17.45 น. เราเดินพ้นป่าที่รกทึบ มาถึงช่วงสุดท้ายของการเดินทาง เป็นป่าโปร่ง ทำให้เราสบายใจได้มากขึ้นเพราะอย่างน้อยก็ไม่น่ากลัว เสียงคนคุยกันเฮฮา สนุกสนาน ดังขึ้นเรื่อยๆ
ไชโย จะถึงแล้วเว้ย ตามป่าหญ้ามีทางเดินที่เห็นได้ชัด แสงสลัวๆ แต่อย่างน้อยก็มองเห็น เส้นทางเดินพาเรามาถึงลานกางเต็นท์จนได้ เฮ้อ น้ำที่พกมา 2 ขวด เหลือติดก้นขวดนิดหน่อยแล้วก็ถูกผมยกขึ้นดื่มจนหมด ผมนั่งลงตรงผ้าใบที่ปูรอผมอยู่ คนอื่นๆ ก็เริ่มลงมาจากยอดดอย เพื่อเตรียมตัวกินข้าว
ขอบคุณพี่แกละและลูกหาบ ที่ทำกับข้าวรอพวกเราอยู่ หากเตรียมมาเองก็คงมีคนที่อดขึ้นไปชมวิวและเตรียมหุงหาอาหาร ส่วนจะรอผมมาทำก็คงหิวแย่เพราะเดินช้ากว่าใคร โชคดีที่่มีพี่แกละ
ทันทีที่พี่แกละเห็นผมแกก็บอกว่า
ผมว่าแล้วว่าต้องมาถึง 6 โมงเย็น 555
เป็นแบบนี้ทุกดอยครับ ผมตอบเรียบๆ เพราะรู้ว่าตัวเองเดินช้ากว่าใครในกลุ่มทุกครั้งที่ออกทริปเดินป่า ในกลุ่มเรามี 2 คนที่ยังคงนั่งเล่นอยู่ที่เต็นท์ เพราะคิดว่าจะเดินต่อให้ถึงยอดดอยเพื่อชมวิวคงไม่ไหวแน่ ส่วนอีก 3 คน ลงมาสมทบกับเราพร้อมกับอวดรูปว่าบนยอดดอยเชียงดาวนั้นได้ภาพวิวสวยมาก ผมก็ได้แต่อิจฉา ทำไงได้ละ
พอฟ้ามืดลง พี่แกละทำอาหารเสร็จพอดี เมนูอาหารอร่อยทุกเมนู มีดีที่พี่แกเตรียมไว้ให้แบบเติมไม่อั้น อาหารเย็นวันแรกก็มีไข่เจียว ต้มยำไก่ กระเพราหมู กินไปอันไหนหมดไปครึ่งจานพี่แกจะรีบเอามาเติมให้เต็มจานอยู่ตลอด เป็นความประทับใจแบบสุดๆ จริงๆ ครับ
พี่แกละเป็นคนใจดีมาก อารมณ์ดี มีมุกให้เราได้หัวเราะกันอยู่ตลอด มีความรู้เรื่องดอกไม้บนดอยหลวงเชียงดาวเป็นอย่างดี เป็นคนที่ได้ออกรายการเกมพันหน้า เป็นผู้พาดาราหลายคนขึ้นมาทำรายการเกี่ยวกับดอยเชียงดาวอยู่เสมอๆ