ผู้เขียน หัวข้อ: คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด ตอนที่ 2  (อ่าน 20362 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 04:11:38 PM »
เส้นทางขับรถเที่ยวกาญจนบุรี

จังหวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งภูเขา อ่างเก็บน้ำ เขื่อน น้ำตก วัด ฯลฯ อย่างกาญจนบุรี ถ้าจะมาเที่ยวให้จบในเส้นทางเดียวคงจะเป็นไปไม่ได้ มาเที่ยวกาญจน์ต้องมาครั้งละหลายวัน แล้วก็ต้องมาหลายครั้งด้วย ถึงจะได้ชมความงดงามของสถานที่เหล่านี้ได้อย่างทั่วถึง พื้นที่แรกคงต้องพูดถึงตัวเมืองก่อนเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเบสิคสุดๆ สำหรับการขับรถเที่ยวเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เชี่ยวชาญการเข้าโค้ง ขึ้น-ลงเขา

ในตัวเมืองกาญจน์คงต้องเริ่มต้นที่วัดถ้ำเสืออย่างที่เอารูปมาให้ชมกันไปแล้วจากนั้นถึงค่อยขยับเข้าไปสถานีต่อไปสัญลักษณ์ของจังหวัดคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว ใช้เวลากับสะพานแห่งนี้ตามอัธยาศัย

สถานที่อีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำและควรจะต้องเข้าไปชมกันก็คือหอศิลป์และพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2 ชมหัวรถจักรโบราณ และโบราณวัตถุ หาความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรนานาชนิดที่เจ้าของอุทิศเวลาสะสมเอามาเก็บไว้ให้ลูกหลานได้เห็น

จากนั้นแล้วก็คงต้องถึงเวลาเลือกว่าจะไปเที่ยวเส้นทางไหนเพราะออกจากตัวเมืองขึ้นไปทางเหนือเส้นทางท่องเที่ยวของกาญจนบุรีจะแบ่งออกเป็น 2 เส้นทางหลักๆ ได้แก่ เส้นทางแรก ไปเขื่อนศรีนครินทร์ (แยกขวาตามทางหลวงหมายเลข 3099) ประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยวได้แก่

เขื่อนศรีนครินทร์


น้ำตกเอราวัณ เส้นทางจากเขื่อนศรีนครินทร์มีทางแยกเข้าน้ำตก มีน้ำตกสวยๆ ให้ชมหลายชั้นด้วยกัน ต้องใช้เวลาเดินชมน้ำตกพอสมควร


และยังมีเส้นทางเชื่อมต่อไปจนถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นได้ด้วย ปัจจุบันนิยมใช้การเดินทางด้วยแพมากกว่าที่จะขับรถไปเพราะใช้เวลานานเนื่องจากทางค่อนข้างลำบาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 10:29:27 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
Re: คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 10:28:03 PM »
เส้นทางขับรถเที่ยวกาญจนบุรีเส้นทางที่สอง จากตัวเมืองกาญจน์ ไปตามถนนแสงชูโต ยาวไปเรื่อยๆ ถนนสายนี้สามารถไปแยกเลือกได้อีกว่าจะไปสังขละบุรี หรือจะไประยะชิลๆ แค่ไทรโยคน้อย หรือถ้ามีเวลามากหน่อยจะไปสังขละบุรีก่อนแล้วค่อยมาเก็บโซนไทรโยคตอนขากลับก็ได้เหมือนกัน แต่ถ้าจะมาดื่มด่ำกับบรรยากาศของแต่ละที่ให้เต็มอิ่ม น่าจะแยกเป็นคนละทริปจะเหมาะกว่าจะได้ไม่ต้องเที่ยวแบบชะโงกทัวร์

เส้นทางสายนี้ผ่านจุดท่องเที่ยวสำคัญๆ หลายจุดได้แก่

วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เห็นชื่อนี้หลายคนถึงกับอึ้ง งง คือที่ไหนเหรอ มีความสำคัญยังไง วัดแห่งนี้ก็คือวัดที่มีเสือโคร่งอยู่มากมาย เดิมทีหลวงตามีเสือโคร่งที่ไม่ทำร้ายคนอยู่ หลังจากหลวงตามรณภาพไปแล้วเสือก็ยังอยู่ในความดูแลของผู้ดูแลเสือ แต่ระยะหลังๆ มีเสือเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่รู้จักของคนจำนวนมากทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทางวัดมีโครงการที่จะนำเสือกลับบ้านคือปล่อยสู่ป่า แต่การจะทำได้คงต้องใช้เวลานานพอสมควรอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ถัดไปอีกหน่อยจะมีทางแยกซ้ายมือไปถ้ำกระแซ ชื่อนี้ก็คงไม่รู้จักกันเท่าไหร่ แต่ถ้าบอกว่าไปทางรถไฟสายมรณะ ทุกคนคงร้องอ๋อ สถานที่แห่งนี้คงต้องใช้เวลาสักหน่อยถ้าจะรอให้รถไฟผ่านมาให้ถ่ายรูปเพราะรถไฟมาสายนี้เพียงไม่กี่เที่ยวต่อวัน

จากนั้นอีกไม่ไกลก็จะถึงน้ำตกไทรโยคน้อย เป็นน้ำตกที่เหมือนเป็นห้องรับแขกของเส้นทางท่องเที่ยวสายนี้ เพราะหลายคนใช้เป็นที่พักรถหาอาหารกลางวัน หรือไม่ก็แวะถ่ายรูปก่อนที่จะไปต่อ ลานจอดรถและแอ่งน้ำใสๆ ของน้ำตกไทรโยคน้อยจึงไม่เคยว่างเว้น

เดินทางต่อไปยังจุดหมายเข้าเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิจะมีที่เที่ยวธรรมชาติมากมายหลายแห่ง แต่ละแห่งต้องมีเวลามาก และต้องฟิตร่างกายมาบ้างพอสมควร อย่างเช่นเขาช้างเผือก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ สถานที่ท่องเที่ยวใน Dream Destinations 10 อันดับที่เที่ยวที่ต้องไป ในนามสะพานเมฆ เพราะทางเดินอยู่บนสันเขาเมื่อมีเมฆหมอกปกคลุมจะดูเหมือนว่าเราเดินอยู่บนเมฆได้ยังไงยังงั้น ถ้าสนใจจะมาพิชิตยอดเขาแห่งนี้ต้องจองวันเดินทางกับทางเจ้าหน้าที่ ติดต่อไปยังอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อน และควรวางแผนการเดินทางให้ดี ควรจะขับรถมาถึงที่ทำการอุทยานฯ ประมาณรุ่งเช้าจะได้เดินขึ้นได้ทันค้างบนเขา 1 คืน แล้วค่อยลงมา


เส้นทางท่องเที่ยวแนวผจญภัยในพื้นที่โซนนี้ยังมีอีก ถ้าเคยไปเขาช้างเผือกแล้ว หรือว่ายังจองวันขึ้นไม่ได้ ลองมาพิจารณาดูแนวผจญภัยอีกแห่งหนึ่ง แต่ออกจะหนักกว่าเขาช้างเผือก นั่นก็คือ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู อันนี้นอกจากเดินป่าแล้วยังต้องมีกระโดดน้ำตก ปล่อยตัวให้ล่องลอยไปกับกระแสน้ำ เข้าถ้ำชมเสาหินที่สูงที่สุดในโลก ฯลฯ การเดินทางไปยังลำคลองงูใช้เส้นทางเดียวกับทางไปสังขละแต่จะมีทางแยกขวาเข้าทางลูกรังไปตามป้ายก็จะถึงเอง


เส้นทางขับรถเที่ยวกาญจนบุรีเส้นทางที่ 3
เส้นทางที่ 2 ที่ผ่านมาดูเหมือนจะออกแนวผจญภัยไปนิด จนดูไม่เหมือนการขับรถเที่ยวสักเท่าไหร่ มาเส้นทางที่ 3 อีกสักทางดีกว่า เส้นทางนี้ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 2 เพียงแค่เปลี่ยนจุดหมาย จากการเดินป่าขึ้นเขา เราขับชิลๆ ไปเที่ยวสังขละบุรีกันดีกว่า

อันแรกเลยที่ต้องไปก็คือสะพานมอญ แม้ว่าตอนนี้จะขาดไปแล้วแต่ก็มีสะพานลูกบวบที่สวยไม่แพ้กัน ได้บรรยากาศไปอีกแบบ คงต้องรีบไปก่อนที่จะซ่อมสะพานมอญได้สำเร็จ ไม่งั้นไม่ทันสะพานลูกบวบแน่

ต่อมาอีกฟากของสะพานไม้ที่ยาวที่สุดของเรา ก็คือวัดวังก์วิเวการาม ชมความสวยงามของศาสนสถานที่ผสมผสานความเป็นไทยและมอญอย่างกลมกลืนเหนียวแน่นมีเวลาก็ต้องล่องเรือไปเที่ยวโบสถ์ใต้น้ำ

ก่อนจะกลับก็ต้องฟินกันต่ออีกหน่อยกับด่านเจดีย์สามองค์สุดแผ่นดินประเทศไทยแต่เพียงเท่านั้น

ระหว่างการเดินทางกลับก็ต้องลองเข้าไปชมวิวสวยๆ ที่ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม

แวะเก็บภาพสวยๆ ของทางน้ำที่ไหลบ่าลงจากเนินเขาเป็นแนวกว้างอย่างน้ำตกเกริงกระเวีย แล้วก็กลับกรุงเทพฯ ด้วยความสดชื่น


จบการเดินทางท่องเที่ยวกาญจนบุรีเพียงเท่านี้ และขอจบทริปคาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด ตอนที่ 2 เอาไว้เท่านี้ ติดตามต่อตอนหน้า อ้อ ถ้ายังไม่ได้อ่านตอนแรกก็รีบคลิกเข้าไปอ่านก่อนเลยนะครับเดี๋ยวจะไม่ต่อเนื่อง คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง

เส้นทางคาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด ตอนที่ 3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 05, 2014, 11:26:55 AM โดย admin »