จังหวัดน่าน เป็นเจ้าภาพ แสดงผลงานและนิทรรศการ 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น หวังสร้างรายได้ในพื้นที่
จังหวัดน่าน ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา เป็นเจ้าภาพภาพและเปิดกิจกรรมแสดงผลงานและนิทรรศการ 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาน่าน โดยมี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดน่านเป็นประธาน เปิดการแสดงผลงานและนิทรรศการ ของ 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (workshop) เพื่อเพิ่มศักยภาพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจแก่ชุมชน ในการกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญ กับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ในพื้นที่ ด้วยการนำภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งส่วนบุคคลและท้องถิ่น นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เชิงพาณิชย์อย่างสร้างสรรค์ และพัฒนาสินค้าหรือบริการในท้องถิ่น ให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน จังหวัดและประเทศชาติ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน
การจัดนิทรรศการและการแสดงผลงาน ผลิตภัณฑ์ชุมชนของเมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มี 10 จังหวัด 10 เมืองต้นแบบนำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาแสดง ได้แก่ จังหวัดชัยนาท เป็นเมืองแหล่งเมล็ดพันธุ์ข้าว (นางลือ-ท่าชัย) จังหวัดเชียงราย เมืองแห่งการพัฒนา(ดอยตุง) จังหวัดเชียงใหม่ เมืองหัตถกรรมสร้างสรรค์ จังหวัดน่าน น่านเมืองเก่าที่มีชีวิต จังหวัดเพชรบุรี เมืองเพชรเมืองตาลโตนด จังหวัดมหาสารคาม เมืองแห่งการเรียนรู้ สู่การพัฒนาชุมชน นำข้าวหอมมะลิ ตักศิลานคร ผ้าไหมทอมือ บ้านหนองเขื่อนช้าง และเสื่อกก จังหวัดยะลา Bird City ศูนย์กลางเศรษฐกิจนก นำกรงนกที่เป็นเอกลักษณ์สร้างจากความคิดสร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมและการออกแบบลวดลายโบราณ มูลค่าราคาเริ่มต้น ตั้งแต่ 6,000 – 100,000 บาท จังหวัดลพบุรี เมืองนวัตกรรมแห่งพลังงานทดแทน นำผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่สกัดจากธรรมชาติ อาทิ น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะพร้าว ข้าวชีวจิต เป็นต้น จังหวัดลำปาง ลำปางเมืองเซรามิก และจังหวัดอ่างทอง ชุมชนเอกราชหมู่บ้านทำกลอง เป็นกลองยาว สืบสานภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษมากว่า 70 ปี ซึ่งทั้งหมดได้นำสินค้าและผลิตภัณฑ์มาแสดงในงานดังกล่าว ส่วนจังหวัดน่าน ได้นำเสนอโครงการ “น่านเมืองเก่าที่มีชีวิต” ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 10 เมืองต้นแบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้วย ทั้งนี้เพื่อเชิดชูเอกลักษณ์ กระตุ้นความตระหนัก สร้างแรงจูงใจให้กับประชาชนในจังหวัด ท้องถิ่นและชุมชนอื่นๆที่เข้าเยี่ยมชมผลงาน เพื่อเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายต่อยอด ผลงานสร้างสรรค์ให้กับคนทั่วประเทศต่อไปในอนาคตด้วย
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
