ผู้เขียน หัวข้อ: CountDown++รับลมหนาวที่ดอยม่อนแจ่ม >>ไปกับเรา trip หยิบหมอก หยอกตะวัน ม่อนแจ่ม^^  (อ่าน 6222 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ tourinthailand

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
  • คะแนน: +0/-0
 :o :oหยิบหมอก หยอกตะวัน ม่อนแจ่ม :o :o
เดินทางวันที่ 30 ธ.ค.54 - 3  ม.ค.55
[size=18pt]ขุนช่างเคี่ยน - ดอยม่อนแจ่ม – ถนนคนเดินท่าแพ – มหกรรมพืชสวนโลก - ดอยสุเทพ พระธาตุนภเมทนีดล-พระธาตุนภพลภูมิสิริ-พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ[/size][/color]
วันแรก     กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
18.00 น.   พร้อมกัน ณ จุดนัดพบ เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก นำท่านเดินทางสู่จังหวัดเชียงใหม่
         ระหว่างทางบริการอาหารและเครื่องดื่ม (มื้อที่ 1)
วันที่สอง         ชมซากุระขุนช่างเคี่ยน-พระธาตุดอยสุเทพ-มหากรรมพืชสวนโลก- ปีใหม่ Count Down
06.00 น.   อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พร้อมบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร  บีพี  เชียงใหม่  (มื้อที่ 2)
07.00    นำท่านเดินทางไปชมซากุระเมืองไทย หรือ ดอกพญาเสือโคร่งที่ขุนช่างเคี่ยน หรือสถานีวิจัย
และศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน เป็นสถานีวิจัยเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์กาแฟ ไม้ผลเมืองหนาว และไม้ผลกึ่งร้อนทุกๆ ปีของหน้าหนาวช่วงเดือนมกราคมต้นนางพญาเสือโคร่งหรือที่เรียกกันว่าซากุระเมืองไทยสีชมพูสดบานสะพรั่ง บนยอดดอยสีชมพูของต้นนางพญาเสือโคร่งสีสันงดงาม
10.00 น.   ขอพรพระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุประจำปีเกิด (ปีมะแม) พระบรมธาตุนี้ได้ทำปาฏิหาริย์แยกเป็นสององค์ องค์หนึ่งประดิษฐานที่วัดบุปผาราม อีกองค์หนึ่งพญากือนา ได้อาราธนาสถิตเหนือช้างมงคล เพื่อเสี่ยงทายที่ประดิษฐาน ช้างมงคลเดินขึ้นมาถึงยอดดอยสุเทพ แล้วร้องสามครั้งทำทักษิณาวรรตสามรอบและส้ม (ตาย) ลง ภายหลังอัญเชิญพระบรมธาตุลงมา พญากือนาให้ขุดหลุมประดิษฐานพระบรมธาตุและก่อพระเจดีย์สูง ๕ วา ต่อมา สมัยพระเจ้าเกศเกล้า ได้ก่อเป็นพระเจดีย์สูงใหญ่สีทอง เช่นทุกวันนี้ มีความเชื่อว่าหากบูชาพระธาตุ ในทิศทั้งสี่แล้วจะทำให้มีสติปัญญาดี สมัยก่อนในวันวิสาขบูชามีประเพณีการขึ้นพระธาตุ โดยชาวบ้าน จะเดินลัดเลาะป่าขึ้นสู่องค์พระ
11.00 น.   บริการอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
12.00 น.   นำท่านชมงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ ชมสวนพันธุ์ไม้จากประเทศต่างๆ มากกว่า 30 ประเทศและชมนิทรรศการใต้ร่มพระบารมี ๘๔ พรรษามหาราชา พระราชกรณียกิจด้านการเกษตร พระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ  ที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ เละชมกระเช้าราชพฤกษ์ลอยฟ้า Giant Flora Wheel สูงกว่า 40  เมตร  เมื่อขึ้นไปแล้วสามารถ ชมทิวทัศน์ภายในบริเวณงานได้ทั้งหมดและชมความอันงามตระการตา และเก็บภาพอันงดงาม  สวนแสงแห่งจินตนาการ Imagination Light Gardens    โดยเนรมิตดวงไฟนับล้านดวงกับผีเสื้อเรืองแสงเต้นรำอิสระตามอัธยาศัย
18.00 น.   บริการอาหารเย็นแบบขันโตกดินเนอร์ (มื้อที่ 3) ให้ท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรมปาร์ตี้ไนท์         สไตล์ล้านนา ร่วมปล่อยโคมลอยฟ้า เพื่อนำเอาสิ่งไม่ดีไปจากตัวตามความเชื่อของชนเผ่าม้ง
วันที่สาม    ดอยอินทนนท์–พระธาตุนภเมนีดล-พระธาตุนภพภูมิสิริ--พิพิธภัณฑ์พระพิฆเณศวร
เช้า   เดินทางสู่ดอยอินทนนท์ ไหว้สาพระสถูปของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ บนยอดสูงสุดของดอยอินทนนท์แล้ว ทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา เนื่องจากอากาศหนาวเย็นและชุ่มชื้น ต้นไม้จึงเต็มไปด้วยมอสและเฟิร์นชนิดต่างๆห่อหุ้มเต็มต้น เหมือนกับต้นไม้ห่มผ้า ทำให้สภาพป่าคล้ายกับป่าโลกล้านปี นอกจากนั้นยังสามารถเห็นนกพันธุ์หายากที่อาศัยอยู่บนที่สูง พรุน้ำจืดที่สูงที่สุดและพรรณไม้แปลกๆ ไม่ว่าจะเป็นกุหลาบพันปีหรือมอสที่ใหญ่ที่สุดของโลก เช่น ข้าวตอกฤาษีขึ้นอยู่หนาแน่น
09.00 น   แวะนมัสการ พระธาตุเจดีย์คู่ พระธาตุเจดีย์นภเมทนีดลและพระธาตุนภพภูมิสิริ ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนดอยอินทนนท์ สร้างขึ้นเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถเนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เชิญท่านสักการะจากนั้นชมทิวทัศน์อันงดงามของบริเวณรอบๆองค์พระธาตุ 
12.00 น.   บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร (มื้อที่ 5)
13.30 น.   เยือนโครงการหลวงพระราชดำริ ซึ่งเป็นสถานีวิจัย ไม้ดอกและไม้ผลเมืองหนาว จากนั้น เยี่ยมหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง ซึ่งดำรงชีวิตด้วยการเพาะปลูกพืชผักในโครงการหลวงขาย
15.00 น.   สักการะพระธาตุจอมทอง เป็นพระธาตุประจำปีชวด ซึ่งประดิษฐาน “พระทิกขิณโมฬีธาตุ” (คือกระดูกกระหม่อมด้านขวา) มีลักษณะเจดีย์แบบสถาปัตยกรรมล้านนาน พระธาตุจอมทองนี้มีความพิเศษกว่าพระธาตุทุกองค์ คือพระบรมธาตุเพียงแห่งเดียวที่สามารถสักการะและสรงน้ำได้โดยตรงและเห็นองค์พระบรมสารีริกธาตุ
16.30 น.   พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ ชมพระพิฆเนศปางต่างๆ มีเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ฯ เป็นผู้ให้ความรู้
19.00 น.   นำท่านสมาชิกแวะชิมอาหารอร่อยๆ แบบทัวร์ไม่เคยพามาชิม  ณ ห้องอาหารห้อยขา ให้ท่านสัมผัส
   ร้านอาหารพื้นเมืองล้านนา นั่งห้อยขา (มื้อที่ 6) รับประทานอาหารด้วยบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ลองลิ้มชิมอาหารรสเลิศ ท่ามกลางแสงดาวระยิบระยับ 
           (เฉพาะ ท่านที่พักภูอิงฟ้า  ทานอาหารเย็นที่ภูอิงฟ้า  แล้วเข้าที่พัก ไม่สามารถไปถนนคนเดินได้)
20.00 น.    อิสระสำหรับท่านที่สนใจจะช้อปปิ้ง ตลาดไนท์พลาซ่าเชียงใหม่ เลือกชมและซื้อสินค้าพื้นเมืองขึ้นชื่อที่ กาดคนเดิน หรือหากคณะเดินทางไปช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ นำท่านไปเดินเล่นถนนคนเดินซึ่งมีจัดเฉพาะ 2 วันนี้เท่านั้น คือ วันเสาร์-ถนนคนเดินวัวลาย ตลาดนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ขายของพื้นเมือง สินค้าทำมือผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกและของแต่งบ้านมากมาย วันอาทิตย์-ถนนคนเดินประตูท่าแพ ชาวต่างชาติรู้จักถนนเส้นนี้ในนาม Sunday market ล้อมรอบด้วยคูเมือง ขายของพื้นเมือง เช่นกัน อิสระเชิญท่านเลือกซื้อของฝากเป็นที่ระลึกตามอัธยาศัย หรือท่านใดจะเข้าที่พัก พักผ่อนก็เชิญตามอัธยาศัย คืนนี้หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์
หมายเหตุ  เฉพาะท่านที่พัก BP เชียงใหม่เท่านั้น  ที่ท่านจะได้ เดินถนนคนเดินที่ท่าแพ
วันที่สี่       ดอยม่อนแจ่ม-สวนพฤกษศาสตร์ – โครงการหลวงหนองหอย-ไร่สตอร์เบอร์รี่
07.00 น.   อรุณสวัสดิ์ยามเช้า พร้อมบริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร  (มื้อที่ 7)
08.00 น.   ชมบรรยากาศพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ ดอยม่อนแจ่ม รับประทานอาหารอร่อยๆ  ผักสดๆ จากโครงการหลวง ดื่มด่ำบรรยากาศท่ามกลางกลิ่นไอของสายหมอก ชมดาวระยับระยับยามค่ำคืน  ร่วมกิจกรรมปล่อยโคมลอยฟ้า เพื่อนำเอาสิ่งไม่ดีไปจากตัวตามความเชื่อของชนเผ่าม้ง
10.00 น.   นำท่านชมไร่สตอร์เบอรี่ เป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รี่ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ซึ่งเป็นสตอร์
เบอร์รี่พันธุ์ดี และมีคุณภาพดีที่สุด ให้ท่านได้  เด็ด ชิม ในไร่กันอย่างสดๆ ตามอัธยาศัย
11.00 น.   ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในมีแปลงผักและงานวิจัยผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการ ปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระตูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ ให้ได้ชื่นชม   
12.00 น.   บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร (มื้อที่ 8)
13.00 น.   ชมสวนพฤกษศาสตร์ ชมสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ รวมพันธุ์ไม้ทั้งในและต่างประเทศ จุดที่แวะชมได้ คือ อาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ ขนาดต่างๆ 12 โรงเรือน รวบรวมพรรณไม้ประเภทต่างๆจากทั่วประเทศมาปลูกแสดงไว้ในโรงเรือน เช่น ไม้ป่าดงดิบ ไม้น้ำ  กล้วยไม้ ไม้แล้ง บัว ไม้ดอกไม้ประดับ บอน ไม้ไทยหายาก ไม้สกุลสัมกุ้ง สมุนไพร  ศูนย์วิจัยพัฒนาสง่า สรรพศรี เป็นศูนย์ข้อมูลวิชาการโดยมีนักพฤกษศาสตร์ประจำอยู่ตลอดเวลา  เรือนพรรณกล้วยไม้ไทยโรงเรือนอนุบาลพรรณไม้ 6.อ่างเก็บน้ำแม่สาวารินทร์ 7.แปลงรวมพันธุ์ไม้ดอกขาว ซึ่งได้จัดปลูกไปแล้วกว่า 120 ชนิด
 14.30 น.   สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับตัวเมืองเชียงใหม่ แวะให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง เพื่อเป็นของฝากกันตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับ                       
18.00 น.   แวะรับประทานอาหารอาหาร ตามอัธยาศัย จ.นครสวรรค์       
19.30 น.   สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับกรุงเทพฯ

อัตราค่าบริการ ท่านละ  5,999  บาท  เด็ก  4,500 บาท  (V.I.P 24 ที่นั่ง เพิ่ม 500 บาท)
อัตรานี้รวม  - ค่าที่พักระดับมาตรฐาน                   -  ค่ารถปรับอากาศ ไป-กลับ 
      - ค่ารถท้องถิ่นท่องเที่ยวตามรายการ    -  ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ตามรายการ
      - ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ                  -  ค่าเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก
      - ค่าประกันเดินทางวงเงิน 1ล้านบาท ค่ารักษาพยาบาลวงเงิน 500,000. บาท (ตามเงื่อนไข)

สำรองที่นั่งได้ที่  คุณปาณิษา  083-8015599, 02-5783998, 029071535 fax 029071534
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2011, 03:44:13 PM โดย tourinthailand »

ออฟไลน์ tourinthailand

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
  • คะแนน: +0/-0
สำรองที่นั่งได้เรยนะคะ ที่นั่งใกล้จาเต็มแล้วค่ะ  :D :D

ออฟไลน์ kitty11

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
  • คะแนน: +0/-0
น่าสนใจค่ะราคาก็ไม่แพงเท่าใหร่ ที่เต็มยังค่ะ บางครั้งเราไปเที่ยวเองยังไปไม่ครบเลย เพราะเชียงใหม่ที่เที่ยวเยอะมากๆ ปลายปีลองแวะที่เีที่ยงแห่งใหม่นี้ด้วยนะค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่

ออฟไลน์ davidross

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 7
  • คะแนน: +0/-0
ม่อนแจ่ม เพิ่งไปมาครับ หมอกลง ยังดีที่ฟ้าเปิด แดดออก สวยมากครับ
hitzmovie.com – ดูหนังชนโรง หนังออนไลน์
landforkids.com - ร้านขายส่งเสื้อผ้าเด็กจากเกาหลี