ผู้เขียน หัวข้อ: คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง 19 จังหวัด  (อ่าน 21219 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เช้าวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา นายสมชาย ชมภูน้อย เปิดโครงการคาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง เที่ยวหลากหลายสไตล์ภาคกลาง 19 จังหวัด โดยการนำคณะเจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 8 สำนักงาน ที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ 19 จังหวัดภาคกลาง และคณะสื่อมวลชนหลากหลายสำนัก ออกเดินทางตามเส้นทางท่องเที่ยว 19 จังหวัด ใช้เวลา 6 วัน คือระหว่าง วันที่ 18 - 23 มกราคม 2557 โดยออกเดินทางจาก อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เวลา 9.00 น.

    วัดถุประสงค์เพื่อเป็นการนำเสนอเส้นทางขับรถเที่ยวตอบสนองนโยบายรถคันแรกของรัฐ เมื่อประชาชนมีรถเพิ่มขึ้นก็จะมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมากขึ้น และด้วยเหตุนี้เส้นทางการท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจจากนักเดินทางที่แสวงหาที่เที่ยวพักผ่อนของครอบครัว มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปจังหวัดไกลๆ อย่างภาคเหนือและภาคใต้ แต่ก็มีนักเดินทางจำนวนมากเช่นกันที่นิยมหาสถานที่เที่ยวใกล้ๆ เพื่อความสะดวก และลดเวลาในการเดินทาง แหล่งท่องเที่ยวใน 19 จังหวัดภาคกลางที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์จึงควรได้รับการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ที่จะโตขึ้นในอนาคตอันใกล้ สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเหล่านี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าในจังหวัดที่อยู่ห่างไกล ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร ท้องทะเลสดใสสวยงาม หรือแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ไปจนถึงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 8 สำนักงาน และคณะสื่อมวลชนร่วม 100 ชีวิตจึงได้ร่วมเดินทางในคาราวานขับรถเที่ยวครั้งนี้ เพื่อนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแต่ละจังหวัดออกสู่สายตานักท่องเที่ยว

    ทัวร์ออนไทยดอทคอมในฐานะสื่อมวลชนด้านการท่องเที่ยวในประเทศก็มีโอกาสได้ร่วมเดินทางในคาราวานครั้งนี้ จึงได้นำเอาภาพสวยๆ จากสถานที่ต่างๆ 19 จังหวัดมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ออกเดินทางจากสำนักงานในกรุงเทพฯ สถานที่แรกที่อยู่ในโปรแกรมการเดินทางและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกเลือกให้เป็นเหมือนตัวแทนของจังหวัดฉะเชิงเทรา ก็คือวัดสมานรัตนาราม  ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นสำหรับใครหลายคน แต่ถ้าบอกว่าไปสักการะพระพิฆเนศ หลายคนก็คงร้องอ๋อ พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข องค์ใหญ่สีชมพูอยู่ริมแม่น้ำ เป็นภาพที่หลายๆ คนได้เห็นผ่านสื่อต่างๆ มากมายในระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่สร้างเสร็จ นั่นเป็นเหตุให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาแสวงบุญขอพรพระพิฆเนศที่นี่กันเป็นจำนวนมากอย่างไม่ขาดสายในแต่ละวันไม่เว้นแม้แต่วันธรรมดาที่เราคิดว่าคนน่าจะน้อยแต่เปล่าเลย ประชาชนทั้งใกล้และไกลเดินทางมาขอพรพระพิฆเนศเนืองแน่น การได้สัมผัสพระพิฆเนศ 32 ปาง แต่ละปางให้พรแตกต่างกันไป กระซิบหูหนูที่ฐานพระพิฆเนศเพราะเชื่อว่าจะได้ดังที่ปรารถนา นอกจากนั้น ยังมีพระโพธิสัตว์กวนอิมที่พึ่งทางใจของชาวไทยหลายล้านคนซึ่งสร้างเป็นองค์ใหญ่เด่นตระหง่านภายหลังจากที่สร้างพระพิฆเนศเสร็จหลายปี และยังได้ร่วมทำบุญกับการสร้างองค์พระพรหมองค์ใหญ่ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุกลางน้ำที่อาจจะนับว่ามีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยก็ว่าได้ เวลาเพียงสั้นๆ ที่ทัวร์ออนไทยไม่ได้มาสักการะพระพิฆเนศที่นี่ หลายสิ่งหลายอย่างในวัดก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าอัศจรรย์เหมือนดังเนรมิต

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดฉะเชิงเทราเองก็มีอยู่มากมาย เพื่อให้การเดินทางของเราเป็นทริปที่คุ้มต่า ลองดูว่าเราแวะที่ไหนได้บ้าง เดี๋ยวเราให้ชมสถานที่ที่ควรจะแวะในฉะเชิงเทราเรียกว่าเป็นระดับท๊อปเลยก็แล้วกัน
ดูจากแผนที่ท่องเที่ยวในพื้นที่สำคัญๆ ของจังหวัดจะมีถนนสายหลักๆ ตามนี้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 12, 2014, 11:03:31 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เห็นมั้ยครับว่าที่เที่ยวในฉะเชิงเทราที่สวยๆ มีเยอะขนาดไหน แล้วจะวางแผนเที่ยวยังไงดีละ ผมลองเสนอไอเดียง่ายๆ เอาแบบวันเดียวจบมาให้แบบนี้ครับ

เส้นทางขับรถเที่ยวฉะเชิงเทรา

ถ้ามาแนะนำว่าควรเป็นเสาร์-อาทิตย์ หรือไม่ก็วันหยุดนักขัตฤกษ์ (ซึ่งปกติก็คงจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว) ทั้งนี้เพราะว่าตลาดหลายๆ แห่งเปิดเฉพาะวันหยุดถ้ามาวันธรรมดาตลาดต่างๆ จะไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายเดี๋ยวจะไม่มีอะไรกิน
ถ้ามาจากกรุงเทพฯ เดินทางมาฉะเชิงเทราได้หลายทางด้วยกัน อย่าง
    - สุวินทวงศ์เข้าตัวเมือง
    - ลาดกระบังผ่านตลาดคลองสวน 100 ปี เลี้ยวซ้ายไปเมืองฉะเชิงเทรา
    - สุขุมวิทสายเก่าผ่านวัดหงษ์ทอง ตรงไปบรรจบถนนบางปะกง - ฉะเชิงเทรา ถึงตัวเมือง

    ช่วงเช้ามาถึงแรกๆ ก็แวะตามจุดที่น่าสนใจตามเส้นทาง ถ้ามาลาดกระบัง ทางหลวงหมายเลข 3001 แวะตลาดคลองสวน 100 ปี

    ถ้ามาสุขุมวิท แวะวัดหงษ์ทองที่รอยต่อจังหวัดสมุทรปราการ - ฉะเชิงเทรา ชมเจดีย์และโบสถ์กลางทะเล

    ถ้ามาถนนสุวินทวงศ์ถึงตัวเมือง

    แล้วนมัสการหลวพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร

    จากนั้นขับออกมาจากวัดไปทางถนน บางปะกง - ฉะเชิงเทรา เลี้ยวซ้าย ถึงแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายอีกทีไปทางพนมสารคาม ถึงทางแยกเลี้ยวซ้าย (สังเกตุว่าจะมีป้ายบอกตลอดทาง) ไปไหว้พระพิฆเณศเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ ที่วัดสมานรัตนาราม ออกจากวัดเลยไปพักผ่อนชมวิว ที่เขื่อนทดน้ำบางปะกง

    ออกจากเขื่อนย้อนออกมาทางเดิม จนถึงถนนที่จะไปพนมสารคาม ไปเลี้ยวซ้ายที่แยกอำเภอบางคล้า เที่ยววัดโพธิ์บางคล้าชมค้างคาวแม่ไก่ฝูงใหญ่ที่อยู่คู่วัดแห่งนี้มานานหลายปี หรือถ้ารู้สึกหิวไปเที่ยวตลาดน้ำบางคล้าก่อน เพราะตลาดแห่งนี้ถ้าถึงช่วงบ่าย 3 โมง ตลาดจะเริ่มวาย พ่อค้าแม่ค้าขายของหมดแล้วจะเก็บร้านกลับบ้าน

    ออกจากตลาดน้ำบางคล้า หรือวัดโพธิ์บางคล้าก็แล้วแต่ ให้ขับตามเส้นทางไปยังอนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

    จากนั้นก็เดินทางต่ออีกนิดเข้าวัดปากน้ำโจ้โล้ชมอุโบสถสีทองทั้งหลัง

    ถ้ายังพอมีเวลาให้เข้าไปไหว้พระพิฆเณศปางยืนหล่อด้วยทองสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

    ปิดท้ายของวันที่ตลาดบ้านใหม่ ไม่ต้องย้อนไปออกตามเส้นทางที่เข้ามา มีถนนอีกสายที่เข้าเมืองฉะเชิงเทราได้ เรียกว่าถนน บางตลาด - สวนปาล์ม ตลาดบ้านใหม่เป็นตลาดยามเย็นเหมาะสำหรับมื้อค่ำอย่างมีความสุข

    ทริปนี้เปี่ยมไปด้วยบุญกุศล และความอิ่มใจกับธรรมชาติลุ่มน้ำบางปะกง

    ยังไม่พอ ถ้ายังไม่เหนื่อย หรือยังไม่อยากตรงกลับบ้าน ให้เหลือเวลาช่วง 6 โมงเย็น ถึง หนึ่งทุ่ม เอาไว้ไปถ่ายรูปกับพระอุโบสถที่สวยงามที่สุดของฉะเชิงเทรา วัดโสธรวรารามวรวิหารกันอีกรอบ

    * ทางเลือก สำหรับคนที่เดินทางมาทางลาดกระบังและสุวินทวงศ์ ที่ยังไม่ได้แวะวัดหงษ์ทองในตอนเช้าขามา จะลองไปชมวิวพระอาทิตย์ตกที่วัดหงษ์ทองติดไม้ติดมือด้วยก็ได้ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 10:34:04 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด จังหวัดที่ 2 เที่ยวสมุทรปราการ

    สมุทรปราการนับเป็นจังหวัดพี่จังหวัดน้องกับฉะเชิงเทรา อย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อของทั้งสองจังหวัดที่มีมายาวนานก็คือ ตลาดคลองสวน 100 ปี ที่พูดถึงไปแล้วในช่วงแรกขับรถเที่ยวฉะเชิงเทรา นอกจากมีพื้นที่เชื่อมต่อกับฉะเชิงเทราแล้ว สมุทปราการยังเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกับกรุงเทพฯ มีที่เที่ยวมากมาย สำหรับขบวนคาราวาน ขับรถเที่ยว 19 จังหวัดภาคกลาง นำคณะสื่อมวลชนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณซึ่งอยู่บนถนนสุขุมวิทตามเส้นทางจากบางนามุ่งหน้าตัวเมืองสมุทรปราการ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ปากน้ำ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ

    ส่วนบนของตัวช้าง เฉพาะส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ 100 ตัน ลำตัวช้างหนัก 150 ตัน สูง 29 เมตร กว้าง 12 เมตร และยาว 39 เมตร ตัวช้างออกแบบให้เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัตถุมีค่า เช่น ภาพวาดสีฝุ่นรูปจักรวาล พระพุทธรูปปางลีลา บริเวณท้องช้างปูด้วยไม้มะเกลือสีออกดำ

    ส่วนล่างของตัวช้าง เป็นฐาน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก อาคารศาลามีความสูง 14.60 เมตร กระจายน้ำหนักตัวช้างด้วยคานวงแหวนรอบนอกและรอบในบนอาคาร ถ่ายน้ำหนักลงเสาแปดเสาภายนอกและสี่เสาภายในอาคารศาลาการตกแต่งภายในเป็นการผสมผสานศิลปะหลากหลายรูปแบบ เช่น การใช้กระจกสีแบบศิลปะตะวันตก, เครื่องเบญจรงค์สลับลวดลายสอดสี, การดุนโลหะบนแผ่นดีบุกของช่างเมืองนครศรีธรรมราช และรูปปั้นโบราณชนิดต่าง ๆ อาทิ คนธรรพ์บรรเลงดนตรี รูปพญานาค ของช่างเมืองเพชร

    ส่วนชั้นใต้ดินที่เรียกว่า ชั้นบาดาล เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการและโบราณวัตถุจำนวนมาก อาทิ พระพุทธรูป เทวรูปสมัยต่าง ๆ และเครื่องลายครามของจีน ระเบียงรอบนอกตัวอาคารประกอบด้วยซุ้มแปดซุ้ม รอบพิพิธภัณฑ์เป็นอุทยานพรรณไม้ในวรรณคดี และพันธุ์ไม้หายากจากทุกภูมิภาคของประเทศ มีงานประติมากรรมลอยตัวเรื่อง รามเกียรติ์ วางเรียงรายล้อมรอบอาคาร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 10:36:28 PM โดย jai »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เมื่อเข้ามาถึงจังหวัดสมุทปราการกันแล้ว เรามาลองดูกันว่าจังหวัดนี้มีอะไรน่าเที่ยวกันบ้าง แผนที่ท่องเที่ยวสมุทรปราการ ด้านล่างนี้ครับ
ที่เที่ยวเด่นๆ ในจังหวัดสมุทรปราการที่อย่างน้อยควรจะไปให้ได้สักครั้งมีดังนี้ครับ
  • ตลาดบางน้ำผึ้ง
  • พระสมุทรเจดีย์
  • พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
  • ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการ
  • เมืองโบราณ
  • บางปู
  • วัดบางพลีใหญ่ใน
  • วัดบางพลีใหญ่กลาง

ส่วนที่อื่นๆ ก็มีน่าสนใจอีกเยอะครับ เอาแบบเบาะๆ เท่านี้ก่อน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 13, 2014, 12:06:36 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เส้นทางขับรถเที่ยวสมุทรปราการ ผมขอยกตัวอย่างแบบนี้ครับ เอาไปทำตามได้ ชอบไม่ชอบอย่างไหนก็เพิ่มลดเอาตามสะดวกครับ แบบเที่ยววันเดียวนะครับ

เช้าเดินทางจากกรุงเทพฯ เข้าตลาดบางน้ำผึ้ง เพราะที่นี่เป็นตลาดเช้าครับ คนจะมามากตอนสายๆ แล้วจะวายประมาณหลังเที่ยง

จากนั้นเดินทางไปพักผ่อนกันที่สวนสาธารณะที่ใหญ่และสวยที่สุดในย่านนี้ คือสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ ในพื้นที่คอกหมู จึงทำให้ที่นี่มีโอโซนในปริมาณมาก เหมาะแก่การพักผ่อนและการออกกำลังกาย


นอนในสวนสักตื่น แล้วออกเดินทางข้ามแม่น้ำแล้วมาตามถนนสุขุมวิท เข้าพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ในนี้ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่แฝงด้วยคติความเชื่อทางศาสนา สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน (ภาพอยู่ด้านบน)

เสร็จแล้วเข้าชมฟาร์มจระเข้ จะให้ดีควรมาก่อนเที่ยงให้ทันชมการแสดงมีทั้งโชว์จระเข้ที่โด่งดังไปทั่วโลก และโชว์ช้าง แล้วก็ชมช้างวาดรูป

ออกจากฟาร์มจระเข้ ไปตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่เมืองโบราณ ที่ที่ทำให้เราได้เที่ยวทั่วประเทศได้ในวันเดียว เพราะที่นี่มีสิ่งสำคัญๆ ของไทยจำลองเอาไว้ มีแม้กระทั่งเขาพระวิหารเลยละครับ เหมาะสำหรับการปั่นจักรยานเที่ยวครับจะได้ไปได้ทั่วถึง


ตกเย็นจะไปไหนเป็นไม่ได้นอกจากสถานตากอากาศบางปูชมนกนางนวลอพยพ ให้อาหารนกแบบใกล้ชิดที่สุด ชมพระอาทิตย์ตกดินกับวิวทะเลสวยๆ ที่เรียกว่าสวยที่สุดในจังหวัดก็ว่าได้ครับ

สำหรับสถานที่สำคัญๆ อีก 2 แห่งที่คงต้องเอาไว้อีกวันหนึ่ง ก็คือ วัดบางพลีใหญ่ใน สักการะหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสมุทรปราการ

แล้วก็ไปต่อที่วัดบางพลีใหญ่กลาง พระนอนที่ใหญ่ที่สุดภายในองค์พระมีห้องปฏิบัติธรรม ถึง 4 ชั้น ด้วยกัน (คิดดูสิครับว่าใหญ่ขนาดไหน) นอกจากนั้นก็ยังมีหัวใจพระพุทธอยู่ด้านในตรงพระอุระ ให้สักการะปิดทองด้วย


ที่จริงวัดทั้งสองก็ไม่ได้อยู่ไกลมากแค่อำเภอบางพลีนี่เอง แต่ถ้าขับตามโปรแกรมที่ผมเขียนไปไม่ทันหรอกครับ ส่วนใครสะดวกจะสลับสับเปลี่ยน อย่างเช่นไม่เอาสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ กับตลาดบางน้ำผึ้ง เปลี่ยนเป็นวัดบางพลีใหญ่ในกับตลาดโบราณบางพลี อย่างนี้แทนก็ได้เหมือนกัน

อีกสถานที่หนึ่งที่นับว่าเป็นปูชนียสถานสำคัญประจำจังหวัด ที่ว่ากันว่าไม่มาที่นี่เหมือนไม่ถึงสมุทปราการก็ว่าได้ นั่นก็คือ พระสมุทรเจดีย์ครับ ที่นี่คงแล้วแต่ความสะดวก ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยมาก็ได้ จะให้ได้มาให้ตรงกับงานพระสมุทรเจดีย์เวียนเทียนรอบพระเจดีย์เพื่อความเป็นสิริมงคลครับ


เป็นไงครับ คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลางทั้ง 2 จังหวัด อิ่มเลยใช่มั้ยละ ใกล้กรุงแค่นี้ยังมีดีที่เราไม่รู้อีกมาก หลงรักประเทศไทย ตกหลุมรักเที่ยวภาคกลาง โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และทีมงานทัวร์ออนไทยดอทคอม สรรหามาฝากลองออกจากบ้าน มาหลงรักเที่ยวภาคกลางกันสักครั้งแล้วจะติดใจครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 09:52:11 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
กลับมาพบกันอีกครั้งกับเรื่องราวเส้นทางพิชิต 19 จังหวัดภาคกลางด้วยการขับรถเที่ยวตลอดความยาวของเส้นทางทั้งหมด ประมาณ 1500 กิโลเมตร ในเวลา 6 วัน กับภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำโดย นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยคณะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานต่างๆ ในพื้นที่ 19 จังหวัด

    หลังจากที่พิชิตเส้นทางขับรถเที่ยว 2 จังหวัด ในตอนแรกที่เขียนถึง เส้นทางขับรถเที่ยวฉะเชิงเทรา - สมุทรปราการ ไปแล้ว ตอนนี้ จะพูดถึงจังหวัดที่ขึ้นต้นด้วยสมุทร อีก 2 จังหวัด นั่นก็คือ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม

    จากพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เดินทางข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยทางด่วนวงแหวนอุตสาหกรรม เข้าเขตจังหวัดสมุทรสาคร สถานที่ที่เราจะเข้าไปชมกันในวันนี้ก็คือ โรงงานผลิตน้ำจิ้ม ชื่อก้องโลก เพราะส่งออกขายถึงต่างแดนในหลายๆ ประเทศ น้ำจิ้ม ตรา พันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเปิดโรงงานให้เข้ามาเที่ยวชมการผลิตได้ มีคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ถึงแนวคิดการผลิตน้ำจิ้มส่งออกที่ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็เห็นว่าเป็นความคิดที่แสนจะตลกและเป็นไปไม่ได้

    เข้ามาในโรงงานแล้ว ชาวคณะก็ได้เดินชมภายในโรงงาน ก่อนหน้านั้นต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนด้วยการสวมชุดคลุมตามกฏระเบียบ เดินชมโรงงานเสร็จแล้วก็ขึ้นไปที่ห้องประชุมชั้น 4 ที่นี่เราจะได้พบกับ นาย สุนทร วัฒนาพร ผู้บริหาร บริษัท อุตสาหกรรมพันท้ายนรสิงห์สินค้าพื้นเมือง จำกัด ที่มีโรงงานตั้งอยู่บนถนนพระราม 2

    นาย สุนทร วัฒนาพร ผู้สืบทอดกิจการตราพันท้ายนรสิงห์มาจากรุ่นบิดา มารดา คุณสมศักดิ์ และ คุณสุรีย์ วัฒนาพร ได้กล่าวย้อนหลังเล่าความเป็นมาของธุรกิจ ว่าเริ่มต้นตั้งแต่คุณพ่อ-คุณแม่ ขายกาแฟอยู่หน้าโรงหนังกิจการก็พอไปได้ แต่วันหนึ่งเกิดเหตุไฟไหม้โรงหนัง ร้านกาแฟที่เป็นเหมือนสถานประกอบการเลี้ยงชีวิตคนในครอบครัวก็หายไปในกองเพลิง ครอบครัวตัดสินใจไปขายข้าวเกรียบกุ้งในแพ ให้กับเรือที่ผ่านไปผ่านมา แล้วหาทางขยับขยายขนข้าวเกรียบไปขายตามสถานีรถไฟ จนถึงกับขนขึ้นรถไฟมาลงวงเวียนใหญ่ขนต่อไปขายที่สนามหลวง ข้าวเกรียบที่ขายก็ได้มีการทดลองทำรสชาตใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ วันหนึ่งมีลูกค้าที่มาซื้อข้าวเกรียบถามว่า มีน้ำจิ้มที่จิ้มกับข้าวเกรียบไหม ไอเดียการทำน้ำพริกเผาก็เกิดขึ้น จนพัฒนาขึ้นมาเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือนเล็กๆ เริ่มมีตราสินค้าเป็นของตัวเอง แต่ก่อนไม่ได้ชื่อพันท้ายนรสิงห์ แต่ใช้ชื่อสุวรรณหงษ์ แล้วมาเปลี่ยนทีหลังเพราะพบว่ามีเจ้าอื่นใช้ชื่อนี้อยู่ก่อนแล้ว น้ำพริกพันท้ายนรสิงห์ไปปรากฏตัวอยู่ตามงานวัดงานกาชาดต่างๆ ด้วยความอุตสาหะ แบกน้ำจิ้มน้ำพริกเหล่านี้ไปวางขายในงาน ดึงดูดลูกค้าด้วยการให้ทดลองชิม กลายเป็นการตลาดแบบปากต่อปากจนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในสมัยนั้น คู่แข่งที่ทำสินค้าตัวนี้ก็ยังไม่มี นี่เองที่มาของธุรกิจน้ำจิ้มไก่ส่งออก ระหว่างการทำการตลาดเอาน้ำจิ้มไปต่างประเทศ อุปสรรคต่างๆ ก็ยังมีอยู่อีกมาก เรื่องราวที่ คุณสุนทร เล่ายังมีอีกเยอะแต่เราคงไม่เอ่ยถึงรายละเอียดมากขนาดนั้น ถ้าสนใจศึกษาเรื่องราวประวัติคุณสุนทร ลองเข้าไปอ่านที่ เส้นทางเศรษฐี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 09:52:56 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เข้ามาถึงเขตจังหวัดสมุทรสาคร ก็เลยอยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดนี้กันสักหน่อย ถ้ามีเวลาเข้ามาเที่ยวจะได้รู้ว่าควรจะไปที่ไหนกันมั่ง

จังหวัดสมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงทั้งทางด้านอุตสาหกรรมและการประมง ด้านการท่องเที่ยวคนทั่วไปอาจจะไม่รู้จักเท่าที่ควร แต่ที่นี่กลับมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอยู่มากมายในแต่ละอำเภอ โดยเฉพาะในตัวเมือง เป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่กรับ วัดโกรกกราก เป็นพระพุทธรูปที่ชาวบ้านศรัทธาอย่างมาก ถ้าได้ไปลองไปศึกษาดูว่าทำไมพระพุทธรูปองค์นี้ถึงต้องใส่แว่นดำ

แผนที่เส้นทางขับรถเที่ยวสมุทรสาคร เราเตรียมไว้ให้แล้ว ภาพแรก สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในจังหวัด ส่วนภาพที่ 2 ขยายแผนที่เที่ยวสมุทรสาครในตัวเมือง

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ตัวอย่างเส้นทางขับรถเที่ยวสมุทรสาคร เท่าที่เคยไปมา หลายสถานที่ที่เห็นว่าน่าไปเลยเอามาแนะนำให้เป็นเส้นทางขับรถเที่ยวแบบสบายๆ แล้วแต่สไตล์ของแต่ละครอบครัวครับ

ออกจากกรุงเทพฯ ทางพระราม 2 มุ่งหน้าสมุทรสาคร ก่อนจะถึงตัวเมืองจะมีทางแยกซ้ายมือเข้า อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ อันเป็นสถานที่ขึ้นชื่อของเมืองมหาชัยแห่งนี้ ด้วยความซื่อสัตย์จงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์ ชื่อจึงจารึกมาชั่วลูกชั่วหลาน จนกระทั่งเร็วๆ นี้ก็มีการจัดงานนครแห่งความซื่อสัตย์ จดทะเบียนสมรสที่ศาลพันท้ายนรสิงห์ด้วย

ขับย้อนออกมาถนนพระราม 2 มุ่งหน้าไปทางตัวเมืองสมุทรสาคร เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ชมวิวท่าน้ำมหาชัย ชิมอาหารทะเลอร่อยๆ แล้วไปวัดป้อมวิเชียรโชติการาม

ขับออกมาจากวัดกลับมาทางศาลหลักเมืองถึงถนนเศรษฐกิจ 1 (ทางหลวงหมายเลข 3001) อันเป็นถนนสายหลักของเมืองมหาชัย เลี้ยวซ้ายไปเลี้ยวขวาที่แยกไฟแดง ถนนนรสิงห์ ผ่านวงเวียนตรงไปเรื่อยๆ จนถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวาอีกที ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะถึงวัดโกรกกราก วัดประจำจังหวัดสมุทรสาครก็ว่าได้ มาที่นี่ไม่มาสักการะหลวงพ่อวัดโกรกกรากก็เหมือนมาไม่ถึงสมุทรสาคร

ย้อนมาที่ถนนพระราม 2 เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายท่าฉลอม เดินทางไปยังวัดสุทธิวาตวราราม หรือวัดช่องลม ตั้งอยู่ฝั่งท่าฉลอม พบกับความมหัศจรรย์ของนกนางแอ่นที่เข้ามาอาศัยทำรังอยู่ในวิหารจำนวนมาก แวะสักการะอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมที่อยู่ใกล้ๆ กัน


ขับรถย้อนออกจากท่าฉลอม กลับมาที่ถนนพระราม 2 เลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปทางสมุทรสงครามพอเห็นปั๊มปตท. ก็หาที่กลับรถ แล้วจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนที่ชื่อคันพนัง จะมีป้ายบอกทางไปตลาดริมคลองอำแพง หรือถ้ามี GPS ค้นหาวัดสุนทรสถิต ที่นั่นจะมีตลาดนัดอาหารอร่อยบรรยากาศริมคลองร่มรื่น เปิดบริการเสาร์ อาทิตย์ สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีการแสดงให้ชมฟรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ โทร.034-883026, 086-706-0002, 089-837-2327

ออกจากคลองอำแพงถ้ายังมีเวลา แวะไปไหว้พระอีกสักวัดสองวัด มีให้เลือกหรือจะไปทั้งสองวัดก็ตามสะดวก วัดแรกคือวัดนางสาว เป็นวัดที่สวยงามมาก มีเรื่องเล่ากันว่า เมืองสาครบุรี คือ เมืองชายทะเลตอนใต้ของกรุงศรีอยุธยา เมื่อเกิดสงครามในพม่าชาวไทยกลุ่มหนึ่งได้อพยพหนีมาตามริมแม่น้ำท่าจีน คนชราและผู้หญิงได้พากันไปหลบซ่อนในโบสถ์เก่า ต่อมาคนไทยได้ช่วยกันต่อสู้กับทหารพม่าจนได้รับชัยชนะ และผู้ที่อพยพมาได้ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนั้น ในกลุ่มนี้มีสองพี่น้องที่เคยอาศัยโบสถ์หลบหนีภัย ทั้งสองมีความคิดที่จะบูรณะโบสถ์ใหม่ แต่พี่สาวเห็นว่าโบสถ์ทรุดโทรมมากจึงไปสร้างวัดใหม่แทน น้องสาวต้องการทำตามสัจจาธิษฐานของตนว่าถ้ารอดตายจะบูรณะซ่อมแซมโบสถ์ จึงดำเนินการบูรณะจนเสร็จและตั้งชื่อว่า วัดพรหมจารีย์ ต่อมาชาวบ้านเรียกว่า วัดน้องสาว จนปัจจุบันเพี้ยนมาเป็น วัดนางสาว

    จากตลาดริมคลองอำแพงไปวัดนางสาวไม่ต้องย้อนกลับออกมาถนนพระราม 2 แล้ว ตรงไปตามเส้นทางคันพนังเหมือนเดิมไปบรรจบกับทางหลวงสมุทรสาคร 4011 บรรจบถนนเศรษฐกิจ ถึงสามแยกเลี้ยวซ้ายที่ทางหลวงหมายเลข 3091 จะมีแยกทางเข้าวัดนางสาว


    ออกจากวัดนางสาวย้อนออกมาที่ทางหลวงหมายเลข 3091 เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกหน่อยจะมีแยกทางเข้าวัดท่าไม้ เป็นวัดที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายอย่างรวดเร็ว จากสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่ท้ายรถที่เราเห็นบนถนนจนเกิดความสงสัยว่าทำไมถึงได้มีรถจำนวนมากติดสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้อยู่หลังรถ ก็เพราะว่าสติ๊กเกอร์นี้หลวงพ่อท่านได้ทำการปลุกเสกให้ติดรถเวลาเดินทางเป็นสิริมงคลคุ้มครองตัวถ้าใครได้ไปเอาสติ๊กเกอร์นี้ด้วยตนเองที่วัดจะรู้ว่าที่แท้หลวงพ่อได้สอนว่า ให้ช่วยเหลือรถที่ติดสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้ด้วยกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน เอื้อเฟื้อกัน เป็นกุศโลบายว่า หากเจอสติ๊กเกอร์นี้ก็จะได้ขับอย่างมีสติไม่ปาดหน้ากัน หรือด่ากัน โมโหกัน จนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ นั่นเอง ภายในวัดท่าไม้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างได้แก่พระโพธิสัตว์กวนอิม พระราหู พระพุทธรูปทรงเครื่อง และตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการสร้างอุโบสถหลังใหญ่อีกด้วย


    จบตามเส้นทางขับรถเที่ยวแบบนี้แล้ว เป็นยังไงบ้างครับ เพิ่มเติม ตัดทอน บางส่วนบางตอนตามอัธยาศัย ได้เห็นของดี ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสมุทรสาครชนิดครบเครื่องเลยทีเดียว ส่วนที่อื่นๆ ก็ยังมีอีกมากที่ไม่ได้เอ่ยถึง ก็แค่นี้เชื่อว่าก็น่าจะเต็มอิ่มจุใจแล้วละสำหรับทริปง่ายๆ วันหยุดแบบไม่ต้องไปไหนไกลๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 01:35:31 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เส้นทางขับรถเที่ยวสมุทรสงคราม เอาละครับคราวนี้ขับรถเที่ยวภาคกลางก็คงจะเป็นจังหวัดอื่นไปไม่ได้นอกจากสมุทรสงคราม อันเนื่องจากจังหวัดนี้อยู่ติดกับสมุทรสาครจนครั้งหนึ่งเคยมีความคิดที่จะรวมเป็นจังหวัดเดียวกันมาแล้ว จังหวัดสมุทรสงครามเป็นจังหวัดเล็กๆ มักเรียกชื่อว่าแม่กลองมากกว่าสมุทรสงคราม มีขนาด 3 อำเภอ แต่กลับเป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายมากกว่าจังหวัดขนาดใหญ่บางจังหวัดเสียอีก ส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีวัดกว่า 100 แห่ง เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกือบทั้งหมด แต่ละวัดก็มีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป ส่วนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากอีกอย่างก็คือ ตลาดน้ำ ที่รู้จักกันดีคือตลาดน้ำอัมพวา แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปในรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวในแม่กลอง เรามาตามเส้นทางขับรถเที่ยวภาคกลาง ของคาราวานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก่อนดีกว่าครับ

    จากโรงงานพันท้ายนรสิงห์ เราเข้ามาในจังหวัดสมุทรสงครามกับสถานที่ที่ชื่อว่า ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับ ที่นี่มีอะไรน่าสนใจน่ะหรือ ก็เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของชุมชน ส่วนใหญ่เป็นอาหารแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นของคาวของหวาน อาที หอยดอง ที่ขึ้นชื่อและรู้จักกันมานาน กะปิ ก็มี ปลาชนิดต่างๆ กล้วยทอด ขนมผิง ข้าวตัง หมี่กรอบ น้ำตาลมะพร้าว ดอกเกลือ มาจนถึงมะระขึ้นกที่ว่าขมสุดชีวิตเอามาทำให้หวานได้ การแกะสลักมะละกอประดับจานเป็นผีเสื้อ เป็นดอกไม้ ด้วยมีดทำครัวธรรมดาๆ ไม่ต้องใช้มีดแกะสลักก็มีให้เห็นที่บ้านบางพลับนี่เอง

    ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มหาวิชชาลัยภูมิปัญญาท้องถิ่น ตั้งชื่อนี้ขึ้นมาโดยนายสมทรง แสงตะวัน ผู้ก่อตั้งศูนย์ ด้วยการนำเอาวิชาความรู้ต่างๆ มาถ่ายทอดกันระหว่างหมู่สมาชิก และรักษาเอาไว้ซึ่งภูมิปัญญาของคนรุ่นเก่าก่อน นำมาประกอบอาชีพเลี้ยงตัวได้อย่างทุกวันนี้ตามแนวหลักการเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

    เมื่อมาถึงศูนย์ นายสมทรง จะเชิญเข้าฟังบรรยายประวัติความเป็นมาของศูนย์แห่งนี้รวมทั้งพาไปชมกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางจำหน่ายในศูนย์เท่าที่เวลาจะอำนวย จากนั้นก็เลือกซื้อสินค้าของฝากจากศูนย์ตามอัธยาศัย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 10:53:41 AM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ถ้าถามว่าศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านบางพลับอยู่แถวไหน บอกได้เลยครับว่าไม่ไกลจากอุทยานร.๒ มากนัก ดูในแผนที่นี้เลยครับ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
ต่อจากนั้นคณะคาราวานก็ได้เข้าไปนั่งชมคอนเสิร์ตสุนทราภรณ์เล็กๆ ที่จัดขึ้นในบริเวณอุทยาน ร.๒ คนรักสุนทราภรณ์ออกมาลีลาศกันดูสนุกสนาน ตอนนี้เราก็จะได้เห็นว่า แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่หัวใจคนรักดนตรีสุนทราภรณ์ก็ยังคงอยู่ ไม่เฉพาะคนอายุมากๆ เท่านั้นที่มานั่งฟังเพลง ย้อนลงมาวัยหนุ่มสาว วัยรุ่น จนถึงวัยเด็กก็ยังมี คนรุ่นใหม่มาขับร้องเพลงสุนทราภรณ์น่าปลื่้มใจจริงๆ ภายในงานมีการเปิดร้านขายสินค้าทั้งของกินของที่ระลึก มีอาหารขึ้นชื่อเมืองแม่กลองต้อนรับคณะคาราวาน จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากปลาทูแม่กลอง มาให้เพียบเลยครับ

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
จบงานเดินทางเข้าพักที่บ้านทิพย์สวนทองรีสอร์ท บ้านพักบรรยากาศดีริมแม่น้ำ กว้างใหญ่แต่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ห่างจากอุทยาน ร.๒ เพียงไม่ถึง 3 กิโลเมตร ตื่นแต่เช้าขึ้นมาทำบุญตักบาตรทางเรือ ได้ภาพบรรยากาศสุดฟิน อิ่มบุญไปตามๆ กัน

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
นอกเหนือจากนี้ แม่กลองหรือสมุทรสงครามยังมีที่เที่ยวอะไรอีกบ้างดูตามตัวอย่างเส้นทางขับรถเที่ยวแม่กลองหรือสมุทรสงครามกันเลยครับ

แผนที่ท่องเที่ยวสมุทรสงครามตามภาพเลยครับ มีภาพขยายโซนอัมพวาด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 18, 2014, 03:53:33 PM โดย admin »

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,661
  • คะแนน: +1/-0
เส้นทางขับรถเที่ยวสมุทรสงคราม


จากสมุทรสาครใช้ถนนพระราม ๒ มุ่งหน้าสมุทรสงคราม หากว่ากันตามเส้นทางเอาสะดวกแบบไม่ย้อนไปย้อนมา ควรจะแวะเข้าทางแยกซ้ายมือไปดอนหอยหลอดแหล่งอาหารทะเลขึ้นชื่อ ก่อนถึงดอนหอยหลอดแวะชมโบสถ์ไม้สักฝังมุกทั้งหลังที่วัดศรัทธาธรรม แล้วไปสักการะศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลหลายร้านที่นี่ แล้วยังมีอุทยานธรรมศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่ที่สร้างขึ้นมาใหม่ ภายในมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่ทวด สมเด็จโต รูปเหมือนของพระอริยสงฆ์ทั่วประเทศ พระราหู

แต่ถ้าอยากจะชมพระอาทิตย์ตกที่ดอนหอยหลอดจริงๆ ละก็ เราแนะนำว่าลองเปลี่ยนเวลาออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มาให้ถึงก่อนค่ำ เที่ยวดอนหอยหลอดแล้วไปค้างที่อัมพวา ได้อย่างนี้ก็สุดยอดเลยครับ


ลำดับต่อไปเดินทางจากดอนหอยหลอดเข้าเมืองแม่กลอง
เข้ามาในตัวเมืองคงจะต้องหาอะไรทำก่อนครับ สิ่งที่น่าสนใจในเมืองมีตลาดร่มหุบ กับไปสักการะหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ถ้าอยากได้รูปตอนรถไฟแล่นก็ลองกะเวลาให้ได้ตามตารางเดินรถครับ
ตารางเดินรถสถานีรถไฟแม่กลอง (โทรศัพท์     034-711-906)
เวลาเที่ยวแรกออกเวลา         06.20 น.
เวลาเที่ยวสองออกเวลา         09.00 น.
เวลาเที่ยวสามออกเวลา         11.30 น.
เวลาเที่ยวสุดท้าย ออกเวลา     15.30 น.

เวลารถไฟเข้า
เวลาเที่ยวแรกเข้าเวลา         08.30 น.
เวลาเที่ยวสองเข้าเวลา         11.10 น.
เวลาเที่ยวสามเข้าเวลา         14.30 น.
เวลาเที่ยวสุดท้าย เข้าเวลา     17.40 น.


จากตลาดรถไฟก็ไปตามเส้นทางเข้าวัดเพชรสมุทรหรือวัดบ้านแหลม สักการะพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ทำให้หลายคนสับสน นึกว่าอยู่สมุทรสาครบ้าง เพชรบุรีบ้าง เพราะบ้านแหลมได้ยินว่ามีอยู่หลายแห่งเหมือนกัน

ออกจากวัดบ้านแหลมเจอสี่แยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายไปทางอัมพวา ระหว่างทางพอข้ามสะพานเสร็จจะเห็นวัดใหญ่ๆ สวยๆ อยู่ซ้ายมือ นั่นคือวัดช่องลม มีการสร้างหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ขึ้นที่นี่ เหมาะที่จะแวะสักการะขอพรหลวงปู่ทวดเพื่อให้เดินทางตลอดปลอดภัย

ตรงไปตามทางเรื่อยๆ วัดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของสมุทรสงครามก็คือวัดบางกะพ้อม ด้วยเมตตาธรรมของหลวงปู่คง เหล่าบรรดาศิษย์และชาวบ้านที่ศรัทธาได้สร้างรูปเหมือนหลวงปู่คงไว้ให้ลูกหลานได้กราบไหว้บูชา

จากนั้นไปอีกเรื่อยๆ เจอสามแยกที่จะเลี้ยวเข้าอัมพวาแต่ดูจากเวลาแล้วน่าจะเพิ่งเที่ยง (ถ้าขับตามโปรแกรมนี้หรือถ้าช้าเร็วต่างกันสักหน่อยก็ยังคงบ่ายกว่าๆ) เข้าอัมพวาตอนนี้ยังเร็วไป ตรงไปอีกสักหน่อย เห็นป้ายวัดจุฬามณีให้หาที่กลับรถ พอกลับรถเลี้ยวเข้าวัดจุฬามณีแล้วตรงเข้าไปในวัดจะได้พบกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมอีกแห่งหนึ่งของแม่กลอง

ออกจากวัดจุฬามณีกลับมาที่สามแยกเข้าอัมพวา เลี้ยวขวาคราวนี้ก็ตรงไปที่อัมพวา หากเวลาเหลือๆ ตรงไปอีกหน่อยไปจอดรถที่วัดอัมพวันเจติยาราม เดินเที่ยวอุทยาน ร.๒ แล้วค่อยเดินวกกลับมาที่ตลาดน้ำอัมพวา

จบ 1 วันอย่างมีความสุขชนิดอื่มหนำสำราญเบิกบานบุญ เพราะเที่ยวทั้งธรรมชาติ ไหว้พระทำบุญแล้วยังได้เดินตลาดดังอย่างอัมพวาอีกด้วย นี่เป็นเพียงแค่เส้นทางตัวอย่างแบบง่ายๆ ในการเที่ยวสมุทรสงครามเท่านั้น ความจริงแล้วสถานที่ท่องเที่ยวในสมุทรสงครามมีเยอะมาก หากเอามาเขียนเป็นเส้นทางขับรถเที่ยวแบบวันเดียวกลับ คงได้ไม่ต่ำกว่า 3 เส้นทางเป็นแน่ แต่ถ้ามีเวลาสัก 2 วัน 1 คืน แบบนี้ละก็ยิ่งเที่ยวสนุกเข้าไปใหญ่ ไว้โอกาสหน้าเราจะมาแนะนำเส้นทางใหม่ๆ ให้อีกนะครับ

จบการเดินทางคาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง ตอนที่ 1 โปรดติดตามต่อตอนที่ 2 รับประกันว่าเนื้อหาละเอียดเข้มข้นตามสไตล์ทัวร์ออนไทยไม่แพ้ตอนแรกอย่างแน่นอนครับ
คาราวานขับรถเที่ยวภาคกลาง 19 จังหวัด ตอนที่ 2
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 28, 2014, 03:47:54 PM โดย admin »