ผู้เขียน หัวข้อ: ล่องใต้ ภาค ๓  (อ่าน 36846 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 01:31:42 PM »

ติด CPL  แล้วฟ้ามันแจ่ม ได้ใจจริงๆ

นอกรอบหน่อยนะพี่ทอม ในตัวเมืองหาดใหญ่ตอนนี้ 
เอาสายไฟฟ้าลงงดินหมดหรือยังครับ เห็นโครงการนี้เค้าทำมาหลายปีแล้วไม่รู้ว่าสำเร็จหรือเปล่า
พอดีได้ข่าวว่า กทม.ก็จะทำเหมือนกัน

ตอนนี้เห็นป้ายประกาศโฆษณาว่าจะเอาลงดินอยู่แต่ที่เห็นก็มีสายไฟเยอะอยู่ครับ

เล่าต่อเลย เข้าสถาบันทักษินคดีศึกษา จ่าย 50 บาท แล้วขึ้นไปข้างบน มีอาศรมศิลปกรรมทักษิน มีการอบรมถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงบนนี้ด้วยแต่ไม่ใช่วันนี้ อาศรมสวยครับ แต่วิวยังไม่เหมาะกับเวลาที่ไปแดดแรงจนความชัดของสีภาพควบคุมได้ยาก
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 01:42:14 PM »
แล้วก็ขับขึ้นไปอีกหน่อยเสียตังค์ 50 บาทแล้วต้องเอาให้คุ้ม
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 01:46:07 PM »
เดินรอบๆ ดูแล้วแต่ในอาคารไม่เปิดให้เข้าชม ไม่รู้ว่าเปิดกี่โมง แต่ก็คงต้องกลับแล้วเวลามีน้อย
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 01:51:58 PM »
ออกมาจากสถาบันกลับรถใต้สะพานเข้าสงขลาแวะนมัสการพระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่วัดแหลมพ้อ (ปกติเข้าสงขลาจะเห็นพระนอนองค์นี้อยู่ข้างทางก่อนขึ้นสะพาน) จากนั้นตรงดิ่งไปทำงานที่หาดใหญ่เหมือนเดิม รอเวลาเหมาะจะออกมาตระเวนแล้วเล่าให้ฟังกันต่อไปครับ
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 01:57:04 PM »
ลืมไปเลยครับ ที่วัดแห่งนี้กำลังสร้างพระระเบียงคตรอบองค์พระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ตั้งใจสร้างให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก็เลยทำบุญร่วมไป 1oo บาท อยากให้คนที่สนใจผ่านไปไปร่วมทำบุญกันครับ
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 02:59:26 PM »
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 03:21:04 PM »
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ

ความยาวขององค์พระ เท่าที่ "วัดพระสุโทนมงคลคีรี" ป่าวพี่ทอม  หรือใหญ่กว่าครับ

สวยงานครับองค์พระ ศิลปะไทยสวยเลิศล้ำจริงๆ

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 03:27:19 PM »
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ

ความยาวขององค์พระ เท่าที่ "วัดพระสุโทนมงคลคีรี" ป่าวพี่ทอม  หรือใหญ่กว่าครับ

สวยงานครับองค์พระ ศิลปะไทยสวยเลิศล้ำจริงๆ

ความยาวขององค์พระนั้นไม่อาจเทียบกับวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีได้ครับ ที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาเพื่่อให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้น ต้องระบุด้วยว่าเป็นปางปรินิพานที่ใหญ่ที่สุดครับ เมื่อกี้ก็ลองเข้าไปดูภาพวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีมาเพราะไม่แน่ใจว่าสร้างเป็นปางอะไร (ตัวเองถ่ายเองลืมเองอะ) ปรากฎว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ครับ ตอนที่วางแผนไปเกาะยอและวัดแหลมพ้อยังคิดอยู่เลยว่าจะได้ภาพสวยหรือเปล่ากลัวย้อนแสง แต่พอไปถ่ายจริงก็ได้ภาพที่สวยถูกใจคนถ่ายมากเลยครับ โชคดีไป สำหรับเรื่องเล่าเช้าพรุ่งนี้ของดนะครับเพราะต้องทำงานตั้งแต่เช้า (น่าเสียดาย) ส่วนวันงานชักพระกะว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  >:(

สู้ต่อไปไอ้มดแดง 5555  8)
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Tommy

  • Global Moderator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,577
  • คะแนน: +3/-1
  • รักเมืองไทย เที่ยวเมืองไทย
    • ทัวร์ออนไทยดอทคอม
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 03:54:05 PM »
ประจวบคีรีขันธุ์ เป็นสถานีต่อมาที่ได้จอด ตอนกินข้าวเที่ยง ไปหากินริมทะเลที่ร้านรับลมเหมือนทริปที่แล้ว ถ่ายอ่าวประจวบ นิดหน่อย ระหว่างทางฝนตกตลอด แต่ไม่หนัก

ที่รูปมีน้ำเกาะหน้าเลนท์ นะพี่  สวยๆ ครับฟ้าเมืองไทย

ขออภัยที่บอกว่าขนผ้าเกาะ CPL ครับ ที่จริงดูจากอาการแล้วน่าจะเกาะอยู่ที่ เซ็นเซอร์ มากกว่าเพราะเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งที่พระจุฑาธุชราชฐานเกาะสีชัง คืนนี้ต้องเปิดเซ็นเซอร์เช็ด แต่ไม่ได้เอาปากกาเช็ดเซ็นเซอร์มาด้วย งานเข้าแล้วละทีนี้ เฮ้อ  :'(
เที่ยวเมืองไทยกระจายรายได้สู่ชุมชน

ออฟไลน์ Puripatt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 691
  • คะแนน: +2/-1
Re: ล่องใต้ ภาค ๓
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 03:58:24 PM »
บันทึกกันลืมครับ วัดแหลมพ้อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2330 ในสมัยรัชกาลที่ ๓ หลังจากนั้นเมื่อประมาณปีพ.ศ. 2360 สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสทางน้ำขึ้นที่ท่าเรือวัดแหลมพ้อ สถาปัตยกรรมที่นับเป็นปูชนียสถานที่สำคัญของวัดคืออุโบสถ ซึ่งสร้างในสมัียนั้น ลวดลายหน้าบันด้านหน้า มีช้างสามเศียร หน้าบันด้านหลังเป็นครุฑยุดนาค มีโปรยทานซึ่งพระเจ้าแผ่นดินในสมัยก่อนจะโปรยเงินทองแก่ประชาชนเมื่อเสด็จวัดต่างๆ พระสถูปเจดีย์องค์แรกก็เป็นปูชนียสถานเก่าแก่ของวัด โดยพระอุโบสถและพระสถูปเจดีย์ได้ขึ้นกับกรมศิลปากรแล้ัว เจ้าอาวาสวัดรูปแรกๆ ได้แก่สมเด็จเจ้าเกาะยอ เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่ทวด และสมเด็จเจ้าเกาะใหญ่ ปัจจุบันมีรูปท่านในวิหารหน้าพระพุทธรูปปางปรินิพาน

พระบาทพระพุทธรูปปางปรินิพานมีลวดลายภาพศิลปะ

ข้อมูลจากเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันครับ

ความยาวขององค์พระ เท่าที่ "วัดพระสุโทนมงคลคีรี" ป่าวพี่ทอม  หรือใหญ่กว่าครับ

สวยงานครับองค์พระ ศิลปะไทยสวยเลิศล้ำจริงๆ

ความยาวขององค์พระนั้นไม่อาจเทียบกับวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีได้ครับ ที่ตั้งใจสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นมาเพื่่อให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั้น ต้องระบุด้วยว่าเป็นปางปรินิพานที่ใหญ่ที่สุดครับ เมื่อกี้ก็ลองเข้าไปดูภาพวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีมาเพราะไม่แน่ใจว่าสร้างเป็นปางอะไร (ตัวเองถ่ายเองลืมเองอะ) ปรากฎว่าเป็นพระพุทธไสยาสน์ครับ ตอนที่วางแผนไปเกาะยอและวัดแหลมพ้อยังคิดอยู่เลยว่าจะได้ภาพสวยหรือเปล่ากลัวย้อนแสง แต่พอไปถ่ายจริงก็ได้ภาพที่สวยถูกใจคนถ่ายมากเลยครับ โชคดีไป สำหรับเรื่องเล่าเช้าพรุ่งนี้ของดนะครับเพราะต้องทำงานตั้งแต่เช้า (น่าเสียดาย) ส่วนวันงานชักพระกะว่ายังไงก็ต้องไปให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น  >:(

สู้ต่อไปไอ้มดแดง 5555  8)

สู้ต่อไป ของผมต้องคนนี้ มาร์คไรเดอร์ คาบูโตะ  5555 (นอกเรื่องแล้วเรา)