือเย็นครับ อาหารที่เตรียมมาจากตลาดต้นโพธิ์ มื้อนี้เรา ต้องกินอาหารร้อนๆอย่างสุกี้ ซิครับ เพื่อดับความหนาว กินไปกับความอร่อยปะปนเสียงซี๊ดซาด ของความเผ็ดจากน้ำจิ่ม 555 ไม่ใช่หนาวนะครับ งานนี้ของชมเส้นบะหมี FF ที่ซื้อมาอร่อย จริงๆ ครับ ไม่เคยกินมาก่อนรู้เลยว่าอร่อยกว่าเส้นบะหมีกึ่งสำเร็จ หลายๆ ยี่ห้อ อีกครับ จากนั้นอิ่มหน่ำกันเรียบร้อยครับ ถึงเวลาที่ต้องอาบน้ำซิครับ นี่แหล่ะถึงเวลาวัดใจกันแล้วครับ ต่อให้มีเครื่องทำน้ำอุ่นก็เถอะ แต่เสียใจด้วยนะครับ เครื่องทำน้ำอุ่น ไม่สามารถทำน้ำให้อุ่นได้ จึงต้องอาบน้ำทั้งๆที่เย็นๆ นั้นแหล่ะครับ 555 สมาชิกอาบน้ำกันทุกคนครับ เยี่ยมมากๆ  จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้านอนครับ ราตรีสวสัดิ์

[Puripatt]

อาหารมือเย็นครับ/แม่ครัว ครับ

ดอกซากุระ หรือดอกบ้วย แยกไม่ออกเลย 

[Puripatt]

สวัสดียามเช้าครับ ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอน 6 โมงเช้า ก็ต้องตกใจ ทำไมไม่มีแสงพระอาทิตย์เลย กลับมีแต่แสงจันทร์ เสียดายครับ ไม่ได้หยิบกล้องออกมาถ่าย เนื่องจากอากาศหนาวมากๆ ขอยื่นนิ่งอยู่ใต้ผ้าห่มดีกว่า  แล้วสมาชิกก็ค่อยๆตื่น ตามๆกันครับ  จัดแจงทำธุระส่วนตัวกัน เรียบร้อยกินอาหารเช้า ไมต้องคิดมากเลยครับก็สุกี้ที่เหลือจากเมื่อคืนนี้ นั้นแหล่ะครับ หนาวๆ ก็ต้องเจอกับอาหารเช้าร้อนๆ พร้อมกับกาแฟร้อนอีกสักแก้ว ทุกอย่างพร้อมเก็บของออกจากบ้านพักกันเลยครับ และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาครับ ถ่ายรูปดอกนางพญาเสือโคร่ง เพราะมีแสงแล้ว เสียดายที่มาเยือนคราวนี้ไม่บานเท่ากับครั้งก่อน (รูปแรกเมื่อปี 51) (รูปที่ 2และ 3 เป็นปี 53) หลังจากถ่ายรูปได้พอสมครวก็เดินกลับลงมาที่ตลาดต้นโพธิ์ เช่นเดิมครับเพื่อทำการเปลี่ยนรถอีกครั้ง

[Puripatt]

หลังจากที่เดินทางลงมาถึงตลาดต้นโพธิ์ ก็ทำการเปลี่ยนรถ ย้ายสัมภาระกลับเข้ารถตู้อีกรอบ ตอนนี้แหล่ะครับกายร่างเป็นนักบิด จากที่นั่ง 4 ล้อ ขอคร่อม 2 ล้อท่องเที่ยวเชียงใหม่อย่างที่เคยทำๆมาตลอดเวลาไปเที่ยวเชียงใหม่ โดยไปดำเนินการเช่า 2 ล้อ ที่เลือกใช้ในการท่องเที่ยวครั้งนี้ ที่ร้าน POP ย่านประตูท่าแพ เป็นร้านประจำที่เช่าทุกครั้งเมื่อต้องการคร่อมเจ้า 2 ล้อเที่ยวเชียงใหม่ จากนั้นก็นัดแนะสมาชิกที่ไปกับรถตู้ กินข้าวที่ไหน ร้านไหน ไปเจอกันข้างหน้าเลยครับ จากนั้นมาเจอกันที่ปั๊ม ปตท. ทางไป อ.แม่ริม มื้อเที่ยงของวันนี้เราเลือกที่จะกินอาหารอีสานกันครับ จำชื่อร้านไม่ได้อีกแล้วครับ แต่รู้ว่าอยู่ตรงข้าม ปั๊ม ปตท. ทางไป อ.แม่ริม จากนั้นก็จัดการสั่งอาหาร ที่น่าประหลาดใจซิครับ อาหารที่สั่งไปมาครบทุกอย่างแต่ใช้เวลา เพียง 15 นาที่เท่านั้น ไม่ต้องบรรยายนะครับ คงเดากันถูกว่าเกิดอะไรขึ้น (ดูภาพ) แสดงว่าหิวกันแน่ๆ 

อิ่มแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกันต่อเลยครับ จุดหมายต่อไปครับ คือ ส่วนป่าวัดจันทร์ จากนั้นก็แยกย้ายกันครับ ถึงเวลาที่เราจะฉายเดี่ยวแล้ว
เจอกันที่ บ้านวัดจันทร์ (อ.กัลยาณิวัฒนา )นะครับๆๆๆๆๆ

[Puripatt]

    ถึงเวลาฉายเดี่ยว แต่ก็มิได้เดียวดายนะครับ เจอเพื่อนที่รัก 2 ล้อร่วมเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อนแต่เมื่อรัก 2 ล้อเหมือนกันก็เดินทางด้วยกันได้ ขับขี่ไปเรื่อยก็สอบถามกันระหว่างทางว่าจะเดินทางไปไหน จุดหมายของเพื่อนร่วมทาง ไป อ.ปาย ก็ไปทางเดียวกันนี่ครับไปด้วยกันไหมครับ ได้เลยครับ ระหว่างทางเพื่อนร่วมเดินทางขอแวะที่น้ำตกหมอกฟ้า เพื่อเข้าไปเยี่ยมชมน้ำตก ส่วนตัวผมขอแยกออกมาเพราะเคยเข้าไปแล้ว เลยขอมุ่งหน้าเดินทางต่อไปที่ น้ำพุร้อนโป่งร้อนเดือด แล้วกันนะครับ แล้วจะไปบ้านวัดจันทร์ต่อ 

[Puripatt]

บอกตรงๆ นะครับตอนที่แวะเข้าไปที่น้ำพุร้อนโป่งเดือด ไม่เคยเข้าไปเลย เคยแต่ขับรถผ่านเท่านั้น แต่พอเข้าไปก็ตกใจว่าทำไมน้ำพุไม่พุ่งเหมือนที่เคยเห็นตามภาพในเน็ทเลย หรือว่ามีน้ำแค่นี้จริงๆ  แต่ก็ไม่เป็นไรครับเข้ามาแล้วก็เดินดูรอบๆข้างหน่อยครับ ให้คุมค่ากับค่าเข้า 60 บาท ที่ทาง อช.เก็บแต่ก็ไม่เสียเที่ยวจริงๆครับ แต่ยังมีวิวที่ดอยม่อนเหลี่ยนให้ถ่ายรูปออกมาให้ชมกันครับ ไม่เคยเห็นอีกเหมือนกัน มีอยู่ด้วยเหรอ ชื่อดอยนี้ สวยดีครับ

[Puripatt]

                  จากนั้นก็เดินออกมากลับไปยังลานจอดรถ ถ่ายรูป2 ล้อ กับป้ายสักหน่อย เพื่อยืนยันว่าไปมาจริงๆๆๆๆ จากนั้นมุ่งหน้าต่อที่ บ้านวัดจันทร์ กันเลยครับ บิดยาวเลยครับที่นี้ รีบทำเวลาเพราะบ่าย 2 กว่าแล้ว เดี่ยวจะค่ำซะก่อนหากแวะไปเรื่อยๆ พอไปถึงแยกเข้าวัดจันทร์ ก็จอดรถรอสักพัก คาดว่ารถตู้ยังไม่น่าจะเข้าไปที่บ้านวัดจันทร์ รออยู่สัก 30 นาทีได้ ก็ไม่เห็นวี่แววว่าจะมีรถตู้ที่แยกกันมาเลยหรือว่าเข้าไปที่วัดจันทร์กันแล้ว เลยตัดสินใจเข้าบ้านวัดจันทร์ ดีกว่า ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะหิวด้วยเข้าไปหาอะไรกินที่บ้านวัดจันทรื ดีกว่า อีกตั้ง 50 กม. กว่าจะถึงวัดจันทร์ พอไปถึงบ้านวัดจันทร์ ก็หาอะไรกิน ผ่านไปสัก 47 กม. ก็พบกับป้าย อ.กัลยาณิวัฒนา 878 (หมายเลขด้านหลัง ถ้าจำไม่ผิดนะครับ คือ ลำดับอำเภอของประเทศไทย โดย อ.กัลยาณิวัฒนา 878 เป็น อ.ล่าสุดที่จัดตั้งขึ้นใหม่ของ จ. เชียงใหม่ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปบ้านวัดจันทร์ รอจน 4 โมงเย็น พยามยามโทรหาสมาชิกในรถตู้ก็โทรไม่ติด จะถามว่าอยู่ตรงไหนกันแล้ว มาถึงหรือยัง จนเริ่มโทรหาสมาชิกที่พอจะมีเบอร์ ที่ติดต่อได้ ในทีสุดก็ทราบว่าอยู่ที่ สวนป่าวัดจันทร์ เซ้งเลยครับ เราอุตสาห์รอที่ วัดจันทร์ เป็น ชม. การสื่อสารผิดพลาด เราเสียเวลาถ่ายรูปไปเป็นชั่วโมงเลย

[Puripatt]

สวนป่าวัดจันทร์

[Puripatt]

สวนป่าวัดจันทร์

[Puripatt]

     อยู่ที่สวนป่าวัดจันทร์ ได้สักเวลา 5 โมงเย็นก็เดินทางออกมากันครับ ซึ่งจริงๆคืนนี้เราต้องขึ้นไปนอนบนขุนแม่ยะ ซึ่งดูเวลาแล้วไม่ทันแน่นอน เลยต้องเปลี่ยนจุดหมายไปนอนที่ห้วยน้ำดังแทนแล้วกันครับ คืนนี้ และออกจากสวนป่าวัดจันทร์จุดหมายปลายทางต่อไปคือ อ.ปาย ครับเพื่อไปเติมน้ำมัน 2 ล้อ เจอกันที่ ปั๊ม ปตท. อ.ปาย นะครับ และหาข้าวกินกัน  ระหว่างทางขากลับถ่ายรูปกลับป้ายอีกรอบ ขี่ออกมาสักหน่อยเห็นแสงบนท้องฟ้าสวยดีแวะเก็บภาพสักรูปสองรูปดีกว่า อากาศก็เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ครับมือเริ่มจะเย็นบิดไม่ออกแล้วครับประกอบกับทางเป็นทางโค้งเลยค่อยๆขี่มาเรื่อยๆ จนไปถึง อ.ปาย เติมน้ำมันกันเรียบร้อย พักผ่อนนิดหน่อย เริ่มหาร้านอาหาร เพื่อทานข้าวเย็นกัน ได้ร้านอาหารร้านนี้เลยครับ ข้าวแกงเมืองเพชร ที่ปาย มาตั้งอยู่ หน้า สภอ.ปาย (มาตั้งอ.ปาย แต่กลับมากินข้าวแกง เมืองเพชร 555 )แต่ก็อร่อยดีครับ จากนั้นก็เริ่มคุยกันตามภาษา ระหว่างรออาหาร สมาชิกบางคนขอตัวไปเดินเล่นที่ ถนนคนเดินที่ ปาย เพราะบางคนยังไม่เคยมา สรุปเกือบจะทุกคนที่ยังไม่เคยมา 55 ส่วนผมนั่งรออยู่ที่ร้านข้าวครับ คุยกับทางเจ้าของร้านสอบถามเกี่ยวกับปายว่าเป็นยังไงบ้างช่วงนี้ นักท่องเที่ยวเยอะไหม อากาศเป็นไง คุยไปๆมาๆ เจ้าของร้านก็เล่าว่าไปห้วยน้ำดังมาเมื่อวานหนาวมากๆ ขี่มอไซค์ไปมากันสองคน สามีภรรยา เอ้าเข้าทางเราซิครับ อย่างนี้คุยกันยาว เจ้าของร้านก็เล่าว่าขี่รถไปเที่ยวที่นั้นที่นี้มา เอารถเก๋งจอดทิ้งไว้ใช้ซื้อของเข้าร้านเท่านั้น เล่าเรื่องเที่ยวกันอย่างสนุก แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอย่างเมามัน 555 ครับท่านสมาชิกที่ไปด้วยใครไม่อยู่ตอนนั้นอดฟังเรื่องฮาๆ นะ พี่เจ้าของร้านยังบอกเลยครับว่า ไปนอนที่ห้วยน้ำดังกันวันนี้ เตรียมตัวหนาวได้เลย  เตรียมมาสัมผัสอากาศหนาว ไม่กลัวอยู่แล้วครับ

[Puripatt]

     หลังจากนั่งคุยกับทางเจ้าของร้านข้าวแกง กินข้าวกันอิ่มได้สักพักก็ขอตัวลาพี่เจ้าของร้าน เพื่อไปนอนที่ห้วยน้ำดัง ที่ชอบที่สุดครับ พี่เจ้าของร้านพาไปดู 2 ล้อคู่ใจที่ใช้ในการท่องเที่ยวของพี่เค้า โอ้เห็นที่แรก ชมพี่เค้าเลยครับเก่งมากๆ เลย ผู้หญิงขี่ CBR 400 CC ปี 90 เจ๋งครับ 

(รูปเมนูอาหาร ร้านข้าวแกงเมืองเพชรที่ ปายครับ) ใครมีดอากาสไปแวะชิมได้นะครับ พี่เจ้าของร้านต้อนรับเป็นกันเองดีครับ

[Puripatt]

        หลังออกจากร้านข้าวแกง เราก็มุ่งหน้าสู่ อช.ห้วยน้ำดังกันเลยครับ เพื่อเข้าที่พัก และสัมผัสอากาศหนาวที่นั้นกันครับ พอไปถึงก็รีบกางเต็นท์กันเลยคับเพราะไปถึงก็ เกือบ 21.00 น. แล้วครับ หลังจากกางเต็นท์เสร็จก็ จัดแจงหาเครื่องดืม เย็นๆ พวกกับมาม่าร้อนๆ อีกแล้ว มาไล่ความหนาวที่ สมาชิกเค้าหนาวกันแต่ผมกับรู้สึกเฉยๆ กับอากาศ นั่งสวมเสื้อแขนสั้นอยู่คนเดียว 555 หรือว่าเรามันช้าชินกับอากาศหนาวแล้ว บางคนก็เริ่มง่วงขอตัวไปนอนกันก่อนเหลืออยู่ไม่กี่คนที่ยังคุยกันไปเรื่อยๆ ขอบอกว่าวันนั้นพระจันทร์ และดาวที่ห้วยน้ำดังสวยมากครับ ดวงโตมากๆ พระจันทร์ คืนนั้น เสียดายเก็บภาพมาฝากได้แค่รูปเดียว จากนั้นก็นั่งคุยไปเรื่อยๆ แล้วขอท้าลมหนาว อากาศเย็น ๆ ขอนอนนอกเต็นท์ครับกับสมาชิก 4 คนที่ นอนข้างนอกกัน  นอนได้ครับเพราะไม่ค่อยรู้สึกเลยว่าหนาว แต่พอตี 3 ซิครับอยู่ไม่ได้ครับ ขอเข้าไปนอนในเต็นท์ ดีกว่า หนาวแล้วครับ ลมแรง ทนไม่ไหว 555 เจอกันตอนตี 5 นะครับเพื่อไปดูทะเลหมอก และดูพระอาทิตย์ขึ้นครับ

[Puripatt]

     ตื่นๆได้แล้วครับ ตี 5 แล้ว ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันครับๆๆๆ เริ่มปลุกสมาชิกกันครับ บางคนก็ไม่ไปครับเพราะตื่นไม่ไหว ก็คนที่นอนตี 3 กันนั้นแหล่ะครับ 5555 
     เช้าวันนี้ทะเลหมอกคงไม่สวยแน่เลยครับเพราะลมแรงตั้งแต่เมือคืนนี้แล้ว แต่พระอาทิตย์ ต้องสวยแน่นอนครับ เพราะไปมาทุกครั้งสวยทุกครั้งครับที่ห้วยน้ำดัง  เอาเมื่อทุกคนพร้อมเดินไปขึ้นรถเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันได้เลยครับ

[Puripatt]

ว้าวๆๆๆสมกับการรอคอ พระอาทิตย์ขึ้นที่ห้วยน้ำดัง

[Puripatt]

ชุดใหญ่เลยครับ

[Puripatt]

หลังจากที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นห้วยน้ำดังกันจนพอใจ สมาชิกถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน แล้วก็เดินทางกลับมาที่ลานกางเต็นท์ เพื่อเก็บสัมภาระ เพื่อเดินทางออกจากห้วยน้ำดังไปยังขุนแม่ยะต่อ เพื่อดุดอกนางพญาเสือโคร่งที่ ไม่บาน 555 เป็นส่วนมาก และส่วนน้อยที่บาน ช่วงนนี้ยังคงเดินทางด้วย 2 ล้อ เช่นเดิมครับ ระหว่างทางออกมาจากห้วยน้ำดัง เห้นดอกพญาเสื้อโครงบานเต็มต้นอยู่หลายต้นเลย เอ้า แวะถ่ายรูปสักหน่อย เรามัน 2 ล้อจอดตรงไหนก้ได้อยู่แล้ว กดไปหลายภาพเลยครับ ขอบอกว่าสวยไม่แพ้ที่ไหนๆเหมือนกันนะครับที่ห้อวยน้ำดังสำหรับดอกนางพญาฯ ถ่ายรูปจนพอใจ คร่อม 2 ล้อเดินทางต่อไปที่แม่ยะครับ แต่ก่อนออกไปจากห้วยน้ำดังก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกับป้าย อช.ห้วยน้ำดังอันใหม่ครับ

[Puripatt]

       จากนั้นก็ซิ่งกัน ไปต่อที่ขุนแม่ยะกันเลยครับซึ่งไม่ไกลมาก 2 กม.จาก ทางเข้า อช.ห้วยน้ำดัง แวะเติมพลัง กับร้านอาหารที่ด่านตรวจ "แม่ยะ" เตรียมใจก่อนขึ้นขุนแม่ยะกับเส้นทางที่ไม่ธรรมดาเอาซะเลย นี่แหล่ะครับสาเหตุที่เอา 2 ล้อ มาเพราะต้องการความมันส์ตรงนี้แหล่ะ ทางขึ้นขุนแม่ยะถ้าท่านใดเคยไปแล้วก็คงจะพอทราบนะครับว่ามันเอาการอยู่นะ สำหรับ 2 ล้อแล้วนี้คือความมันส์ และท้าทายที่ คนรัก 2 ล้ออย่างเราต้องไปพิสูจน์  อิ่มท้องกันแล้ว เข้าห้องน้ำกันแล้ว สมาชิกที่เหลือก็ต้องเปลี่ยนรถไปขึ้นรถที่มีให้บริการขึ้นขุนแม่ยะกัน ส่วนผมฉายเดี่ยวอีกครั้ง กับ 2 ล้อ บ้าบิ่นไปคนเดียวครับ ขอบอกว่ามันส์มากครับกับทางขึ้นแม่ยะ เบาะมีแทบจะไม่ได้นั่งเลยครับขาขึ้น  ทางอย่างนี้ไม่ต้องนั้งครับ ขอบอกก่อนนะครับว่า ทั้งๆที่รู้ว่าด้านบนนนั้นดอกนางพญาเสือโคร่งไม่บานสักเท่าไหร่ ต่างจากที่เคยไปมาเมื่อปี 51 มากๆ ครั้งนั้นสวยงามๆบานทั้งภูเขา ส่วนครั้งนี้ก็เพราะเจอฝนกระหน่ำอีกรอบก่อนจะหนาว ดอกร่วงกันไปอีก แต่ยังดีครับที่บานให้เห็นบ้าง

[Puripatt]

แม่ยะ

[Puripatt]

   จากนั้นก็ถ่ายรูปที่ขุนแม่ยะกันสักพักที่ถึงเวลาที่ต้องลงจากขุนแม่ยะกันแล้วครับเพราะสายแล้ว ขอบอกว่าขาลงนี้มันส์กว่าขาขึ้นอีกครับ  พอลงมาถึงที่ด่านแม่ยะ ก็นัดแนะสมาชิกบนรถตู้ว่าเจอกันที่ ร้าน POP ที่เช่ารถมา จากนั้นก็บิดยาวรวดเดียวเลยครับ จากด่านแม่ยะ ถึงเชียงใหม่ ประตูท่าแพ ไม่ได้เก็บรูปข้างทางเลย เพื่อมุ่งตรงสู่เชียงใหม่โดยเร็ว ก่อนจะเลี้ยวเข้าตัวเมือง อ.แม่ริมขอเก็บภาพสักนิด มีโอกาสจะไปเที่ยวให้ได้ อ.เชียงดาว  พอถึงเชียงใหม่ก็ส่งมอบรถคืนที่ร้าน POP เรียบร้อย เดินเข้า 7-11 หาน้ำเย็นๆซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก และรถตู้ก็ตามารับที่ร้าน POP เป็นอีกครั้งที่ต้องกายร่าง จากนักบิด 2 ล้อ มาเป็นผู้โดยสารนั่ง 4 ล้อ เพื่อไปหาข้าวกลางวันกินกัน  มื้อกลางวันเช่นเดิมครับ อาหารอีสานอีกแล้ว  ก็ไม่ใช้ปัญหาครับ อาหารภาคไหนๆเราก็กินได้ หลังจากอิ่มท้องก็แวะซื้อของฝากที่ร้านวนัสนันท์ และก็มุ่งตรงสู่ กทม. ระหว่างทางก็ชมภาพยนต์บนรถ ผมเองก็นั่ง Coppy รูปให้กับสมาชิกบางคนที่ต้องการรูป หลังจากแจกรูปให้สมาชิกทุกคนจบ เรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้นครับ ภาพยนต์เรื่องแรกจบไป กะจะดูเรื่องที่ 2 ต่อ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่อง สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก ซึ่งก่อนหน้านั้น สมาชิกที่ไปด้วยบนรถตู้ บอกว่าทริปต่อไปจะไปที่แก่งกระจาน เพราะอยากไปถ่ายรูปกับสะพานที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ซึ่งผมก็ดูหนังเรื่องนี้มานานจนจำไม่ได้ว่าสะพานนี้อยู่ตรงไหน จนสมาชิชักชวนกันไปที่แก่งกระจานกัน เป็นทริปต่อไป

[Puripatt]

                            ส่วนผมขอจบทริปด้วยรูปนี้แล้วกันนะครับ เดี๋ยวไม่รู้ว่าไปกะ 2 ล้อจริงๆๆๆ ขอบคุณสมาชิกที่ถ่ายรูปนี้ให้นะครับ
และขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านครับ

                                                                      เป็นอันจบทริปครับ

[Chomphoo]

อ่านแล้วรู้สึกหนุกหนานด้วย ที่สำคัญภาพประกอบสวยทุกภาพเลยครับ

[Tommy]

จาก 4 เป็น 2 จาก 2 เป็น 4 มันเป็นอย่างงี้นี่เอง 

[piro]

เห็นมอไซค์ก็อยากไปมันส์ด้วยจริงๆ